ไปดูเขาเกี่ยวข้าว (ดูอย่างเดียวจริง ๆ) ตอนที่ 3

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้จะพาไปดูสวนผักของย่าค่ะ ย่าทำนาด้วย ปลูกผักไว้กิน ไว้ขาย เลี้ยงวัว เลี้ยงไก่  ทำเอง ขายเอง แล้วยังรับซื้อจากเพื่อนบ้านเอาไปขายตลาดในเมือง ภายใน 1 อาทิตย์ย่าไปขายเฉพาะช่วงบ่ายวันอาทิตย์วันเดียว เป็นตลาดนัดตอนเย็น ขายกับข้าว พืชผักพื้นบ้าน เน้นให้ปลอดสาร เมื่อก่อนย่าขายที่ รพ. ด้้วย แต่เดี๋ยวนี้ลดลงขายที่เดียว

 

ย่าชอบทำการเกษตรแบบไม่ใช้สารเคมี ย่าจะห้ามไม่ให้ลูกใช้พวกยาเคมีต่าง ๆ แต่ เขาก็ยังใช้กัน ปุ๋ยก็ต้องซื้อใช้  เพราะเขายังไม่เข้าใจในการทำการเกษตรปลอดสาร ยังไม่ตระหนักถึงอันตรายของสารเคมี ไม่ได้สนใจที่จะเรียนรู้การทำเกษตรแผนใหม่ ไม่ใส่ใจในการเรียนรู้ ทั้ง ๆ ที่มีข้อมูลข่าวสารออกมาจากสื่อต่าง ๆ หลาย ๆ ฝ่าย  ทำแบบไร้สารมันยากเฉพาะช่วงที่เริ่มต้นเท่านั้นค่ะ เพราะเราต้องเตรียมการทุกอย่างเอง แต่สารเคมี ซื้อมาแล้วเปิดใช้เลย สะดวก รวดเร็วแต่...ไม่สบาย...(ป่วย)

 

เราต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาซื้อสารเคมีพวกนี้มาทำร้ายตัวเองและคนอื่น ๆ ทำไมคะ ทำไป ขายไป แล้วก็ต้องเอาเงินมารักษาตัวเองอีก...ต้องหันกลับมาทำแบบปลอดสารแล้วล่ะค่ะ...

 

ธนนันท์ทำการเกษตรที่บ้าน เพาะเห็ด ปลูกผัก เลี้ยงปลา กบ ไก่ เป็ด ข้าวก็ไม่ได้ซื้อ ทุกอย่างทำแล้วขายได้ พื้นที่เพียง 1 ไร่เศษ ๆ ยังทำประโยชน์ไม่หมด ยังเหลืออีกค่ะ แต่คนทำไม่ไหวแล้ว เพราะใช้แต่แรงงานตัวเอง คนหนึ่งต้องออกตลาดไปขายของ ของที่บ้าน อีกคนก็ต้องทำงานทุกอย่างในบ้าน ลูก ๆ ก็ต้องไปโรงเรียน ช่วยได้บ้างนิด ๆ หน่อย ๆ งานของเรา บ้านของเรา ทำไม่เสร็จวันนี้ พรุ่งนี้ทำต่อได้ค่ะ

 

ธนนันท์ไม่ได้ซื้อปุ๋ย สารเคมี เข้าบ้าน ใช้น้ำหมักที่ทำเองในการดูแล รักษาผลผลิต ทุกอย่าง คน สัตว์ สิ่งของ

 

แม้แต่ที่บ้านย่าธนนันท์ก็พยายามส่งน้ำหมัก ปุ๋ยหมัก ไปให้ใช้ แต่ก็ไม่ได้มากมายจนถึงกับทดแทนสารเคมี ที่เขาใช้เยอะแยะได้

 

มาปีนี้ น้องชายเจ็บป่วยด้วยอาการแพ้สารเคมี ร่างกายจากที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ กลับผ่ายผอม ซูบ ดำลง ร่างกายอ่อนแรง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร การเจ็บป่วยจากสารเคมี พ่อน้องโต๋ก็เป็นผ่านมาแล้ว จากการทำสวนทุเรียนที่ต้องฉีดยาอย่างหนัก..หน่วง.. จนเลือดเป็นพิษอยู่ในขั้นที่ 3 

 

ธนนันท์ใช้น้ำหมักในการบรรเทาอาการของน้องสามี จนเขารู้สึกดีขึ้นในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 2 อาทิตย์ เดี๋ยวนี้ น้ำหมักหมดต้องโทรมาบอกให้ผสมไปให้ วันที่ไปเกี่ยวข้าวน้องสะใภ้บอกว่า "นึกว่าจะได้ผัวใหม่แล้ว"

ทั้งปู่และย่า ก็มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน ปวดเข่า ฯ สารพัดที่คนสูงอายุที่ทำงานหนักจะเป็นกัน ธนนันท์ก็ทำน้ำหมักให้กิน ก็บรรเทาอาการไปได้ทุกคน หน้าตาสดใสขึ้น ทำงานไม่้หนื่อยง่าย (ก็ทำให้ธนนันท์กับลูก ๆ กินนี่แหละ)

 

นี่แหละคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมธนนันท์ถึงไม่ต้องเกี่ยวข้าวช่วยเขา (ได้อภิสิทธิ์)...เดินผิวปากถ่ายรูปตามสบาย...โดยมีย่าเป็นไกด์..และพรีเซนเตอร์ให้ 

 

 

 

รูปนี้ต้่องเอาขึ้นเปิดรายการ...เท่  (แต่กินไม่ค่อยได้..อ้วน)


 

 

บ่อน้ำ...มีน้ำทำอะไรก็ได้ค่ะ ถ้าไม่มีน้ำ ก็ลำบาก เพราะทุกอย่างต้องอาศัยน้ำแม้ที่บ้านน้ำจะท่วมทุกปี แต่ธนนันท์ก็ไม่เคยรังเกียจหรือกลัวน้ำ ท่วมไม่นานก็ผ่านไป แต่ถ้าไม่มีน้ำ...อดแน่ ๆ 

 

 

นี่เป็นการปกปิดใบหน้าพยานปากเอกค่ะ ต้องใช้เทคนิคพิเศษ โดยตากล้องเงินล้าน...อิอิ

แปลงยังไม่แยกปลูก ผักกาด...อะไรน๊า...คิดไม่ออก..เขียวปลีค่ะ  

 

 

แปลงนี้แยกแล้ว ย่าก็ใช้น้ำหมัก ปุ่ยคอก น้ำส้มควันไม้ ที่อยู่ไกล ๆ ก็แปลงผักค่ะ ปลูกไปเรื่อย ๆ ทุกวัน ขายหน้าถนนใหญ่ หน้าทางเข้าหมู่บ้านมีตลาดชุมชน ขายของป่า เพราะมีป่าชุมชน หลายพันไร่

 


 

ฟักทอง ปลูกรอบแปลงถั่วแปลงนี้เลยค่ะ


 

มะเขือเทศ มะเขือเครือ มะเขือส้ม เดา ๆ เห็นย่าบอกว่าหลายอย่าง

 

 

 

มะเขือเทศ ชัดขึ้นมาอีกหน่อย


 

เดินมาเจอถั่ว อันนี้สงสัยไร้ค้าง เพราะไม่มีค้าง ย่าหนีไปเกี่ยวข้าวแล้ว

 

 

แปลงเพาะกล้ามั๊ง สมรม กระเพราหรือเปล่าน๊า...ลืม

 

 

ถั่วค้างแน่ ๆ เห็นค้างแล้ว ตอบได้  ภาพที่ถ่ายไม่เจาะจงค่ะ เห็นอะไรก็อยากถ่าย ไม่ได้มีเทคนิคอะไรกับเขาหรอกค่ะ ถ่ายกล้องปัญญาอ่อนก็ได้เหมือนกัน 

 

เป็นคนรักพี่เสียดายน้องค่ะ อยากได้ทั้งสองคน เอ้ย...2 อย่าง

 

 

 

ว่างตรงไหนก็ปลูกไปก่อนเลยค่ะ ไม่มีแบบแปลนสวยงาม ตามประสาชาวบ้าน ปลูกไว้กิน ไว้ขาย หนักไปทางขาย หมู่บ้านนี้โชคดีค่ะ มีป่าชุมชน ป่าใหญ่และชาวบ้านหลายบ้านร่วมกันใช้ ร่วมกันรักษา มีกฎ มีระเบียบ มีผู้ควบคุมกฎและก็มีผู้ปฎิบัติตามกฎ เลยเหลือป่าไว้ให้ลูกหลาน เก็บกินเก็บขาย เป็นซุปเปอร์มาเก็ตของหมู่บ้าน  หน้าเห็ดป่าออก ชาวบ้านแถวนี้เขาไม่นอนกันหรอกค่ะ ผัวเก็บกลางคืน 5 ทุ่มก็ออกไปป่าแล้ว ตี 4-5 เข้ามา เมียลุกนึ่งข้าว ก็ออกไปเก็บต่อ รับไม้กันเป็นทอด ๆ  เหมือนนักกีฬาเลยค่ะ เมียเก็บเข้ามา แม่ยายออกไปขายต่อ...น่าน..ช่วยกันทำมาหากินทั้งครอบครัว  ไม่มีอันจะกินให้รู้ไป 

 

 

ว้า...สว่างแล้วค่ะ มัวแต่โม้ เครื่องโหลดช้า ภาพก็ไฟล์ใหญ่ ธนนันท์นอนแต่หัววัน (ได้่รับคำแนะนำจากนักวิชาการเอกของบ้านสวนเรา)  ประมาณ ห้าทุ่ม ทั้งที่เคยนอนตี 1, ตี 2    สองวันนี้เลยตื่นเช้าค่ะ ตี 3  วันนี้ตี4 พรุ่งนี้สงสัยตี 5  แฮ่่...เช้าไปเรื่อย ๆ  

ผักมีเยอะค่ะ แต่แดดร้อนจัด ทางเดินก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ...ธนนันท์ก็เดินไม่ไหวเลยดูได้แค่บ่อเดียว อีก 3 บ่อ เอาไว้ปีหน้าแล้วกันค่ะ ปีละบ่อ อิอิ...

 

ยังไม่หมดนะคะ บล็อกที่ 4 จะตามมาในอีกไม่ช้า  จะพาไปดูไม้ป่า (เดียวกัน) ...รึเปล่า 

 

1 ปี ไปครั้งเดียวต้องเก็บภาพมาให้คุ้มค่ะ หากินได้ 4 บล็อกเลย

                              ..คุ้มมั่กมั่ก...

ความเห็น

ติดดูบล็อกนี้ยาวเลยต้องไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวสาย

 

  รีบไปหน่อย เม้นท์ตอบป้าเล็กลอยขึ้นข้างบนแล้วค่ะ

อ้าว! พนายเรา กำลังโดนประทุษร้ายหรือนี้ ว่าแต่ ถือไปทำอะไร ถุงใหญ่ๆ? 

 

   ผ้าัผูกคอซุปเปอร์แมนค่ะป้าแมว:sweating:

ป้าลัดตามดูแปลงผักของย่า ปลูกไว้หลายอย่างเลยนะคะ งามๆ ทั้งนั้นเลย :cheer3:

 

 

 

:admire2:   ขอบคุณค่ะป้าลัด ชอบที่สวนป้าลัดเหมือนกันค่ะ

ฮือ.....เข้าท่า นี่แหละผลพวงจากการตั้งใจทำเพื่อเราเองก่อนอันดับแรกแล้วก็จะมีต่อๆไป....๑โหวด..

 

 

 

 

                   :admire2::shy::love::love:

                       ขอบคุณค่ะ...พี่ดำ...

ปลูกหลายคัก เป็นตาออนซอนน้อ มีเบิ้ดเอาโลด

 

   สิไปบ้านป้าเล็กบ่...ขั่นได้ไป เจอกันเด้อ..:love:

หน้า