ตามธนนันท์เยือนถิ่น...นครจำปาสัก 2

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ถึงแล้วค่ะ บ้านเพื่อนสนิทพ่อลุง เป็นบุคคลที่อยู่ในสังคมชั้นสูงของเมืองลาว ทริปนี้ธนนันท์โชคดีจริง ๆ ค่ะ ที่พ่อลุงเป็นคนนำทาง และพ่อลุงเป็นคนกว้างขวาง มีมิตรสหายทั่วไปในเมืองไทยและเมืองลาว ใหญ่โตไม่ใช่เล่น...อะไรจะโชคดีขนาดนี้ ธนนันท์ 

 

 

มีทั้งบ้านให้พักฟรีแล้วยังมีรถให้นั่งฟรี...มีแต่สี่ประตูทั้งนั้นเลยค่ะ...จะไปไหนจอดเทียบเลย คนขับพร้อม...ว้าว!...เมืองไทยยังไม่ได้อย่างนี้เลย...เพราะบารมีพ่อลุงนะเนี่ย...ขอบคุณหลายเด้อ!..พ่อลุง...จดจำจนวันตายแลยค่ะ


 

ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นค่ะ...ร้านกาแฟน้องเมียของเพื่อนพ่อลุง อยู่หน้าบ้านค่ะ เลยสะดวกมากในการกินเลี้ยง 

 


 

 ปลาเข้ตัวละ 6 กก. แปลงร่าง มาเป็นต้ม ลาบ ก้อย อะไรอีกบ้าง ก็ไม่รู้ค่ะ เพราะไม่ได้ทำ (ทำพอได้ แต่รสไม่คงที่ ให้คนเก่ง ๆ เขาทำดีกว่า) แล้วขวามือ เป็นย่างกวางค่ะ แล้วชามเนื้อดิบ ๆ อะไรก็ไม่รู้ ธนนันท์เพิ่งจะเห็นตอนอัพรูป มีหมกเนื้อตัว...อะไรน๊า..คิดไม่ออก เป็นสัตว์ป่าค่ะ  ลองชิมดูก็พอกินได้  ธนนันท์ไม่เคยกิน เพราะไม่ชอบกินอาหารแปลก ๆ ที่ไม่เคยกินก็ไม่กิน ไม่ขอลองหรอกค่ะ 

แต่เที่ยวนี้ เขาให้ลองเนื้อกวาง...ธนนันท์...มึนเบียร์มาแต่ช่วงกลางวันแล้ว สารภาพก็ได้ กินมาตั้งแต่ขึ้นรถออกจากช่องเม็ก...จนมาถึงปากเซ มึน ๆ ได้ที่ เลยลองดูเนื้อกวาง หยิบเข้าปากคำเดียว...ไม่กล้าเอาออกค่ะ...รสชาดบอกไม่ถูก...ดึงฟันไม่ขึ้น...จะขึ้นได้ไงคะ...พวกเล่นเอาเนื้อตรงที่มีไขมาให้ลอง งับเข้าไป...บดอยู่ตั้งนาน กว่าจะพอกลืนลงไปได้...ตามด้วยเบียร์ลาวเลยค่ะ...โอ๋ย!...ไม่ลองอีกแล้ว ของแปลก...      

 

                           

 

โอ้!...สงสัยจะยังมึนเบียร์ลาวอยู่ รูปนี้มันกลับหัว ผิดธรรมชาติหรือเปล่าคะ ดูไม่ออก เอาเข้าไปหลายแก้ว...ตาลายแล้วค่ะ 

 

ถือว่าธนนันท์โชคดีนะคะ..เพื่อนของพ่อลุงอีกคนที่โทรคุยกัน ว่าจะให้พ่อลุงไปหา คนนั้นเป็น รมต. ของแขวงค่ะ (ไม่ค่อยโม้)  ติดงานที่ปากช่อง (ของลาว) พอดี ไม่งั้นธนนันท์คงได้จดจำทริปนี้ไปจนตายก็ไม่ลืม..เพราะ เขาคุยกันว่า ถ้าไปถึงจะล้ม สัตว์ป่าหรือเลี้ยงนะ จำไม่ได้ ลืมชื่อ เป็นตัวเหมือนแพะ น่ะค่ะ ชื่อ...แบ้ อะไรนี่แหละ คงไม่ใช่สัตว์ป่าหรอกธนนันท์เห็นอยู่ข้างทางรถวิ่งผ่าน มีเป็นฝูง  ถ้าล้มตัวนี้คงต้องกิน แบบลู่เลือดสด ๆ อะไรประมาณนั้น เขาโทรมาบอกตั้งแต่ธนนันท์อยู่บ้านย่าวรรณที่อุบลแล้ว ธนนันท์เป็นกังวลมาก กลัว ได้กิน ลาบเลือดตัวแบ้...บรื้ออออออออ.....


 

นี่แหละค่ะโฉมหน้าเจ้าของบ้าน..อ้ายเขียว...ดร.ศรีวิชัย นามสกุล ใหญ่โตมาก..(อดีตรมต.ของไทย)  อ้ายเขียวไม่ถือเนื้อถือตัวเลยค่ะ ใจดี แต่แฝงไว้ซึ่งความคมเข้ม เอาการเอางาน เพราะรับผิดชอบในตำแหน่งใหญ่โต...เป็นการเป็นงาน...



 

วันนี้อากาศเย็นลงมากค่ะ ลมแรงด้วยช่วงหัวค่ำ วันที่ราหูอมจันทร์พอดี อ้ายเขียวพากินเบียร์..ไม่รู้หมดไปกี่ขวดกี่ลัง เพราะคนประมาณตาม 10 ธรรมเนียมของเมืองลาวค่ะ ประธานพายกเมื่อไหร่ก็ต้องยก...อ้ายเขียวก็เป็นคนขยัน เดี๋ยวชน เดี๋ยวชน...อยู่ดีมีแฮง รักกัน รักกัน...รักกันจนเกือบสี่ทุ่ม (หรือเปล่า เพราะดูเวลาไม่รู้เรื่องแล้ว ตาลาย ลืมตาจะไม่ขึ้นด้วย)   

ระหว่างนั้นอ้ายเขียวก็เล่า..และ เถียงกันเรื่องประวัติศาสตร์ ซาดไทยกับซาดลาว กัน พ่อลุงเป็นคนไทยก็เข้าทางไทย อ้่ายเขียวเป็นคนลาว ก็เข้าทางลาว ธนนันท์ เป็น ทอปนลอ ต้องเป็นฝ่ายจัดคิวใ้ห้พูด...แฮ่...พ่อลุงหนักกว่าคนอื่น ยังไม่รู้ตัวอีก

ธนนันท์เห็นอ้ายเขียวเล่าเรื่องคนลาวอพยพเข้ามาอาศัยอยู่เมืองไทย ไปที่ไหนมั่ง ธนนันท์เลยถือโอกาสเล่าให้ฟังว่าปู่ของปู่ธนนันท์ ก็พากันอพยพไปที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ บอกนามสกุลอ้ายเขียวไป...อ้ายเขียวก็บอกว่า ฮืม...นามสกุลคนลาวเลย..ฮ่วย! จะไม่ลาวได้ยังไง ก็สืบค้นประวัติไว้แล้ว...(อยากเป็นลูกหลานลาวจริง ๆ จ้า)

สมควรแก่เวลา อ้ายเขียวเลยบอก...(นึกว่าจะให้ไปนอน เพราะง่วงด้วย มึน..เมาด้วย) ไปกันต่อ...ฮ่วย!...ธนนันท์์ เกือบตกเก้าอี้ จะไปไหนต่อ ง่วงจะตายอยู่แล้ว หนังตาจะปิดแล้วนะคะ...อ้ายเขียวจะพาไปหาพี่ชายค่ะ เป็นเพื่อนรักของพ่อลุงด้วย โทรคุยกันไว้แล้ว ว่าจะยกขบวนไป

พ่อลุงเห็นธนนันท์ลืมตาไม่ขึ้น แกก็กระซิบบอก คนที่จะพาไปหาเป็นหมอสมุนไพรที่เก่งมาก เป็นดอกเตอร์ หัวหน้าเภสัช เขียนตำรายาสมุนไพรของ รพ.แขวงจำปาสัก (ข้อมูลข้างหลัง ธนนันท์ซักจากดอกเตอร์เองค่ะ)  ไปด้วยกันก่อน อยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสมุนไพรก็ถามแกได้ (พ่อลุงก็กินน้ำหมักธนนันท์ค่ะ) ค่อยกลับมานอน ไม่นานหรอก

ธนนันท์ก็เลยต้องรอใ้ห้อ้ายเขียวไปอาบน้ำก่อน ระหว่างรอก็มีคนเรียกให้ไปดูราหูอมจันทร์ ธนนันท์เมาแล้ว...ยังต้องคว้ากล้องออกไปถ่าย แต่ไม่สวยเหมือนของป้าแมวหรอกค่ะ เพราะ...บอกแล้วไง..เทคนิค ไม่ต้อง มาดเท่อย่างเดียว อิอิ 

 


 

นี่แหละค่ะ...ได้เท่านี้ ระหว่างนั้น เจ้..น้องเมียอ้ายเขียว เอาคุถังใบใหญ่เลยค่ะ มาเคาะให้เงินทองไหลมาเทมา ธนนันทฺ์มองไปเห็นเงินในถัง...โห!...เมืองลาว ถังใส่เงินใบใหญ่ ๆ เต็มถังเลยค่ะ...รวยจริง ๆ โอ้...มึน เดินโซซัดโซเซ ไปนั่งรออ้ายเขียวดีกว่า

 

นี่ก็สมควรแก่เวลาเหมือนกันค่ะ ธนนันท์ขอตัวไปทำงานก่อนค่ะ...ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังต่อ เรื่องไปเที่ยวบ้านดอกเตอร์ยา  เล่าให้ฟังเพราะที่บ้านนั้น ไม่กล้าถ่ายรูปค่ะ แต่รู้มาอย่างหนึ่ง เมืองลาวจะเป็นเมืองที่แปลกอีกอย่างหนึ่ง สังเกตดูจะมีสองชนชั้น คือ ชนชั้นสูงและชนชั้นล่าง  ไม่มีชั้นกลางค่ะ รวยก็รวยไปเลย จนก็จนไปอีก...ไม่ค่อยมีความพอดี...จะเหมือนกันทุกที่..มั๊ยน๊า.....


 

 

 

 

 

 

 

 


ความเห็น

เชียงรายคงหนาวมาก ป้าเหนือเลยออกกำลังกายแต่เช้าเลย รักนะ จุ๊บจุ๊บ!!!!:love:

ปาดเอื้อย  ไปเที่ยวงวดนี้คุ้มหลายน้อ ได้ถึงความรู้ประวัติศาสตร์  ได้กินทั้งอาหารแปลกๆ  รสชาดอาหารเมืองลาวใกล้เคียงอาหารไทย บ่ เอื้อย  แต่คันเป็นอาหารป่าแปลกๆน้องกะ บ่ ไหว คือกัน

แรงกาย+แรงใจ ลงมือทำในวันนี้ เพื่อชีวิตที่พอเพียง

 

ติดตามเอื้อยต่อไปแล้วสิรู้ว่า เที่ยวนี้เอื้อยคุ้มขนาด...มื้อแลงลงอีก ตามต่อเด้อ!...:love:

ราหูอมจันทร์  คืนนั้น  ไม่ได้เคาะเคอะอะไรกับเขาหรอก  แค่  ห่อผ้านวมออกไปดู แป๊บหนึ่ง  โคตรหนาว

คืนราหูอมจันทร์ แม่ขึ้นมาตามให้เรารีบหาอะไรมาเคาะแล้วอธิฐาน ก็รีบหาขันมาเคาะเพราะอยู่ใกล้มือ ขออยูเรื่องเดียวแหละนุสิตา ขอให้รวย ขอให้รวย ฮี่ ฮี่

มิน่า ได้ยินป้าแมวทักว่าเป็นคนมีเวร เพราะอยากรวยนี่เอง ขยันรับเวร เพลา ๆ มั่งนะ เดี๋ยวเงินล้มทับ...ต...

 

ทั่วถึงกันเลย ลมแรงตั้งแต่หัวค่ำ แล้วอากาศก็เย็นลง น้องนั่งสั่นอยู่ (สั่นสู้มั๊ง)  ไม่รู้ว่าราหูจะอมจันทร์ ได้ยินพวกเรียกกันให้ไปดู เห็นเขาพากันเคาะนั่นเคาะนี่ เปิดกระเป๋าตังค์กันวุ่นวาย น้องก็เลยเอามั่ง ไปดูกับเขา แต่ไม่ได้เคาะหรือเปิดกระเป๋าตังค์หรอก ถ่ายรูปอย่างเดียว

 

 :confused:   หายไปไหนตัวนึง...ป่วยหรือปล่าววววว?

หน้า