พาชม สวนรกร้าง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้พามาชมสวนครับ เดิมทีเป็นบ้านที่อยู่ดังเดิมของผมตอนเด็ก พอขึ้นประถม 5 ครอบครัวก็ย้ายไปอยู่อีกที่ ปล่อยเวลาผ่านไปหลายปีบ้านไม่มีคนอยู่จึงทรุดโทรมต้องรื้อทิ้งจากนั้นจึงถมดินทำเป็นสวน ซึ่งออกจะแปลกสักหน่อยเพราะอยู่ในซอยหมู่บ้าน เมื่อก่อนใครทำสวนก็มักจะไปทำในที่ท้ายหมู่บ้าน


สวนนี้ตอนแรกปลูกชะอมติดข้างกำแพงทุกด้าน ใหม่ๆ ก็กระตือรือร้นทำนั่นทำนี่ วางท่อสปริงเกอร์ ซื้อปุ๋ยคอกใส่จนชะอมเขียวงาม พื้นที่ตรงกลางก็ปลูกมะม่วง มะพร้าวพันธุ์ ที่บางส่วนลุงบ้านข้างก็เข้ามาปลูกผักสวนครัว กับผักอื่นๆ กินบ้างขายบ้าง แต่พอลุงเสียก็ไม่มีใครมาปลูกผักอีก สวนจึงค่อยรกร้างไปทีละนิด มีช่วงปีสองปีหลัง แม่ผมซื้อต้นไผ่หวานมาปลูก หน่อไม่ค่อยขึ้นเพราะไม่ได้รดน้ำปล่อยออกไปตามฤดู  


ทีนี้พามาดูสวน ทางเข้า

 

 

ค้างผักแซ่วยอดนำมาแกงรสออกขมหน่อย จะออกดอกสีขาวเป็นก้านยาวมีกลิ่นความหอมเฉพาะตัว ไม่เหมือนกับอะไรเลย

 


ตรงจุดนี้ก่อนถมดินเคยเป็นทางเดินข้างบ้าน ปูด้วยหินกรวดแม่น้ำก้อนกลมรี ด้านข้างปลูกต้นทับทิมยังจำรสชาติฝาดลิ้นได้ดี


ร่องรอยต้นชะอมเก่าๆ อายุเกินสิบปีแล้ว สวนนี้มีทั้งไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงโดดมาคุ้ยหาอาหาร รวมถึงบรรดาพวกแมวที่ลุงเคยเลี้ยงไว้ด้วยเข้ามาจับหนู แมวน่าจะเป็นรุ่นลูกของลูกๆ ที่ชาวบ้านแถวนั้นขอไปเลี้ยง เพราะลุงเสียไปหลายปีแล้ว

 


บริเวณรอบนอกกำแพงสวน สวนใหญ่เป็นบ้าน ไม่ก็เป็นโรงเลี้ยงไก่เป็ด สวนนี้ถมดินจึงสูงกว่าพื้นที่รอบนอกประมาณเกือบครึ่งเมตร

 


ไผ่หวานที่แม่ผมปลูกไว้เมื่อสองปีก่อน พอกอเริ่มรกก็จะจ้างคนมาสางและใส่ปุ๋ยคอก ตอนที่ผมยังไม่ย้ายบริเวณนี้เป็นดงต้นมะม่วงสามปีกับมะม่วงแก้ว เนื่องจากต้นค่อนข้างสูงไม้สอยได้แค่ช่วงล่าง ผลที่ติดด้านบนจึงต้องปล่อยสุกให้หล่นเอง วันไหนมีลมฝนกลางคืน ตอนเช้าเด็กแถวบ้านจะมาเดินหาลูกมะม่วงที่หล่นกัน แม่ผมตื่นเช้ากว่าจะเก็บลูกสวยๆ เอาไว้สองสามลูกเสมอ

 


วันหนึ่งมีลมฝนตอนกลางคืน ฟ้าเริ่มสว่างเด็กสามสี่คนแถวบ้านก็วิ่งมาเก็บมะม่วง วิธีเก็บมะม่วงทำกันง่ายๆ แบบไม่กลัวเปื้อน แค่ดึงชายเสื้อยืดขึ้นห่อลูกมะม่วง วันนั้นไอ้ต่อเพื่อนอ่อนปีมาช้ากว่าคนอื่น พอวิ่งมาถึงมันร้องหน้าตาตื่น กูขอลูกหนึ่ง ซ้ำไปมา แต่เด็กคนอื่นกระทั่งเหลือบแลก็ยังไม่แล รีบพกมะม่วงเต็มเสื้อก็วิ่งโตงเตงหนีออกประตู มันก่นด่าบรรพบุรุษตามหลังอยู่หลายคำ


ไอ้ต่อเหลียวซ้ายแลขวาเห็นลูกมะม่วงสุกสามสี่ลูกไม่มีใครเก็บ ตาวาวรีบตะครุบขึ้นมาดูแล้วทิ้งอย่างเสียดาย เพราะเละน่วมจนกินไม่ได้ บางลูกก็มีรอยแหว่งของนกจิกกิน เมื่อหมดทางเลือกมันจึงคว้ากิ่งไม้ผุที่หล่นอยู่แถวนั้นปามะม่วงบนต้น พยายามอยู่หลายครั้งแต่ไม้ผุแค่เหวี่ยงไปโดนกิ่งก้านด้านล่าง ตอนนั้นภาพแสงแดดยามเช้าที่ต้องกระทบกับเศษเปลือกและใบมะม่วงปลิวว่อนมองไปคล้ายแมลงตัวเล็กๆ บินร่อนไปทั่วบริเวณ สักพักก็ได้เรื่องเศษผงเข้าตาจนมันร้องโอ้ย ขยี้ตาอยู่พักหนึ่งแต่ก็ไม่วายหยิบกิ่งไม้ปาขึ้นไปอีก ผมเห็นเศษใบมะม่วงหล่นเกลื่อนพื้นกลัวโดนแม่ว่า จึงบอกมันว่าที่ชานบ้านมีมะม่วงสามลูกจะแบ่งให้ลูกหนึ่ง พอได้ยินแบบนี้ มันวิ่งตะบึงไปหยิบเอามะม่วงแล้ววิ่งออกประตูหน้าบ้านทันที ผมรู้สึกไม่ถูกต้องอยู่บ้าง พอไปที่ชานบ้านจึงรู้ว่าโดนเอามะม่วงลูกใหญ่สุดไปเสียแล้ว นั่นก็ได้แต่ก่นด่าบรรพบุรุษเลียนแบบไอ้ต่ออีกครั้ง


เมื่อมานั่งนึกถึงในตอนนี้ก็อดยิ้มไม่ได้ บางครั้งคราวกลางดึกเงียบๆ ของวันที่ไม่มีอะไร บางทีอาจจะได้กลิ่นอายอ้อยอิ่งของต้นหญ้าดินทรายลอยมาตามลมผ่านช่องหน้าต่าง ช่วงเวลาแบบนั้น บางครั้งผมก็จะนั่งนึกหน้าและชื่อเพื่อนตอนเด็ก บางคนผมจำเสียงได้ เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ เสียงกระซิบซาบ เสียงร้องตะโกน เสียงพูดคุยสนุกสนาน เสียงเหล่านั้นค่อยเลือนรางจางหายไปตามกาลเวลา คล้ายหมอกควันตอนเช้าสลายยามต้องแสงอาทิตย์


เพื่อนตอนเด็กอยู่กับเราอย่างมากสิบปี ก่อนความไร้เดียงสาจะถูกพรากไป
ความรักหนุ่มสาวจะอยู่ยาวนานกว่านั้น แต่ก็ไม่แน่นัก
ความเศร้ามาเป็นบางครั้ง และเหือดหายคล้ายน้ำที่ซ่อนอยู่ใต้ทราย รอเราเผลอไปเหยียบค่อยโผล่ผุดมาให้เห็นอีก

ขออภัย ออกจะเพ้อเกินไปแล้ว

 

ปล.

บางท่านอ่านสงสัยว่าทำไมไม่คิดหาประโยชน์หรือขายดีกว่าปล่อยให้ที่รกร้างว่างเปล่า ก็อย่างที่ผมบอกไว้ข้างต้นเมื่อลุงเสียก็ไม่มีใครสนใจมาดูแล อาจเพราะสวนตายไปพร้อมกับลุงก็ได้ จริงอยู่คนเราไม่ควรเก็บอะไรไว้มากมาย เรื่องที่วางได้ก็ควรวางไม่ควรเก็บมาเป็นภาระ แต่บางสถานที่ก็มีเรื่องราวมากเกินไป จนกลายเป็นเสียวหนึ่งของชีวิต ค่านั้นมากเสียจนไม่อาจเสียมันไป ดังนั้นหากคุณเดินทางผ่านที่แห่งไหนสักแห่ง เห็นพื้นที่รกร้าง เถาเครือวัชพืชปกคลุมขาดคนดูแล ขออย่าได้สงสัยไถ่ถาม สำหรับบางคนที่แห่งนั้น การแสวงหาผลประโยชน์อาจไม่มีค่าสำหรับเขาก็ได้

 

ความเห็น

เพื่อนสมัยประถมถ้าไม่ได้เรียนต่อที่เดียวกัน ก็มักจะไม่ได้ติดต่อกันแล้วครับ ส่วนใหญ่ที่ยังติดต่อก็เป็นเพื่อนมัธยมบางคน กับป. ตรี เท่านั้น

ที่บ้านป้ายามีรถบิ๊กอัพคันเก่าปู่ให้มาเมื่อ ๑๔ ปีที่แล้วแต่รถมีอายุ  ๓๐  ปีแล้ว  ลุงพงษ์ไม่ยอมขาย  จะเก็บไว้ก็เลยตามใจค่ะ

บ้านผมไม่ค่อยมีของเก่าๆ เพราะย้ายบ้านมาสองสามครั้ง จะมีที่เหลืออยู่จริงๆ บ้างคงเป็นเตียงไม้ที่ใช้ตั้งแต่สมัยยายครับ

ใกล้ ๆ กันส่วนใหญ่เป็นสวนปาล์ม สวนยางกันหมดแล้ว
เหลือข้างบ้านเป็นป่าสมรมหน่อยนึง รกเรื้อเอาการเหมือนกัน
กระรอกกับนก จองพื้นที่เป็นเจ้าถิ่น  

แถวบ้านผมไม่ค่อยทำสวนยางครับ จะมีสวนไม้สัก กับป่ายูคาที่ปลูกทิ้งไว้สมัยก่อน

ชอบข้อความสุดท้ายค่ะ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมครับ

จะอยู่หรือจะไป อยู่ที่เจ้าของให้ความสำคัญแค่ไหน อดีตไม่มีวันลืม อาจจะแค่เลือนลางไปบ้างเท่านั้น

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ บางทีก็ต้องรอให้มีอะไรสักอย่างมาสะกิดใจถึงนึกขึ้นได้

ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงอดีตของตัวเอง  ความทรงจำในวัยเด็ก มีความสุขเหนือคำบรรยาย

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

หน้า