วิศวกรรม หรือ วิศวกรรมเกษตร ตอนที่ 8 เรื่องไร้สาระ!...ที่ดูดีและมีสาระ!

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ตอนที่ 8 เรื่องไร้สาระ…ที่ดูดีและมีสาระ!

ข้อแนะนำก่อนอ่านบทความ ตอนที่ 8 เรื่องไร้สาระ…ที่ดูดีมีสาระ!

     เนื่องจากบทความในตอนที่ 8 นี้ ต้องใช้การจินตนาการร่วม ระหว่างผู้อ่านกับผู้เขียน เพื่อให้ท่านผู้อ่านมองเห็นภาพและนึกภาพตามคำบรรยายของผู้เขียน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้อ่านจักต้องศึกษาข้อมูลเรื่อง ชวนชมบอนไซและจันผาใน Google Wep ก่อน เพื่อทำความรู้จักกับพันธุ์ไม้สองชนิดนี้เบื้องต้น! และหากท่านผู้อ่านรู้จักกับพันธุ์ไม้สองชนิดนี้มาบ้างแล้ว ผมก็ขอเชิญท่านเข้าร่วมจินตนาการไปกับบทความต่อไปนี้ได้เลยครับ

     เข้าเรื่องเลยนะครับเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา! หลังจากเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเกือบจะครบ 3 ปี ของการเป็นเกษตรกรของผม เวลานั้นผ่านไปเร็วมาก แต่ความคืบหน้าของสิ่งที่ทำนี่สิ! มันไม่ได้เติบโตเร็วอย่างที่ผมคิดเอาไว้เลย!! ทุกสิ่งที่ผมลงมือทำก็ยังคงให้ผลผลิตอย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมยอมแพ้หรือหมดกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป เพราะหากได้ลงมือทำแล้วก็ต้องทำให้สุดๆ ไปเลย! ดังเช่นที่หลายคนบอกว่า “ไม่มีล้มเหลว มีแต่ล้มเลิก”  และหากผมจะเลิกความตั้งใจ เพราะผลของงานไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้ ผมคงจะหยุดทำสิ่งต่างๆ ตั้งแต่ปีแรกของการเริ่มต้นชีวิตเกษตรกรแล้ว เพราะมันเป็นปีแห่งการปรับตัว ปัญหาเยอะมาก อะไรๆ ก็ดูจะยากไปหมดสำหรับผม

     ผมเชื่อแน่ว่า ท่านใดก็ตามที่ตัดสินใจผันตัวเองมาเป็นเกษตรกร แล้วมีความอดทน สามารถค่อยๆ แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาอย่างมีสติ มุ่งมั่นทำงานเท่าที่แรงและความสามารถของเราพอจะทำได้ จนกระทั่งยืนหยัดอยู่ได้เกินหนึ่งปี เมื่อถึงเวลานั้นท่านจะหลงรักกลิ่นไอของความเป็นเกษตรกร โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ประมาณว่า “จะคิดจะทำอะไรก็มีแต่ความสนุกความท้าทาย ถึงแม้หลายต่อหลายสิ่งที่ทำอาจจะดูไร้สาระไปบ้างในสายตาคนรอบข้าง” แต่ในสายตาของตนที่ยืนอยู่ตรงจุดจุดนั้น จุดที่มองเห็น คุณค่า มากกว่า มูลค่า กลับมองว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และพร้อมที่จะทำสิ่งที่ไร้สาระที่สุด ให้ผลของการกระทำนั้นออกมาดูดีที่สุด ประมาณว่างานที่ทำยังไม่ทันแล้วเสร็จ ก็รู้สึกแล้วว่า “มีความสุข สุขที่ได้ลงมือทำ”

     ถึงตอนนี้หลายท่านอาจจะยังนึกภาพไม่ออก และหากท่านผู้อ่านอยากเห็นภาพที่ชัดเจนกว่านี้ ผมก็แนะนำให้ติดตามเนื้อหาของบทความต่อไปนี้อย่างตั้งใจ และร่วมจินตนาการไปพร้อมๆ กันกับผม เพื่อให้เกิดอัฐรส และเพื่อให้เกิดประโยชน์กับการประยุคต์ใช้ ให้เหมาะกับสายงาน และหรือ เหมาะกับสิ่งที่ท่านกำลังทำอยู่ในตอนนี้!

     ก่อนอื่นผมอยากให้ท่านรู้จักกับสวนของผมก่อนนะครับ เพื่อให้ท่านได้มองเห็นภาพคร่าวๆ จะได้จินตนาการไปพร้อมๆ กัน ในขณะที่ผมเล่าสิ่งที่ไร้สาระที่สุดที่ผมกำลังทำอยู่ในตอนนี้

     สวนของผม ชื่อ “สวนไผ่อาบู (R-Boo Bamboo Farm)” ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับองค์การบริหารส่วนตำบล      ตำบลลำภี อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ด้านหน้าเป็นถนนหลักที่ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติใช้เดินทาง ไม่ว่าท่านจะไปภูเก็ต พังงา หรือจะไปกระบี่ ก็สามารถใช้เส้นทางนี้ในการเดินทาง

    จุดเด่นของสวนไผ่อาบู คือ การปลูกไผ่ตงลืมแล้งร่วมในสวนยางพารา ในพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ด้านหน้าสวนที่อยู่ติดกับถนนเป็นส่วนของบริเวณบ้าน ซึ่งพื้นที่รอบๆตัวบ้าน จะมีไม้ผล เช่น เงาะ มังคุด ลองกอง ทุเรียน ตะขบ อย่างละนิดอย่างละหน่อย ส่วนพื้นที่ว่างๆ รอบบริเวณบ้านก็จะปลูก ส้มป่อย มะกรูด มะนาว เพกา กล้วย ผักกูด ตะไคร้ พลู หน่อข่า และไม้ดอกสวยงามทั่วๆ ไป แต่เป็นการปลูกแบบไม่เน้นความสวยงาม ว่างตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น!

     คงพอจะมองเห็นภาพนะครับ? และการที่เราจะต้องดูแลพืชพันธุ์เหล่านี้ให้เจริญเติบโตนี่แหละ คือ งานที่ต้องทำ ทำควบคู่ไปกับงานหลัก นั่นก็คือ “กรีดยาง” ผมตื่นกรีดยางตอน ตี 3 กว่าจะทำแผ่นยางเสร็จก็ประมาณบ่ายโมง หลังจากนั้นก็เป็นเวลาทำภารกิจส่วนตัว ก่อนที่จะลงสวนอีกรอบตอน 4 โมงเย็น เพื่อดูแลสวนไผ่และพื้นที่บริเวณรอบๆ บ้าน

     สิ่งเหล่านี้เป็นงานที่ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ เพราะเป็นงานที่ทำแล้วเกิดรายได้ วันไหนไม่ทำก็ขาดรายได้ และหากรวมๆ เวลาทำงานของผมก็น่าจะอยู่ที่ 12 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเป็นการทำงานที่ไม่หนักเลยสำหรับเกษตรกรอย่างผม ทำแล้วยังมีกำลังเหลือให้ไปทำเรื่องที่ไร้สาระได้อีกหลายชั่วโมง โดยไม่เหน็ดเหนื่อย เพราะการเป็นชาวสวนเราทำงานไปด้วยพักผ่อนไปด้วย ทำไปคุยไป ทำไปบ่นไป เหนื่อยก็พัก ชิวมากๆ เลยไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่มันเพลินจนทำให้เราลืมเวลามากกว่า

     โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เสร็จจากการทำงาน ผมจะขลุกอยู่กับกิจกรรมที่ไร้สาระแบบสุดๆ ในสายตาของหลายๆ คน ที่เฝ้ามองดูสิ่งที่ผมทำ

     ชาวสวนโดยทั่วๆ ไปจะมีกิจกรรมยามว่างที่แตกต่างกัน บางคนก็ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ บางคนก็ทำเรื่องที่ไร้สาระ ซึ่งกิจกรรมที่ไร้สาระที่เรามักเห็นได้บ่อยๆ เช่น หลายคนอาจจะเล่นการพนัน บ้างก็นั่งลุ้นหวยหุ้น และผมก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นแบบนั้น แต่ทว่านานๆ จึงจะแทงหวยสักครั้ง ส่วนเรื่องการพนันนั้นไม่อยู่ในสมองเลย! แต่เวลาทั้งหมดในยามว่างของผม ผมมักจะขลุกอยู่กับการเพาะต้นไม้ ต้นไม้ที่ไม่ให้ผลผลิต เอามากินก็ไม่ได้ มิหนำซ้ำขายก็ไม่ค่อยมีคนซื้อ แต่ผมเลือกที่จะขลุกอยู่กับมันแทบทุกวัน เหมือนเช่น คนเลี้ยงนกนั่งเฝ้าฟังเสียงนกของตัวเองร้องโต้ตอบกัน!

     เรื่องไร้สาระยามว่างของผม ก็คือ การเลี้ยงชวนชมบอนไซ (ซึ่งผมเรียกมันว่าไม้การ์ตูน) และการเพาะเลี้ยงต้นจันผา  ประเด็นที่ทำให้ผมสนใจไม้สองตัวนี้ก็เพราะ “มันเป็นไม้ที่ยิ่งโตยิ่งสวย ยิ่งทรงสวยๆ ยิ่งดึงดูดคนที่มอง!” แต่เชื่อเถิดครับว่าในสายตาของคนที่ไม่ได้สนใจและไม่รู้คุณค่าของไม้สองตัวนี้จะมองว่า “เป็นสิ่งที่ไร่สาระ เสียเวลา!” ไม่รู้จะทำไปขายใคร? และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครจะมาซื้อ

     แต่สำหรับผมแล้วผมมองว่า มันมีคุณค่าควรแก่การสูญเสียเวลาในยามว่างเว้นจากงานเพื่อมาขลุกอยู่กับมัน เพราะมันสวย! และอีกเหตุผล คือ มันมีราคาสูงมากในกลุ่มคนที่เล่นไม้แปลกไม้สวยงาม โดยเฉพาะชวนชมบอนไซ มักจะมีการจัดประกวดกันแบบเป็นเรื่องเป็นราวอยู่เสมอๆ ยิ่งต้นไหนที่ผ่านเวทีดังๆ มาแล้วยิ่งมีราคาค่าตัวที่สูงลิ่ว!

     ส่วนต้นจันผา เท่าที่ผมสังเกตสวนหน้าบ้านของพระเอกนางเอก เวลาที่นั่งดูละครทีวี ก็มักจะได้เห็นต้นจันผา ถูกนำมาปลูกไว้เป็นไม้ที่โดดเด่นสะดุดตาอยู่แทบจะทุกเรื่อง (ลองสักเกตดูนะครับ!)

     ทีนี้ผมหวังว่าเราคงเริ่มเห็นความไม่ไร้สาระของไม้นอกสายตาสองตัวนี้บ้างแล้วนะครับ!  หลังจากที่ผมขลุกอยู่กับมันได้สักระยะผมยิ่งหลงรัก เพราะมันสวยขึ้นเรื่อยๆ บางวันนั่งเฝ้าดูต้นชวนชมการ์ตูนที่ตัวเองเลี้ยงไว้ได้เป็นชั่วโมงๆ โดยไม่เบื่อ

     ลองนึกภาพดูนะครับ! ถ้าหากเราอยากจะมีต้นจันผาทรงสวยๆ สัก 10-20 ต้น และชวนชมบอนไซทรงสวยๆ อีกสัก 20-30 ต้น มาจัดวางเพื่อตกแต่งสวนไผ่อาบูให้มีความโดดเด่นสะดุดตาผู้คนที่สัญจรผ่านไปผ่านมา เพื่อให้เป็นจุดดึงดูดให้เขาเหล่านั้นเข้ามาเที่ยวชมสวน ผมคงต้องใช้เงินมากพอสมควร เพื่อให้ได้มาและที่สำคัญ ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้นครับ! 

     แต่ผมเชื่อว่าคนที่มีอาชีพเป็นชาวสวนอย่างผม มีหนึ่งสิ่งที่มีมากพอ นั่นก็คือ “มีเวลา… มีเวลามากพอที่จะรอดูมันค่อยๆ เจริญเติบโต” มีเท่านี้ก็มากพอแล้ว สำหรับการทำเรื่องไร้สาระแบบผม

     ผมเริ่มต้นจากการเลี้ยงชวนชมการ์ตูนตั้งแต่ปีแรกของการเป็นชาวสวน แต่ก็ยังนึกเสียดายที่ตอนเริ่มต้นเลี้ยงใหม่ๆ ผมเลี้ยงเพียง 5 ต้น เพราะตอนนั้นยังมองว่า มันไร้สาระเสียเวลา! ถึงตอนนี้เลยมีชวนชมการ์ตูนที่เริ่มเข้าทรงเพียง 5 ต้น และยังมีรุ่นน้องๆ ที่ยังไม่เข้าทรงอีกประมาณ 20 ต้น และตั้งใจว่าจะเลี้ยงเพิ่มอีกให้ได้ 100 ต้น

     แต่ถึงแม้จะมีต้นที่เข้าทรงเพียง 5 ต้น ก็เพียงพอที่จะทำให้ผมเห็นคุณค่าของมัน นอกเหนือจากความชอบโดยส่วนตัวแล้วยังมีอีกเหตุผล ก็คือ เวลาที่มีคนมาชมสวน แทบจะทุกคนต่างต้องเดินเฉียดเข้าไปดูชวนชมการ์ตูนที่ผมเลี้ยงไว้ ด้วยความที่มันแปลกกว่าชวนชมทั่วๆไปที่คนแถวนี้เขาปลูกกัน จนกลายเป็นว่าคนที่มาสวนเกือบทุกคน ให้ความสนใจกับชวนชมการ์ตูน มากพอๆ กับให้ความสนใจแปลงไผ่ในสวนยาง จนมีบางคนเอ่ยปากขอซื้อต้นชวนชมที่ผมเลี้ยงไว้ แต่ผมก็ไม่ได้ขาย! เพราะผมมองว่ามันยังไม่สวยพอ มันยังสวยได้อีก และที่สำคัญ มันไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาซื้อด้วยราคาเท่าไหร่ แต่มันอยู่ที่ว่า มันมีคุณค่าเกินกว่าที่ผมจะขายในตอนนี้ เพราะหากมันยังตั้งอยู่ตรงนี้ (หน้าบ้านผม) มันก็ยังจะเป็นจุดสนใจของใครต่อใครที่จะมาชมสวน แต่หากขายไปตอนนี้ก็…จบ!

     เช่นเดียวกับจันผา ถึงตอนนี้ผมแยกเลี้ยงลงถุงไว้ 50 ต้น เพื่อขุนให้โต อีก 50 ต้น ยังเป็นต้นกล้า และ อีก 100 เมล็ด ที่กำลังเพาะในถาดเพาะ (บ้างก็เริ่มงอก) จุดเด่นของจันผาก็คล้ายกับชวนชมการ์ตูน คือ ยิ่งโตยิ่งสมบูรณ์ ยิ่งมีทรงต้นที่สวยงาม คนทั่วๆ ไปที่พอมีฐานะมักจะนำต้นจันผามาปลูกโชว์ไว้บริเวณสวนหน้าบ้าน 1-2 ต้น (ลองสังเกตดูบ้านหลังโตๆ เวลาดูละครหลังข่าวนะครับ!)

     แล้วถ้าหากอีกสักสามปีข้างหน้า มีต้นจันผาทรงสวยๆ ปลูกอยู่บริเวณพื้นที่รอบๆ สวนไผ่อาบูสัก 30 ต้น ปลูกกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ด้านหน้าสวน มันจะดูดีขนาดไหน พื้นที่ว่างก็ยังมีอีกเยอะ สวนก็ยังไม่ได้จัด เมื่อไหร่ที่ชวนชมการ์ตูนกับจันผาเริ่มได้ทรงสวย ก็ทยอยเอามาจัดสวน ถึงตอนนั้นก็คงไม่ไร้สาระแล้ว มิหนำซ้ำผมว่ามันยังจะช่วยทำให้ภูมิทัศน์ของสวนเราดูดีมีเอกลักษณ์ และเป็นจุดที่ให้ผู้มาเที่ยวชมสามารถถ่ายภาพต้นไม้สวยๆ ได้ นอกเหนือจากการเดินชมสวนเพียงอย่างเดียวได้อีกด้วย!

     เล่ามาซะยาว พอจะเห็นหรือยังครับว่าไร้สาระขนาดไหน ทำมาเกือบสามปีแล้วเงินก็ยังไม่ได้สักบาท แต่เราลองนึกภาพดูนะครับว่า ถ้าหากทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เหมือนดังเช่นสวนไผ่ที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว และหากกิจกรรมไร้สาระ ถูกนำมาจัดวางในพื้นที่สวน ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีสาระ เช่นเรื่องราวของการผสมผสานระหว่างไผกับยางพารา เมื่อเรื่องราวเหล่านี้มาผสมรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ของทั้งสองอย่างนี้จะออกมาดูดีมีสาระขนาดไหน “นี่แหละครับ…การทำเรื่องไร้สาระ…ให้ดูดีและมีสาระ ในแบบของสวนไผ่อาบู!”

     ถึงตอนนี้ใครที่คิดว่ายังพอมีเวลาเหลือมากพอที่จะมาทำเรื่องไร้สาระแบบผมก็เริ่มลงมือได้เลยนะครับ! ซึ่งผมเริ่มต้นความไร้สาระจากหลักการง่ายๆ 3 ข้อ คือ

  1. ต้องเป็นอะไรที่….ยิ่งโตยิ่งสวย ไม่แก่ง่ายตายเร็ว
  2. ต้องเป็นอะไรที่…ยิ่งสวยยิ่งมีราคา มีคุณค่าเหมือนงานศิลปะ
  3. ต้องเป็นอะไรที่…ไม่เป็นภาระ ทำได้เหมือนงานอดิเลก

     ท่านใดสนใจอยากเพิ่มจุดเด่นให้กับสวนหรือบริเวณบ้านของตัวเอง ก็ลองเอาหลักการง่ายๆ ทั้ง 3 ข้อ ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละสวน แต่ละความชอบ แต่ละความถนัด เอาเลยนะครับ ผมไม่สงวนสิทธิ์ แต่ทว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นจันผา หรือ ชวนชมบอนไซ หรือชวนชมการ์ตูน นะครับ ยังมีไม่นอกสายตาอย่างอื่น ที่น่าสนใจอีกหลายตัว ยกตัวอย่างเช่น ต้นหัวโตแซ่ม้า ช้อนเงินช้อนทองเสียบยอดตอไซ เป็นต้น!

     เราลองทำเรื่องที่ไร้สาระดูบ้าง ผมเชื่อแน่ว่าหากทำบนพื้นฐานของหลักการ 3 ข้อ ข้างต้น จะส่งผลให้สวนของหรือบ้านของท่านเป็นจุดสนใจได้มากเลยทีเดียว” และที่สำคัญ! ผมเชื่อเหลือเกินว่า ทำยังไม่ทันจะเสร็จ ท่านก็จะพบกับความสุขจากการได้ทำอะไรใหม่ๆ ในทันที ถ้าเมื่อไหร่ที่ท่านเริ่มรู้สึกว่า “เริ่มเป็นภาระ” นั่นแสดงว่า ท่านกำลังมาผิดทาง! เพราะ ประเด็นสำคัญที่สุด คือ ทำแล้วต้องไม่ทำให้เกิดภาระ จนส่งผลให้งานอย่างอื่นเสียไปด้วย!

     และเมื่อถึงเวลานั้น ท่านจะจัดการกับความไร้สาระเหล่านั้นอย่างไรก็ได้ จะแปลงจากสิ่งที่มีคุณค่า ให้เกิดเป็นสิ่งที่มีมูลค่าขึ้นมาอีกรอบก็ได้ ตามแต่ท่านจะเห็นสมควร!

 

ความเห็น

ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูการปิดกรีดแล้วเลยพอจะมีเวลาขีดๆ เขียนๆ ต่อจากตอนที่แล้ว

สำหรับท่านใดที่ต้องการ ชมภาพสวนไผ่อาบู ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ Facebook.com/RbooBamBooFarm ได้นะครับ!

R-Boo

ซัดสายตาไปเจอ "การเลี้ยงชวนชมบอนไซ (ซึ่งผมเรียกมันว่าไม้การ์ตูน) และการเพาะเลี้ยงต้นจันผา"
สนใจจังเบ้อเร่อ รีบอ่านอย่างตั้งใจเพราะชอบไม้ทั้งสองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และกำลังหลงไหลได้ปลื้มอยู่
ชวนชมเลี้ยงแบบปล่อยปละละเลย ส่วนใหญ่พอเห็นดอกก็แจกค่ะ  ฝนตกหนักหัวเน่าไปเยอะค่ะ ดูแลยังไม่ดี
แต่จันทร์ผาเลี้ยงแบบต้องการเพิ่มยอด แต่มีเพียงไม่กี่ต้น เพราะต้นไหนสวยยกไปให้บ้านเพื่อนขึ้นบ้านใหม่
เหลือไม่เกิน 10 ต้น ตอนนี้เพาะต้นเล็ก ๆ งอกแล้วประมาณ 50 ต้น ได้ที่พึ่งแล้วแหละทีนี้ บ้านพี่อยูนครศรีฯค่ะ


ว่าง ๆ จะแวะไปรบกวนค่ะ ไปบ้านน้องที่เมืองพังงาช่วงปิดเทอมอาจขออนุญาตแวะไปรบกวนนะคะ

ได้เลยครับ ด้วยความยินดีเลย!

แต่ผมก็มือใหม่ครับ ชวนชมก็หัดเลี้ยงยังไม่สวยเหมือนที่เขาเอามาประกวดเลย!

ห่างใกลมากๆ ผมเลยทำแนวการ์ตูนดีกว่า ฉีกออกไปเลย!

ส่วนจันผา ผมคงต้องเป็นฝ่ายขอคำแนะนำมากกว่าครับ เพราะเพิ่งสนใจได้ 4-5 เดือนเอง แต่มันน่าสนใจมากๆ ไปเห็นต้นจันผาที่บ้านของน้าสวยมากๆ

ฝังใจเลย ตอนนี้เลยอยากมีไว้ให้รอบๆ สวนเลยครับ

R-Boo

 

ภาพนี้ก่อนตัดแต่งรากครับ

 

ส่วนภาพนี้ลงปลูกให่ในกระถางอีกรอบ เพื่อเลี้ยงรากให้ได้ทรง! ที่นี้ก็รออีก 8 เดือน - 1 ปี ค่อยว่ากันใหม่

 

ภาพนี้ก่อนตัดแต่งรากครับ

 

ส่วนภาพนี้ลงปลูกให่ในกระถางอีกรอบ เพื่อเลี้ยงรากให้ได้ทรง! ที่นี้ก็รออีก 8 เดือน - 1 ปี ค่อยว่ากันใหม่

ถ้าอย่างนั้นก็จัดไปอีกต้นครับ!

ต้นนี้ชื่อน้องเกรด A (อายุ 2 ขวบ ยกรากครั้งที่ 3)

 

หลังแต่งรากเสร็จก็นำมาเลี้ยงรากต่อเช่นเดิม! ทีนี้ก็รอ!!!!

ตอนแรกก็ทำเล่นขำๆ ครับ แต่ดูสวยดีตอนนี้เลยทำเพิ่มอีก!

ฮ่าๆๆๆๆ ได้การแล้วงานนี้ กำลังเพาะเลี้ยงชวนชม แต่เลี้ยงไม่เป็นต้นยาวๆๆๆ ไม่เป็นการ์ตูน 

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

ป้าต่ายลองเข้าไปดูวิธีการทำ ชวนชมบอนไซ ใน Youtube ได้เลยครับ มีระดับเทพทั้งนั้น

ของผมเทียบไม่ติดเลย!

R-Boo

มาหลายประเด็น เม้นท์ไม่ถูกเลย เอาเป็นว่า เห็นด้วยค่ะ ฟันธง!!

หน้า