วันแรกของการไปโรงเรียน
วันที่ 17 สิงหาคม 2553 เป็นวันเปิดเทอม ลูกสาวเข้าKindergarten ลูกชายเข้าPreschool ทางโรงเรียนเชิญผู้ปกครองไปนั่งเรียนกับลูกในวันแรกด้วย
เมื่อไปถึงโรงเรียนแล้วคุณคูรให้เด็กๆๆยืนเข้าแถวเดินเข้าห้องเรียน
เมื่อมาถึงห้องเรียนก็ให้หาที่นั่งตามโต๊ะที่มีชื่อตัวเองติดอยู่
Rasel หาที่นั่งของตัวเองเจอแล้วคะ
เด็กๆๆๆทุกคนนั่งประจำที่ตัวเอง
เริ่มเรียนกันเลย
ผู้ปกครองยืนให้กำลังใจอยู่ข้างๆๆ
หลังจากนั้นผู้ปกครองท่านใดจะกลับบ้านก่อนก็ได้
ลืมลูกชายเลยเราเพราะมัวแต่กังวลอยู่กับลูกสาว ลูกสาวRaselเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดขี้อาย จริงๆๆแล้วลูกสาวเขาเรียนPreschool ที่นี่มา 2 ปีแล้วปีนี้เป็นปีที่ 3 เข้าเรียนKindergarten ส่วนลูกชายเขามาโรงเรียนนี้เป็นวันแรกจริงๆๆแต่เราไม่กังวลเพราะส่งลิงเข้าโรงเรียนเลยไม่ได้เก็บภาพลูกชาย
- บล็อกของ สุชญา
- อ่าน 6250 ครั้ง
ความเห็น
ตั้ม
23 สิงหาคม, 2010 - 20:26
Permalink
ใช่ครับคุณกลอย
ลูกสาวชื่อน้องฝ้าย..อยู่นอกบ้านมากกว่าอยู่กับบ้าน เพราะไม่มีคนช่วยเลี้ยง..เด๋วนี้ก็ยังเป็นอย่างนี้ แต่ไม่ใช่เหตุผลเดิม แต่เป็นวันธรรมดาก็เรียนที่ธรรมศาสตร์ วันเสาร์-อาทิตย์เป็นครูสอนหนังสือ..เลยแทบไม่ได้อยู่บ้านเลย..เอารูปน้องตอนเด็กๆมาอวดบ้างนะ
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
สุชญา
23 สิงหาคม, 2010 - 20:29
Permalink
น่ารักมากคะ
น่ารักมากคะ แล้วก็เก่งด้วย อายุเท่านี้เป็นครูสอนหนังสือแล้ว
นาย
23 สิงหาคม, 2010 - 19:31
Permalink
สนุก
สนุกแน่ๆค่ะ
ขออภัยและขอบคุณค่ะ
สุชญา
23 สิงหาคม, 2010 - 20:41
Permalink
สนุก
สนุก โดยเฉพาะลูกชายที่ได้เพื่อนและได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆๆ
ป้าเล็ก..อุบล
23 สิงหาคม, 2010 - 19:31
Permalink
โต๊ะที่มีชื่อตัวเอง
น่าลองเอามาใช้กับเด็กเข้าใหม่บ้านเรานะ เบาแรงครู รู้เลยใคมาใครขาด
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
สุชญา
23 สิงหาคม, 2010 - 20:11
Permalink
ห้องเรียน
ห้องเรียนที่นี่มีห้องน้ำในตัว เด็กๆๆใช้ห้องน้ำได้สะดวก พ่อแม่ไม่ต้องกังวลว่าลูกต้องออกไปใช้ห้องน้ำข้างนอก กลอยว่าดีคะป้าเล็กเบาแรงครูไปอีกเรื่อง
น้อย สวนบุรีรมย์
23 สิงหาคม, 2010 - 20:37
Permalink
เรื่องห้องน้ำน่าสนใจครับ
เรื่องห้องน้ำน่าสนใจครับ เมืองไทยมีแต่ห้องน้ำรวมเด็กต้องเดินไปไกลพอสมควร แม้จะจัดให้เด็กเล็กๆ ได้อยู่ใกล้ห้องน้ำแต่ก็ยังไกลอยู่สำหรับเด็กตัวน้อยๆ ที่กลั้นอุจจาระปัสสาวะไม่ค่อยได้
สวนเกษตรบุรีรมย์การเกษตรแบบเสาร์เว้นเสาร์ เน้นที่เราปลูกเองกินเอง
บริการจัดทำและดูแลเว็บไซต์ ถูก ดี มีประสิทธิภาพ
น้อย สวนบุรีรมย์
23 สิงหาคม, 2010 - 20:29
Permalink
เมืองไทยชอบบังคับให้ลูกไปโรงเ
เมืองไทยชอบบังคับให้ลูกไปโรงเรียนตั้งแต่ตัวเล็กๆ เพราะไม่มีคนเลี้ยง ถ้าโรงเรียนหรือโรงเลี้ยงเด็กเขารับได้ตั้งแต่ 3 เดือนพ่อแม่คงดีใจมาก
แต่ผมไม่เน้น อยากไปก็ค่อยไป ไม่อยากไปก็เล่นกับหมาแมวเป็ดไก่ไปก่อน
คนโตผมถามว่าจะไปโรงเรียนไหมเมื่อตอนเขาอายุพอที่จะเข้าอนุบาล 1 แต่เขาบอกไม่อยากไป เลยเริ่มที่ อนุบาล 2
คนเล็กในคำถามเดียวกันเขาบอกว่าอยากไป แต่ไปได้แค่ 1 สัปดาห์ เขาก็บอกว่าไม่ไปแล้วเบื่อเพื่อน ร้องให้อยู่ทุกวัน ผมก็ไม่ให้ไป แต่พอเปิดเทอม 2 เขาอยากไปผมก็ให้ไป
สวนเกษตรบุรีรมย์การเกษตรแบบเสาร์เว้นเสาร์ เน้นที่เราปลูกเองกินเอง
บริการจัดทำและดูแลเว็บไซต์ ถูก ดี มีประสิทธิภาพ
สุชญา
23 สิงหาคม, 2010 - 20:43
Permalink
ที่นี่
ที่นี่บางคนก็ไม่ส่งลูกไป Preschool คะเพราะคิดว่าสอนเองที่บ้านน่าจะได้มากกว่า และอีกอย่างค่าเทอมราคาแพง
ตั้ม
23 สิงหาคม, 2010 - 21:08
Permalink
จริงครับ
ต้องบอกก่อนว่าแนวอนุบาลของเมืองไทย(ในกทม.) จะมีสองแนวคือเร่งเรียนและแบบเตรียมความพร้อม กว่า 90 % พ่อแม่นิยมส่งลูกเรียนแบบเร่งเรียนไม่ใช่แค่เพียงไม่มีเวลาเลี้ยงแต่ต้องการปั้นลูกให้เป็นดาวเพื่อเตรียมสอบเข้ารร.ดังๆ..(ระดับอนุบาลบวกเลขสองหลัก คิดเลขในใจ รู้ศัพท์ภาษาอังกฤษระดับป.2 บางคนท่องสูตรคูณได้ด้วยซ้ำ พวกนี้เน้น IQ.) อันนี้ถือได้ว่าค่อนข้างโหด..และผมแอนตี้แนวทางนี้มาตลอด
ส่วนอีกแนวทางหนึ่งคือแบบเตรียมความพร้อม แนวสาธิต ไม่สอนอะไรเลยเน้นการเล่นเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมือ การเข้าสังคมกับเพื่อน การเรียนรู้สิ่งรอบตัว พวกนี้เน้น EQ. ลูกผมเรียนแนวนี้ครับ จบอนุบาลสามสอบเข้าป1.ไม่ได้ซักที่..เพราะอ่านเขียน บวกเลขไม่เก่ง ภาษาอังกฤษไม่ได้เลยแต่ผมไม่สนใจ..เพราะเชื่อว่าเด็กวัยขนาดนี้เราต้องพัฒนาอะไรเขา (อ่านหนังสือเรื่องเลี้ยงลูกเยอะมาก)
พ่อแม่ส่วนใหญ่จะรับแนวเตรียมความพร้อมไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าลูกด้อยกว่าเด็กคนอื่น..เลยไม่นิยมส่งลูกเรียน..เรื่องนี้รัฐไม่เคยเข้ามาดูแล..ผมว่ามันไม่ใช่การสร้างเด็กแต่เป็นการทำลายเด็กมากกว่า ..มุ่งแข่งขัน เอาชนะกันตั้งแต่เด็กๆ ปลูกฝังกันเข้าไปจนกลายเป็นหุ่นยนต์ที่ไร้ความรู้สึกไร้สำนึก ไร้นำใจ..
ผมบอกกับหลายคนว่าลูกผมเรียนแบบนี้ ผมเลี้ยงแบบนี้ ก็ประสบความสำเร็จได้ดีกว่าเด็กอีกตั้งหลายคนที่เรียนแบบเร่งเรียน(เห็นชัดมากในกลุ่มเพื่อน) ผมสอนหนังสือเด็ก..ผมก็จะเน้นการฝึกจากพื้นฐาน เป็นลำดับเป็นระบบและสอนแบบปัจเจคไม่ใช่แบบ classroom จะโหดหน่อยก็ตรงที่จะเน้นการเรียนแบบ self learning เป็นพี่เลี้ยงที่แนะให้คิดเอง ต่อยอดเอง ไม่ใช่สอนให้ทำตาม
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
หน้า