พัก(ก่อน)ผ่อน
บ้านสวนพอเพียงคือ บ้านหลังน้อยที่กำลังเติบโต หากแต่เตาะเตะ สองปีผ่านสำหรับความน่ารักน่าชัง สองปีที่ประคบประงม ส่งผ่านสายใยรักผูกพันธ์สำหรับการใส่ใจดูแล จนเมื่อเด็กเริ่มเดินและเปิดการเรียนรู้สู่โลกกว้างได้
ความห่วงใยหนูน้อย จากสายตาผู้ที่เจนโลกก็ย่อมจะหนักหน่วงเป็นธรรมดา ด้วยเธอถึงเดินและวิ่งได้ “หากแต่เธอยังอยู่ในช่วงอรุณแย้มแห่งวัยเยาว์”
เราตื่นขึ้นมายามเช้าเพื่อเลือกรับกาแฟ ชา หนมจีบ ซาลาเปา จากขาประจำที่ร้านเดิม
อาจมีบ้างที่แม่ค้าขาจรในท้องที่จะผละจากงานประจำที่เต็มมือ แอบมารับไม้ชิงช่วงตลาดกาแฟยามเช้า ตอนที่เจ้าเดิมประจำไม่อาจอยู่ อย่างประสานรู้ทันและเข้าใจ
ถึงกระนั้นเราก็จะเห็นสมาชิกหน้าตาหลากหลาย งัวเงียตื่นนอน หอบหิ้วสารพัดขนมเวียนแวะมานั่งหาความสำ(ราญ)หร่อย เข้ามาร่วมแจม แลกเปลี่ยนกับแกล้มเนื้อหาสาระกัน
ได้กินบ้างไม่ได้กินบ้าน ล้วนแต่มือใครจะยาวกว่าและแย่งทัน แน่นอนผมคือชายผู้มามือเปล่าคนนั้น ที่ออกแรงมากสุดคือการนั่งรอและขอคนอื่นๆกิน ฮา..
เรารับอาหารเที่ยง จานโตสองสามอย่าง(กะละมัง)ที่ทานได้ทั้งครอบครัวจากเพื่อนที่อยู่ต่างห่างไกล สารพัดเมนูที่สับเปลี่ยน ไทยบ้าง ฝรั่งบ้าง ญี่ปุนบ้าง มอนเตบ้าง อร่อยกันพอประมาณตามแต่ความชื่นชอบส่วนบุคคล ก่อนตบท้ายด้วยน้ำใจที่เติมเต็มอยู่ในแก้วมิตรภาพใสอย่างระรื่นคอ
ละสายตาปริ่มรับจรรโลงใจมายังถาดของว่างผลไม้ที่บรรจงแกะลายวิจิตร จากมิตรผู้มีความอดทน ความเพียร(วิริยะ)เป็นต้นทุน ที่ไม่แม้แต่ชาตินี้จะได้ยลพบสบตา
เว้นวรรคเอนกายผ่อนพุง สบพักตร์กับวัชพืชดอกหญ้าสามัญที่เผลอผ่านข้ามอย่างเคยคุ้นแทบทุกวัน ดอกอะไรนี่ ในสวนเราก็มีนี่น่า พลางย้อนนึกถึงหัวใจอันสุนทรีย์ ชื่นชมความละเมียดละไม ของหัวใจคนที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรื่นรมออกมาทางภาพ อย่างสังเกตและเจตนา
ที่วันนี้ทำให้เราต้องนั่งตรองดู เฮ้ย..มันสวยนี่หว่า ไปอยู่ไหนมา.. ??
“ดอกไม้มันยังอยู่ในที่ของมันรอให้เราเข้าไปสัมผัสเชยชม แต่เราเล่าที่ละเลยไปอยู่ไหนมา..”
“แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ว่าเป็นดอกไม้ป่าแล้วจะเลือกหมายมาเชยชมได้ทุกทีที่อยากเจอ เธอก็หยิ่งเป็น ชูช่อก่อเห็นแค่บางช่วงแห่งหับฤดู...”
ถูกสะกิดด้วยคำถาม ต้น(ดอก)อะไรเอ่ยให้ตื่นจากภวังค์คิด คลิกเขยื้อนรับ ปรารถนาหวังในลาภผลแห่งรางวัลประโลมใจ (บ้าเอ้ย...ไม่ทัน โดนปาดหน้าตอบเฉยโดยพลัน ฮา...ความจริงไม่รู้ แต่วางภูมิเคร่งหรูมีฟร์อม)
ขับเน้นเนื้อหาเคลื่อนที่สาระสลับห้วงในบางช่วงระหว่างวัน ให้ได้ขบคิด ติดตามเร่งลุ้น สรวญเสเฮฮา ลุกบ้า อสาระให้เป็นที่ครื้นเครง(โดยเฉพาะผม ฮา)
“ถูกตามถามติดด้วยอารมณ์เป็นห่วง ในความเป็น มี อยู่ คือ ของเรา แม้นขณะที่เพิ่งชำระล้างความอ่อนระทวยระหว่างวันหรือแม้นแต่ริมเตียงนอนในหับห้องก็มิมีข้อยกเว้น หากเปิดรับ” (อะไรกันนักหนานะ...ภริยายังไม่เคยจะถามไถ่ร่ายความตามเราขนาดนี้ ...เอ่อจริงแฮะ เราก็ไม่เคยถาม “เตียงเคียงนอน(เมีย) หมอนเคียงตัก(แม่)” อย่างนี้เหมือนกัน ฉุดใจให้ได้สติไป..ให้ย้อนถามตัวเองอีกแบบ
ถูกความอยากปลุกให้ลุกมาลิ้มชิมของว่างรอบดึกจานโตที่บรรจงวาง โชคดีสำหรับใครก็ตามที่นอนดึก
แน่นอนช่วงนี้เป็นช่วงที่สามารถซึมซับกลิ่น มีเวลาให้ลิ้นได้สัมผัส รสชาติของความเป็นเนื้อหาของว่าง สาระสมาธิแท้ ก่อนนอนอย่างไม่ต้องแย่งกัน
“สุขใจที่ได้รับ สุขรับก็แบ่งปันกลับไป อย่างนี้ ทุกช่วงเวลานาทีแห่งวัน”
เด็กก็คือเด็ก เยาว์วัยแห่งความสุขนั้นมักจะแสนสั้น การประคับประคองด้วยความรักที่เปี่ยมล้น การหวาดกลัววิตกต่อก้าวย่างที่สำคัญเยี่ยงนี้ จึงเป็นเรื่องที่สมควรและสำคัญ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของการที่เด็ก จะต้องเดินอยู่ได้ด้วยตัวเอง
หนทางชีวิตข้างหน้าเธอเด็กน้อย ยังต้องพบเจอเรื่องราวอีกมากมาย ปล่อยให้เธอได้อยู่กับตัวเอง ถามเอง คิดเองบ้าง ปล่อยให้เธอได้สัมผัสกับชีวิต ปล่อยให้เธอได้สมสร้างภูมิคุ้มกันที่มิอาจสอน ปล่อยให้เธอก้าวเดินอิสระในขณะที่เราเฝ้ามองเธอด้วยรอยยิ้มซึมน้ำตา
“เพราะอย่างน้อยเธอรู้แล้วว่า ใครที่เป็นห่วง รักและพร้อมจะปกป้องเธอมากแค่ไหน”
“บ้านสวนของเรา ครอบครัวของเรา”
- บล็อกของ มานี มานะ วีระ ชูใจ
- อ่าน 7005 ครั้ง
ความเห็น
น้อย คนแต่แรก
27 พฤษภาคม, 2011 - 10:16
Permalink
อ่านเพลินดี
เขียนบ่อยๆนะจะได้ไม่ต้องหาซื้อหนังสือมาอ่านเข้าบ้านทีจะได้ไม่เสียเที่ยวได้เยี่ยมพี่น้องพร้อมอ่านข้อความดีๆ:love:
วันดี
27 พฤษภาคม, 2011 - 11:54
Permalink
ใช้นามปากกาว่าไรบ้างคะ
นักเขียน นิ!!! จะขอตามอ่านต่อ....
ยุพิน เทลเก็น
27 พฤษภาคม, 2011 - 21:09
Permalink
คุณมานีฯ
เข้าใจคิด เข้าใจเขียน อยากให้เขียนมาบ่อยๆชอบอ่านจะได้ไม่ต้องไปเสียตังค์ซื้อหนังมาอ่าน เข้ามาอ่านฟรีๆดีกว่า ได้ทั้งสาระ ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ขอบคุณค่ะ
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
หน่อยคนสุพรรณ
29 พฤษภาคม, 2011 - 19:56
Permalink
ขอบคุณ สำหรับข้อความคิดดีดี
ขอบคุณ สำหรับข้อความคิดดีดี
เดชา แสง
15 สิงหาคม, 2011 - 17:03
Permalink
ไปเยี่ยมคุณสุพรรณ
ไปเยี่ยมคุณสุพรรณ เมธสารมาก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณสุพรรณ เมธสารเพราะเจ้าตำหรับไผ่ปักกิ่ง และหม่าจู และปลูกข้าวในน้ำแม่น้ำท่าจีนก็ขาดกำลังใจเกิดการท้อแท้บางอย่างก็ขอเอาใจช่วยถ้าใครอยู่ใกล้โรงพักสามชุกก็ไปให้กำลังใจกันหน่อยโดยลำพังแกก็ทำเพื่อสังคมเสียส่วนใหญ่ใครได้พบแล้วรู้สึกไม่เบื่อคุยสนุกและเฮฮาได้ความรู้มากไม่ถือตัวอยู่อย่างพอเพียงจริงๆไฟฟ้าไม่มีใช้เตียงไม่ต้องนอนตู้เสื้อผ้าไม่ต้องมีแต่สามสามารถให้ความรู้่กับผู้อื่นอย่างไม่คิดค่าอาหารน้ำต้อนรับอย่างดีโดยอาศัยน้องข้างๆบ้านเป็นผู้ออกค่าอาหารโดยการบรรยายทั้งวันไม่คิดค้าใช้จ่ายไดๆอย่างนี้จะเอาอะไรมากินกันนอกจากหัวใจเต็มร้อยถ้าเพื่อนๆสมาชิกท่านใดไม่รู้ควา่มจริงก็คิดว่าสุพรรณ เมธสาร มีเงินมีธุรกิจอย่างคนอื่นเขา เปล่าเลยครับคิดผิด ผมได้รู้จักมาพอสมควรแล้วจึงรู้ว่าคนที่ให้ความรู้เขาไม่เอาสตังค์เขานั้นนะจะกินอะไรเป็นผู้ให้อย่างเดียวไม่ทำธุรกิจเหมือนคนอื่นเขาทั้งๆที่ตัวเองเป็นต้นตำหรับไผ่แท้ๆ ผมขอปรบมือให้คนดีศรีสุพรรณ
jo korakod
15 สิงหาคม, 2011 - 20:15
Permalink
ประทับใจ
อ่านแล้วประทับใจค่ะ เรียงร้อยเรื่องราว
ได้น่าสนใจ และ สมจริง กับบ้านนี้มากๆ
ขอบคุณค่ะ
:admire2:
facebook https://www.facebook.com/ninkmax
มานี มานะ วีระ ชูใจ
24 สิงหาคม, 2011 - 10:59
Permalink
Re: พัก(ก่อน)ผ่อน
ขอบคุณครับ...ที่รับปะทานจนหมดคำ... :sweating:
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
น้ำหวาน
3 กันยายน, 2011 - 22:59
Permalink
Re: พัก(ก่อน)ผ่อน
วันนี้พักผ่อนด้วยการมาอ่านงานเขียนเก่าๆ ของพี่นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่นะค๊ะ
วรางค์คณา
14 มิถุนายน, 2012 - 08:49
Permalink
Re: พัก(ก่อน)ผ่อน
เฮ้อกำลังจะเข้ามาพักเหน่ือยในบ้านสวนซะหน่อยพอดีที่บ้านมีงานเข้าเมื่อเช้าหาทางออกไม่ได้เลยวีนกับคนที่บ้านซะยกใหญ่วันนี้จึงขอระบายซักนิดนะแต่เวลาน้อยมาก
หน้า