คลาน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

คลาน


 


     จั่วหัวเรื่องไว้สั้นๆ แต่มีความหมายนะคะ พูดถึงการคลาน อาจนึกถึงเด็กเล็กๆ น่ารักน่าเอ็นดู อาจนึกถึงเจ้าตัวน้อยๆน้องๆที่บ้าน หรือไม่ในหนังทะเลทรายที่คนขาดน้ำหมดเรี่ยวแรงถึงกับต้องคลาน หรือบางครั้งที่เจ็บปวดหรือป่วยหนักอาจจะถึงกับต้องคลาน(ขออภัย...นะคะ )


     ค่ะ เคยได้อ่านหนังสือและบทความเรื่องการคลาน หลายครั้งเมื่อพูดถึงการคลานเราจะนึกถึงเด็กเล็กที่คลาน  การคลานของวัยเด็กที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  จะมีพัฒนาการตามลำดับ ด้วยการคลาน ทั้งนี้ยังเป็นการออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อและระบบประสาทเกิดความแข็งแรง  ดังนั้นการปล่อยให้เด็กได้มีโอกาสคลานจะช่วยให้เด็กแข็งแรงขึ้นได้อย่างดี


เมื่อเข้าวัยที่เริ่มเจริญเติบโตเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ที่มีการออกกำลังกายอย่างรุนแรงหรือหักโหม มีการกระโดดโลดเต้น หรือมีอุบัติเหตุในการดำเนินชีวิตประจำวัน อาจส่งผลให้โครงสร้างร่างกายเสียสมดุลก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือเป็นโรคเรื้อรังได้     และเมื่อสู่วัยสูงอายุก่อให้เกิดภาวะเจ็บปวดหรือโรคเรื้อรัง แน่นอนที่บ่อยครั้งมักมีเหตุสืบเนื่องมาจากโครงร่างกายเสียสมดุลนั่นเอง


วันนี้จึงอยากนำข้อมูลที่น่าสนใจจากหนังสือ อนามัยสำหรับผู้สูงอายุ(สำนักพิมพ์สุขภาพใจ) โดยนิตยา ศรีสังวาลย์ กล่าวถึงการคลานเพื่อสุขภาพ และจาก วิธีพิเศษเพื่อสุขภาพ(สำนักพิมพ์สุขภาพใจ) โดย หวางต้าหยง กล่าวว่า การออกกำลังกายด้วยการคลาน หรือเรียกอีกอย่างว่าการเดินด้วยแขนและขา มีส่วนช่วยให้ร่างกาย อวัยวะ และระบบกระดูก ได้รับการบริหาร  ส่งผลให้แพทย์เฉพาะโรคหลายท่านให้ความสนใจกับการออกกำลังกายด้วยวิธีการนี้ โดยมีการติดตามศึกษาจากธรรมชาติการคลานของลิงมาช่วยในการบำบัดอาการเมื่อยล้าที่เอวและกระดูกสันหลังที่คดงอ และติดตามพฤติกรรมการคลานของสัตว์ต่างๆ พบว่า สัตว์นั้นปราศจากโรคเส้นเลือดแข็งตัว โรคหลอดเลือดหัวใจ ริดสีดวงทวารและเส้นเลือดขอด จึงได้จัดให้ผู้มีอายุหกสิบปีขึ้นไป  ออกกำลังกายโดยการคลานในห้องโถงวันละ ยี่สิบถึงสามสิบนาที  โดยเริ่มจากค่อยเป็นค่อยไป จากช้าไปเร็ว จากระยะเวลาที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น อย่าคลานก่อนหรือหลังอาหารเพราะจะรบกวนระบบย่อยอาหาร พบว่า มีผลดีเป็นส่วนใหญ่  ทั้งนี้วิธีการดังกล่าว ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนคล่อง มือและเท้าทั้งสี่รองรับน้ำหนักของร่างกาย  แบ่งเบาภาระของกระดูกบั้นเอว


    ได้มีข้อมูลอย่างนี้แล้ว สนใจบ้างไหมคะ กับการออกกำลังกายย้อนวัย กลับสู่สภาพที่ครั้งหนึ่งเป็นเด็กได้ออกกำลังกายกันมาบ้างแล้ว ขอได้โปรดอย่าเพิ่งเกี่ยงงอนวิธีการเลยนะคะ แต่ขอนำเสนอวิธีการออกกำลังกายนี้ ...ภาพของสิงห์โต ราชสีห์ หรือเสือ หรือ แมว จะเห็นท่าทีที่ค่อยๆเยื้องย่าง กลุ่มกล้ามเนื้อที่ยืดและหดร่วมกับโครงกระดูกที่ขยับเคลื่อนสอดรับล้วนแต่เป็นสิ่งที่ปรับให้แต่ละข้อของกระดูกแต่ละมัดของกล้ามเนื้อเข้าสู่สภาพที่ธรรมชาติจัดสรรให้....หากสนใจบ้าง ยังไม่ต้องบอกใครก็ได้ค่ะ แอบๆซักซ้อมทำเงียบๆไปก่อนเพื่อที่เมื่อเกิดความแข็งแรงแล้ว เวลานั้น จะมั่นใจได้มากขึ้นว่าการคืนสู่สภาพการเดินด้วยมือและเท้าทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้จริง  หากเป็นแต่น้อยอาจไม่ต้องพึ่งพายาเลยก็ได้ ถ้าหากเป็นมากอาจลดการใช้ยาให้เหลือน้อยลง และหากไม่ป่วยไข้ใดๆ ก็จักได้เป็นผู้สูงอายุผู้แข็งแรงมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคตได้


 


ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ กับ สมช.บ้านสวนฯทุกท่าน ที่ให้ความสนใจเรื่องการ “คลาน”


 


 


 


ขอขอบคุณ ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการบันทึกนี้จากเว็บ


www.elib-online.com/doctors2/child_development08.html - www.trangmc1.ob.tc/position.html -


 


 


 


 

ความเห็น

น้ายังงงๆ ไม่เข้าใจ อยู่ดี ถ้าจะให้ดีน้าต้อง ใส่ถุงมือ และสนับเข่า หมวกกันน็อก แล้วแสดงท่าที่ถูกต้องครับ ถ่ายเป็นขั้นตอน คนโง่ แบบผมได้ไม่งงต่อ ไป Cool

ตุ้ย คงไม่ใช่เรื่องที่กล่าวถึงว่าโง่ไม่โง่น่ะค่ะ แต่พอดีว่าในหนังสือเล่มที่ว่าอธิบายอย่างนั้น เลยนำมาถ่ายทอดอีกทีน่ะค่ะ ต้องขออภัยที่สื่อสารไม่ได้อย่างที่ใจอยากบอกน่ะค่ะ

ล้อเล่นน้า มีเจตนาให้น้า ถ่าย ท่าโชว์ อุสาตห์ ใส่ เครืองหมายใบหน้า ให้รู้ไวว่า ไม่ได้ ก้าวร้าว เรื่อง คลานเข้าใจมานาน แค่ ต้องการยุ น้าถ่ายภาพตัวเอง ทำท่ามาลง โทษทีครับ

อ้อ มีแผนการ แล้วก็ไม่บอกแต่แรก

ลองดูไม่เสียหายนี่ค่ะ ไม่ว่าจะออกกำลังกายท่าไหนก็ได้ขยับแขนขาเหมือนกัน ถือว่าเป็นการออกกำลังอีกรูปแบบหนี่งค่ะ

เห็นด้วยเช่นกันค่ะ คุณข้าวเหม่า หากว่าทำไปแล้วเกิดเป้นผลดี ก็จะดีมาก ตัวผู้ปฏิบัติเองก็เป็นผู้ได้คำตอบ  ฉะนั้น หากว่าลองก็คงไม่เสียหายจริงๆ แต่อาจต้องลองด้วยระยะเวลาหนึ่งที่น่าจะนานพอควรนะคะ

การออกกำลังกายแบบธรรมชาติอย่างที่เจ๊สายว่าดีที่สุด  ไม่ต้องเสียเงินประหยัด  คนสมัยนี้จะออกกำลังทีก็ต้องเข้าฟิตเน็ต  เสียดายตังค์แทน

ได้แนวร่วมอีกคน หากว่าได้ผลอย่างไร คุยบอกกันบ้างนะคะ ไม่ก็เล่าแลกเปลี่ยนกัน เห็นด้วยค่ะ ว่า ไม่ต้องเสียเงินมากแถมปลอดภัยกว่าอีกต่างหาก

ถ้าว่าดีก็จะลองดู  ไม่ได้เสียหายอะไร 

หากว่าได้ฝึกอย่างสม่ำเสมอ น่าจะได้อะไรที่เป็นคำตอบ...ยินดีด้วยค่ะ ที่เห็นว่าไม่เสียหายอะไรหากจะลองดูบ้าง

หน้า