สาระน่ารู้ ลอกมาฝาก สมช.
"ใบบัวบก" อาหารสมอง
อาการขี้หลง ขี้ลืม สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของโรคความจำเสื่อมหรือไม่ก็ได้ บ้างก็ความจำสั้น บ้างก็จำได้แต่เรื่องที่ผ่านเนิ่นนานมาแล้ว แต่ก่อนที่จะเข้าใกล้โรคความจำเสื่อม ควรป้องกันด้วยโภชนาการที่ถูกต้อง
อาหารที่อุดมด้วย "วิตามินบี" จะเป็นพื้นฐานที่ช่วยบำรุงระบบประสาทให้แข็งแรงเริ่มจาก วิตามินบี 1 มีมากในข้าวกล้อง รำข้าว นม ขนมปังโฮลวีต ซึ่งวิตามินบี 1 จะช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรต เสริมสร้างความแข็งแกร่งของจิตใจ ทำให้ระบบประสาท กล้ามเนื้อ และหัวใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่อาหารจำพวกปลา ปลาร้ากะปิ ตับ ไข่ นม เนื้อสัตว์ทุกชนิดนั้นจะมีวิตามินบี 12 มากซึ่งช่วยสร้างเม็ด เลือด ช่วยการทำงานของระบบประสาท ความทรงจำสมาธิ อย่างไรก็ตาม หากคุณวิตกกังวลว่าจะเป็นโรคความจำเสื่อมแต่ไม่สามารถทานอาหารต่างๆ เพื่อให้ได้วิตามินบีที่เพียงพอ แนะนำให้ทานวิตามินบีรวมเพียงวันละเม็ดในตอนเช้าก็น่าจะช่วยได้ หลายคนไม่เคยรู้ว่าสมุนไพรสีเขียวเข้มรสออกขมอย่าง "ใบบัวบก" ได้ถูกนำมาใช้บำบัดอาการที่เกี่ยวข้องกับสมองมาเป็นเวลานาน และให้ผลเป็นที่น่าเชื่อถือจนได้ชื่อเรียกว่า "อาหาร สมอง"
เพราะคนสมัยก่อนเชื่อว่าการทานใบบัวบกจะช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานสำรองให้กับสมอง และได้ผลดีทั้งในแง่ของการรักษาส่วนของสมองที่ถูกทำลายแล้วให้ดีขึ้น และยังป้องกันไม่ให้สมองที่เป็นปกติอยู่ถูกทำลายหรือเสื่อมลง
นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการลดความเครียดจากการทำงานหนัก ปรับปรุงระบบการรับส่งกระแสประสาท ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน ทั้งในแง่ของกำลังกาย และกำลังสมองควบคุมระดับแรงดันโลหิตให้เป็นปกติ ใบบัวบกได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรยอดนิยมของชาวตะวันตกเลยทีเดียว แต่สำหรับคนไทยแล้วแนะนำให้ทานสดด้วยการจิ้มน้ำพริก นำมาปั่นหรือคั้นน้ำรับประทาน
อาหารอีกชนิดที่การแพทย์แผนจีนเชื่อว่าสามารถระงับอาการความจำเสื่อมได้ก็คือ "แปะก๊วย สกัด" แต่ไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ ขณะที่เลซิตินที่ได้จากถั่วเหลืองและธัญพืชอีกหลายชนิด สามารถลดอาการหลงลืมระยะสั้น และป้องกันอัลไซเมอร์ได้ แต่ก็ไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้เช่นกัน นอกจากนี้ผักและผลไม้ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยเสริมความจำ และชะลอความเสื่อมของสมองได้ เช่น ผักโขม สาหร่ายสไปรูลินา แอปเปิล วิตามินอีแต่ยังไม่มีการศึกษาว่าต้องทานในปริมาณเท่าใดจึงจะได้ผล
ข้อมูลจาก :วิชาการดอทคอม
- บล็อกของ เปี๊ยก
- อ่าน 6699 ครั้ง
ความเห็น
จันทร์เจ้า
14 ธันวาคม, 2010 - 20:31
Permalink
โอ ขอบคุณค่ะ
คิดว่า ใบบัวบก เป็นยาสำหรับคนที่มีอาการอกหักเท่านั้น ขอบคุณความรู้นะคะ อิอิ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
14 ธันวาคม, 2010 - 22:07
Permalink
แก้อกหักได้ด้วยเหรอ
ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย หนูเคยได้ยินแต่ว่า แก้ช้ำใน
มาอีก คุณสมบัติแล้ว
Slowlife
15 ธันวาคม, 2010 - 20:45
Permalink
คนอกหัก
คริๆๆๆ คุณแก้ว ก็คนอกหักนี่มันช้ำข้างในไงคะ ก็เลยต้องกินใบบัวบกแก้ช้ำใน
บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน
เปี๊ยก
14 ธันวาคม, 2010 - 20:35
Permalink
เห็นว่าน่าสนใจเลยลอกมาฝาก
ไปพบบทความจาก "วิชาการดอทคอม" เห็นว่าน่าสนใจ เพราะเป็นความรู้เกี่ยวกับผักพื้นบ้านที่มีอยู่ทั่วไป เลยลอก(ทั้งดุ้น)เอามาฝาก สมช. บ้านสวน ต้องขอขอบคุณข้อมูล จาก วิชาการดอทคอมครับ (ไม่ใช่ของผมหรอก ฮิ ฮิ)
ยายอิ๊ด
14 ธันวาคม, 2010 - 20:45
Permalink
น้องเปี๊ยก
ภาพด้านบน ไม่ใช่ใบบัวบกนี่ค่ะ ยายอิ๊ดว่าไม่ใช่นะ ใบผิดกันค่ะกับบัวบก ใช่มั้ยเนี่ย ทำไมอ้วนอย่างนั้น ที่ยายอิ๊ดเห็นเขาปลูกกัน ใบหยักๆนี่ ค่ะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
เปี๊ยก
14 ธันวาคม, 2010 - 20:47
Permalink
ตะกูลเดียวกัน
เป็นใบบัวบกชนิดหนึ่ง มีชื่อเฉพาะของตัวเองว่า"แว่นแก้ว" ครับ เหมืนกับใบเล็บครุฑที่มีหลายแบบ และสำหรับชนิดนี้ก็กินได้เหมืนกันครับ
ยายอิ๊ด
14 ธันวาคม, 2010 - 20:51
Permalink
เปี๊ยกค่ะ
ยายอิ๊ด ปลูกไว้เหมือนกันค่ะในอ่างเลี้ยงปลา เข้าใจเหมือนลุงโรสค่ะ เพราะที่นำมาทำน้ำบัวบก และชา และข้าวเกรียบ อีกชนิดหนึ่งค่ะ ตามในภาพข้างแก้ว ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ นครศรี จังหูค่ะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
rose1000
14 ธันวาคม, 2010 - 20:43
Permalink
แว่นแก้ว
คุณเปี๊ยก รูปแรกไม่ใช่บัวบกนะครับ แต่เป็น "แว่นแก้ว"
ส่วนรูปที่สองที่แก้วน้ำด้วย อันนั้นจึงจะใช่ บัวบก
เปี๊ยก
14 ธันวาคม, 2010 - 20:50
Permalink
คุณโรส
ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบ
ป้าเล็ก..อุบล
14 ธันวาคม, 2010 - 20:50
Permalink
ว่าจะถามพอดีเลย
ที่บ้านมีแว่นแก้วเยอะมาก แต่บัวบก ปลูกไม่ค่อยขึ้น ว่าแล้วก็ถามต่อเลย แล้วแว่นแก้ว มีประโยชน์ด้านไหน
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
หน้า