น้องนนท์

หมวดหมู่ของบล็อก: 

               ภาพที่ท่านเห็นต่อไปนี้ เป็นภาพครอบครัวชาวบ้านชนบท บ้านตรงข้ามบ้านแดงเองค่ะ   น้องนนท์ วัยไม่ถึง 5 ขวบ ช่วยแม่สับมันสำปะหลัง ก่อนนำไปตากให้แห้ง  ไม่มีการบังคับ และไม่ใช่การใช้แรงงานเด็ก ภาพนี้แดงเห็นจนชินตา ครอบครัวนี้มี สี่คนพ่อแม่ลูก น้องนนท์เป็นพี่คนโต วัยไม่ถึง 5 ขวบ มีน้องชายเล็ก ๆอีกคนวัยขวบกว่า  ตอนกลางวัน พ่อจะไปขุดมันใส่รถไถนาคูโบ้ตา (แถวบ้านแดงจะเรียกรถอีแต๊ก) ตอนเย็นจะขนมาบ้าน แม่กับน้องนนท์จะมีหน้าที่สับมันให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปตาก แดดจัดหน่อยก็ 3-4 วันก็แห้ง แล้วนำไปขาย ตอนนี้ กก.ละ 6.30 บาท นับว่าราคาดีมาก ๆ  น้องนนท์ไม่ได้ทำเล่น ๆ แต่ทำช่วยแม่จนเสร็จ ชำนาญการใช้มีด ทำเร็วทำสวย แดงขอลองแต่สู้เด็กคนนี้ไม่ได้

                    แถวบ้านแดง ครอบครัวชนบทจะเลี้ยงลูกแบบให้ช่วยเหลือตัวเอง ไม่ค่อยเจ็บป่วย แข็งแรง ช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง เด็กแถวบ้านแดงเด็กอายุแค่นี้ี้ดูแลน้องได้ ใส่เบ็ด ตกปลา หากบเขียด หน่อไม้ มาให้พ่อแม่ทำกับข้าวได้แล้วค่ะ

                                                         โปรดติดตามตอนต่อไป.....................

ความเห็น

แต่เสียวกลัวพลาดเหมือนกัน นะ

โดนมีดบาดจนชินแล้วล่ะพี่ เด็กในชนบทก็แบบนี้ค่ะ อ่อนแอสำอาง เอาตัวไม่รอดหรอกค่ะ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

      บุพการีเขาฉลาดเลี้ยงลูก...... คุณภาพชีวิตที่มีค่าเป็นบวก รออยู่ข้างหน้า ครับ

แดงก็คิดแบบลุงพาโลค่ะ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

คนละเรื่องเลย แต่เด็ก ในเมืองก็ขยันนะ ขยันเรียน และ เล่นเกมส์

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

เห็นแบบนี้เค้ามีความสุขนะั เราเห็นแม่เค้ามาตั้งแต่เด็ก ก็ถูกเลี้ยงมาแบบนี้ เป็นครอบครัวที่ไม่คิดอะไรมากมาย

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

เป็นตัวอย่างที่ดีมากเลยค่ะพี่แดง  แต่ก่อนสมัยหนูเป็นเด็กก็จะถูกเลี้ยงให้ช่วยเหลือตัวเอง ต้องเลี้ยงน้องให้พ่อแม่ ต้องช่วยงานบ้านและงานอื่นตามกำลัง พอช่วยงานนอกได้ เช่น ในไร่ ในนา พ่อแม่ก็จะพาไปฝึกหัดทำ เหนื่อยเมื่อไรก็พัก ตอนเด็กเรารู้สึกเหนื่อยตามประสาเด็กนะคะ แต่ความเคยชิน กลายเป็นเหมือนหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบไปเรื่อย ๆ เช่นต้องตักน้ำใส่โอ่งไว้ให้พ่อแม่ หุงข้าวทำกับข้าวไว้ให้ก่อนพ่อแม่กลับจากนา โตมาก็ต้องไปช่วยงานในนาเต็มที่ เกือบจะไม่ได้เรียนต่อเพราะแม่ป่วย ต้องทำนาสองคนกับพ่อ น้องยังเล็ก ต้องขี่จัรกยานไปเรียน กศน. ที่ตัวอำเภอทุกวันเสาร์อาทิตย์ ว่างจากนาตัวเอง ก็ไปรับจ้างที่อื่น ไม่ว่าจะไร่อ้อย ตัดถั่วเหลือง เกี่ยวข้าว ดำนา ก่อสร้าง เย็บผ้า รับจ้างหมด พอมาถึงตอนนี้รู้สึกว่าชีวิตที่แสนเหนื่อยของเราที่ผ่านมา มันช่างมีคุณค่ามากเลยค่ะ พ่อยังแซวกับน้องสาวหนูอยู่จนทุกวันนี้เลยว่าชีวิตหนูน่าจะเขียนนิยายได้ 1 เรื่องเลย อิอิ นาน ๆ หนูจะเล่าชีวิตหนูให้เพื่อสนิทฟังสักครั้ง  รุ่นน้องที่ทำงานด้วยกันยังไม่ค่อยจะเชื่อเลยว่าทำมาขนาดนั้นเลยหรือ  แต่นี่คือความภูมิใจของเรานะคะ....พี่แดงเขียนบล๊อกนี้หนูก็ได้แรงบันดาลใจเพิ่มขึ้นในการที่จะเลี้ยงลูก และปลูกฝังลูกต่อไปค่ะ

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

ชีวิตพี่ก็ไม่แตกต่างจากน้องโน่หรอกค่ะ เคยรับจ้างตักน้ำ หาบละบาท ตอนนี้เล่าให้ใครฟังคงไม่เชื่อ พี่เข้าใจน้องโน่นะ 

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

สงสัยต้องเปิดบล็อกนี้ให้ลูกชายพี่ดูแล้วล่ะ....ลูกชายพี่คุณหนูเทวดาจริง ๆ ลูกพี่ 14 แล้วบางครั้งพี่ยังป้อนข้าวให้อยู่เลย  จริง ๆ

มีความสุขกับการที่ได้ให้มากกว่าการที่ได้รับ

ชีวิตชนบทก็แบบนี้ค่ะพี่

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

หน้า