"ทะเลาะ" อย่างไรให้ชีวิตคู่ยืนยาว

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ขอให้มีความสุข ยืมเขามา เห็นว่าได้ข้อคิดดีค่ะ

"ทะเลาะ" อย่างไรให้ชีวิตคู่ยืนยาว

หลายคนมักมีความเชื่อหลังจากที่ผ่านประสบการณ์ตรงในการใช้ชีวิตคู่ว่า “การทะเลาะกันจะทำให้รักกันมากขึ้น” ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า การทะเลาะกัน ทำให้คนเราได้มีโอกาส “ง้อ” กัน และ “เข้าใจ” กันและกันมากขึ้น  แต่ทว่ากว่าคนสองคนจะกลับมารักกัน เข้าใจกัน และยอมคืนดีกันเหมือนเดิมนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยังไม่ลดทิฐิในตัว และไม่เห็นแก่ความรัก ความผูกพันที่ร่วมสร้างกันมา   ทั้งนี้ เราจะเห็นได้จากตัวอย่างของบางครอบครัวที่ทะเลาะกันจนแทบเป็นเรื่องธรรมดาแต่เขาก็ยังอยู่ด้วยกัน ไม่คิดทิ้งกันไป ในทางกลับกันคนหลายคนก็ต้องตัดสินใจแยกทางกันเพราะทะเลาะจนถึงทางตันก็มี
อย่างไรก็ดี 2 กรณีนี้มีปัญหาเหมือนกัน คือ “ทะเลาะเบาะแว้ง” แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมหลายครอบครัวไม่เลือกการหย่าร้างมาเป็นทางออกและมองว่า การทะเลาะกันไม่ได้นำไปถึงทางตันของชีวิตคู่ ก่อนที่เขาทั้งคู่จะอภัยกันและกันนั้น วินาทีที่อารมณ์ร้อนเหมือนไฟกันทั้งคู่ เขาทำอย่างไรถึงยังอยู่ด้วยกัน และรักกันเหมือนเดิม
ดังนั้นจากประสบการณ์ตรงของหลายๆคู่ ต่างมีความเห็นตรงกันในเรื่องของข้อห้ามหรือกฎกติกาในการทะเลาะกันของสามี-ภรรยา เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติไม่ให้ล้ำเส้นหรือทะเลาะเกินงามดังนี้
1. “ความผิด” ที่โยนกันไป-มา
เคยไหมที่คำว่า "คุณไม่เคยเข้าใจฉันเลย" ทำให้อะไรๆ กลับยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม คุณอาจจะเมินหน้าหนี ไม่พูดไม่จากัน คุณอาจจะหันหลังให้กันในขณะที่บรรยากาศแห่งความน่าอึดอัดนั้นจะยังคง อัดแน่นอยู่ในหัวใจ
นั่นเป็นเพราะความเข้าใจกันเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ความรักมั่นคง คุณจึงไม่ควรโทษว่าความผิดพลาดหรือการกระทบกระทั่งกันด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้น เป็นผลมาจากการที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ใส่ใจหรือรักที่นับวันจะยิ่งลดน้อยลงจนคุณรู้สึกได้บางครั้งมันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น
เรื่องของคนสองคนไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนผิดเสมอไปท้ายที่สุดคุณอาจพบว่าเรื่องจริงของความไม่เข้าใจนั้นอาจเกิดจากการที่คุณสองคนไม่รู้จักปรับตัวเข้าหากันก็เป็นได้
2. กำจัด “จุดอ่อน” พูดทุกครั้งเมื่อทะเลาะกัน
เมื่อถึงจุดหนึ่งที่คุณไม่รู้จะยกอ้างสรรหาคำพูดอะไรที่จะมาด่าทอใส่กัน คุณอาจจะพลั้งเผลอยกเอาข้อด้อยของอีกฝ่ายขึ้นมาพูดอย่างไร้เหตุผล หลายคู่ต้องจบกันด้วยสาเหตุจากเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้เอง
ทุกคนควรตระหนักไว้ว่า ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่คุณจะหยิบยกเอาจุดอ่อนของคนรักขึ้นมาพูดเพราะก่อนที่คุณจะคบกันนั่นหมายความว่าคุณสามารถยอมรับความเป็นตัวเขาหรือเธอได้ตั้งแต่แรกแล้ว ดีไม่ดีการกระทำเช่นนี้อาจทำให้คุณดูแย่ลงในสายตาคนรักและสุดท้ายคุณอาจจะกลายเป็นคนผิดในเรื่องนั้น ๆ ก็เป็นได้
3. คุยเรื่องเก่าเป็น "ครั้งที่ล้าน"
เรื่องเก่าๆ ก็คือเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ประโยชน์อะไรที่คุณจะไปรื้อฟื้นมันขึ้นมาเพื่อทำให้บรรยากาศที่มันคุกรุ่นอยู่แล้วยิ่งแย่ลงไปอีก คุณรู้ไหมว่าการกระทำเช่นนั้นนอกจากจะไม่ทำให้กลับมาคืนดีกัน ความรักที่คุณสองคนเคยมีให้แก่กันก็รังแต่จะลดน้อยลงไปกว่าเดิมอีกด้วย
4. “ตำหนิ” ช่วงเป็นฟืนเป็นไฟ
เป็นเรื่องดีหากคนสองคนจะเปิดใจพูดกันว่าต่างฝ่ายต่างมีข้อเสียที่ต้องปรับปรุงอย่างไรแต่บรรยากาศที่ไม่เป็นใจอาจทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย คุณคงไม่อาจเปิดใจกว้างรับฟังคำตำหนิจากอีกฝ่ายในขณะที่ความโกรธเข้าครอบงำจิตใจเป็นแน่ ถ้าอยากจะติเตียนกันแล้วล่ะก็ ...รอให้อารมณ์เย็นกว่านี้ก่อนดีไหม?
จำไว้ว่า ขณะที่คนเราโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนไร้สตินั้น คำพูดที่ออกมาก็ไม่ได้ดีไปกว่าท่าทางและอารมณ์ที่แสดงออกไปเท่าใดนัก
5. “โยน-ทำลาย ของในบ้าน” เหมือนในละคร
ข้าวของในที่นี่คงไม่ได้หมายความว่าเป็นการปาหมอนใส่กันอย่างในมิวสิควิดีโอ แต่เป็นของใกล้มือ ไม่ว่าจะแก้วน้ำ จาน ชาม ของแข็ง หรืออาจจะของมีคม ที่ให้ผลไม่ดีด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากของจะเสียแล้ว คุณก็อาจจะเจ็บตัว และยังได้แผลเป็นของแถมจากการทะเลาะกันอีกด้วย
และหากพิจารณาดีๆ การทำลายข้าวของก็ยังแสดงถึงพฤติกรรมที่ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่างซึ่งอาจจะดูไปถึงครอบครัวของคุณด้วย ยิ่งไปกว่านั้นหากลูกเห็นการกระทำแบบนี้ ก็จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกอีก ฉะนั้นควรเตือนสติตัวเอง อย่าเลียนแบบในละครเด็ดขาด เพราะชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละครเป็นไหนๆ
6. “สบถ” ทันทีที่ไม่ปลื้ม
คงเป็นเรื่องแย่ถ้าหากคุณจะต้องทนฟังถ้อยคำหยาบคายจากอีกฝ่าย ซึ่งมันคงจะไม่แปลกอะไรหรอกถ้าฝ่ายนั้นเป็นผู้ชาย ดังนั้นคุณสาวๆ โปรดจำไว้ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายสักแค่ไหน ถ้าคำหยาบจะหลุดจากปากก็ขอให้เป็นวิธีสุดท้ายที่จะเลือกใช้ อย่าปล่อยให้บรรยากาศพาไปเป็นอันขาดเชียว เพราะนอกจากจะทำให้ผู้หญิงเราดูแย่แล้ว เปอร์เซ็นต์ที่จะเลิกกันก็มีสูงตามไปด้วย
7. ด่าเข้าไป...ครอบครัว-เพื่อนฝูง ไปจนถึงต้นตระกูล
อย่าปล่อยให้เรื่องส่วนตัวกลายเป็นเรื่องส่วนรวมเด็ดขาด ถ้าคุณจะทะเลาะกันก็ขอให้อยู่แต่ในบ้าน แต่อย่าได้พาลไปถึงคนอื่นเป็นอันขาดเชียว โดยเฉพาะคุณสาวๆ พึงรู้เอาไว้ว่าเรื่องเพื่อนสำหรับผู้ชายถือเป็นของต้องห้ามคุณพาดพิงแม้เพียงนิดเดียว เรื่องเล็กๆ มันอาจจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาได้ ในขณะเดียวกันคุณก็ไม่ควรกล่าวอ้างไปถึงญาติพี่น้องเขา ไปจนถึงต้นตระกูลของเขาด้วย เพราะนอกจากจะเป็นการลามปามอย่างไม่รู้จักกาลเทศะ คุณก็อาจกลายเป็น “คนเคยรัก”ในสายตาคนรักโดยไม่รู้ตัว

ยิ่งไปกว่านั้น หากเรื่องเหล่านี้เข้าหูครอบครัว ญาติๆ และเพื่อนฝูงของเจ้าตัว แน่นอนว่า...คุณมีงานเข้าแน่! แม้จะเคยทำดีแค่ไหน หากลามปามเมื่อไหร่ ก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป
8. “บทเงียบ” และ “เย็นชา”
ไม่เสมอไปที่ความเงียบจะทำให้คนสองคนเข้าใจกัน การไม่พูดไม่จาอาจทำให้ได้ผลดีบางครั้ง แต่คุณสาวๆ ต้องอย่าลืมว่าในเรื่องที่ละเอียดอ่อนมนุษย์ผู้ชายที่มาจากดาวอังคารเขาไม่มีวันเข้าใจ การปิดหากเงียบจึงไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง คุณควรลดทิฐิในตัวเองลงเสียบ้างแล้วหันมาเปิดอกคุยกันด้วยความละมุนละไมจะดีกว่า

แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว หากมีเรื่องฉุนเฉียวขึ้นมา ในช่วงอารมณ์โมโห และกำลังจะมีปากเสียงกันนั้น หลายคนอาจบ่นว่า เทคนิคเหล่านี้อาจไม่ได้อยู่ในหัวสมองเลย พูดได้ คิดได้ แต่ทำไม่ได้ ทั้งๆที่จริงๆแล้ว หากคนเราฝึกใช้สติ ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ เคล็ดลับที่กล่าวมาก็จะเป็นประโยชน์ที่มีส่วนให้อัตราการหย่าร้างไม่เพิ่มสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ผิดใจ สิ่งที่ทำให้ความรักมั่นคงอยู่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนเป็นสำคัญ ดังนั้นทะเลาะกันบ้าง ก็อาจเป็นภูมิคุ้มกันและยาบำรุงที่จะให้คนสองคน “รักกัน”มากขึ้นจนไม่รู้ตัวก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะรู้ตัวต่อเมื่อ...เสียงทะเลาะและเสียงยั่วยุนั้น...หายไปอย่างไม่มีวันกลับมา!!
ข้อมูลจาก www.jabchai.com
 

ความเห็น

แขบเปิดด้วยความรวดเร็ว จะได้ฟังเพลงที่ยายอี๊ดร้องแล้ว เย้.....อ้าวไม่มีผม เอ้าอี๊ดไหน.....ไม่เป็นไร ก็ดีค่ะ

ที่บ้านเรา....พ่อจะดูการเมือง แม่จะฟังเพลงลูกทุ่ง ลูกจะดูการ์ตูน ...... เหนื่อย ไม่มีแล้วที่จะดูด้วยกัน....แก้ไม่ได้แล้วค่ะ .....

พ่อชอบดูกีฬา ลูกชอบดูการ์ตูน แม่ไม่ค่อยชอบรายการอะไรเป็นพิเศษ

แต่ถ้าอยากดูไหร บางทีก็แพ้ บางทีก็ชนะ พ่อนะ   แตแพ้ลูกทุกที

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

นี่หากหาวิธีลงเพลงที่ร้องเองเป็น ฉาน....ลงตั้งนานแล้ว นี่ทำไม่เป็น

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

ยายอิ๊ดลองเอาเพลงไปไว้ที่ www.4share.com แล้วเอา embed code มาใส่ใน blog แลตะ

 

"ไม่มีอะไรอยู่กับที่ ถ้าเราไม่หยุดเดิน"

เดี๋ยวตี้ลองแลนะคะ

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

1เรื่องขี้คร้านแหลง

2 เรื่องตางค์

ป้าเล็กขี้คร้านโกรธ   เหนื่อยเปลาๆ  เพราะแก้ไม่ได้  ก็เฉยๆ   มากๆเข้าเราก็อย่าแหลงกับแกแหละ  เฉยๆเหมือนอยู่คนเดียว   เดี๋ยวแกงงก็มาแหลงเอง

ตรงข้อ แปดค่ะ เวลาโกรธจะไม่พูดเลย เงียบตลอด คืดว่าเขาน่าจะรู้ว่าเราโกรธอะไร แต่ครึ่งวันผ่านไปก็แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าเราโกรธอะไร จนเขาทนไม่ไหวก็เริ่มเถียงกันโชคดีที่แฟนเป็นคนใจเย็น เขาจะระงับอารมณ์ได้เร็วกว่ามาก จึงทำให้ไม่มีข้ออื่น ๆ ตามมา โชคดีที่ยังไม่มีลูก คือได้ดูมิวสิควีดีโอแล้วน่าวงสารลูกเหมือนกัน ขอบคุณยายอิ๊ดมากค่ะ สำหรับข้อคิดดี ๆ

แต่ไม่เย็นชา  เจ้ชอบงอน  แต่ป๋าเค้าเป็นคนกุีกกิ๊กชอบแหย่ให้เจ้หัวเราะ  บางครั้งงอนนาน ๆ นึกในใจเมื่อไหร่จะมาง้อซะที (ว่ะ)  ที่บ้านส่วนมากจะเกิดเรื่องในรถ  ป๋าชอบฟังเพลงลูกทุ่ง ลูกก็ฟังไม่เป็น เลยต้องเปลี่ยนกันฟังคนละแผ่น

ผมแชร์มั่ง  มีอะไรทีไม่ชอบบอกไว้ก่อน  ตั้งแต่ต้น  เช่น ตัวผมไม่ชอบ และขอร้องใว้ก่อนทีแรกเลย  จากสิบกว่าปีผ่านไป ผลก็คือ

๑.พฤติกรรม การโกหก อันนี้ไม่ชอบ และเกลียด คนโกหกมาก เพราะ คนโกหกย่อมไม่ทำผิดอย่างอื่นไม่มี อันนี้อย่าได้ทำ เพราะผมก็ไม่ทำเช่นกัน  มีเล็กน้อยเรื่องไม่หนักหนา ก็ไม่ถือสาหาความ แต่พยายามเตือน ให้พอรู้ตัว

๒.ห้ามด่า ทั้งพ่อแม่ และ ตัวผมเอง ซึ่งเราก็ไม่ทำเช่นกัน  อันนี้เขาใช้สิทธิ์ก่อนก็เลยโดนตอบโต้ ไปก่อนในทันที ด้วยการตบปากเลย ก็ไม่เห็นมีอีกนะ  *** ผมว่าข้อนี้สำคัญนะ สำหรับผู้ชายบางคน  มันอยู่ในสันดานหรือเปล่าไม่ทราบ  เสียงด่านี่มันเหมือนกระตุ้นต่อมโมโห ให้ขาดสติได้เลย ถ้ามีเถียงกันไม่หนักหนา จะเดินหนี แต่ถ้าด่านี่ไม่ได้เลย พุ่งเข้าหาเหมือนลูกธนูเลย

๓.ทะเลาะกันห้ามออกนอกบ้าน    อันนี้ใช้สิทธิ์ไปแล้วฝ่ายหนึ่งครั้ง

    ขอแสดงความเห็นเพิ่มในฐานะ ฝ่ายชายนะครับ

ผมว่าผู้ชายส่วนใหญ่จะเกรงใจภรรยาที่สุขุม นุ่มลึก ไม่จู้จี้ ซอกแซก มากว่า ร้อยทั้งร้อย  มันดูเหมือนเห็นแก่ตัวนะ แต่ผมว่าธรรมชาติมันอย่างนี้แล้วให้ทำไงได้  สุดท้ายก็จะยืนยาวก็เพราะลูก ของผมส่วนใหญ่ทะเลาะกันเรื่องลูกๆ การเลี้ยงดู ส่วนใหญ่  ผมไม่อยากให้ดูละคร น้ำเน่ามากๆเลย บางเรื่องดูได้  ผมชอบให้เขาดูรายการที่มีประโยชน์มากว่า  บางครั้งก็มีขัดแย้งกันบ้าง เช่นทำไมที่พ่อ ดูบอล ดูมวยได้เลย เราก็หาเหตุผลอยากเหมือนกัน  

ตามรอยพ่อคิด ด้วยวิถีชีวิต ที่เพียงพอ

เพิ่งทะเลาะกันเมื่อไม่กี่อาทิตย์นี่เอง แต่ตอนนี้ดีกันแล้วค่ะ เป็นฝ่ายหาเรื่องเอง หาเรื่องงอนอยากให้โทรมาหาบ้างมีแต่ตัวเองที่เป็นฝ่ายโทรไป แต่เขาก็บอกว่าใครจะโทรหาใครก็ได้คุยเหมือนกันยังงัย พี่ก็ยังรักหนุ่ยกับลูก คือเก่า (น้ำตาไหล...แง..แง..)ซึ้งค่ะ

                                                      แม่กำปั้น ก็รัก พ่อกำปั้น คือเก่า

                                                                  สู้..สู้..

ท้อ..แต่ไม่ถอย

lสู้..สู้..

หน้า