พ่อขา...หนูรักพ่อค่ะ !!!

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ถ้าหากความหมายของประโยคนี้ สื่อได้ถึงทั้งหมดของความผูกพันธุ์ที่ลูกมีต่อพ่อ... เราก็คงเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยได้แสดงความผูกพันธุ์เช่นนี้กับพ่อเลย  และก็คงไม่มีโอกาสในการที่จะทำเช่นนั้นอีกแล้ว  เนื่องด้วยเพราะคุณพ่อจากเราไปตั้งแต่ปีกเรายังอ่อน 

จากวันนั้นถึงวันนี้  กว่ายี่สิบปีแล้วที่เราอยู่โดยไม่มีพ่อ   เราลืมไปแล้วว่าความรู้สึก ความผูกพันธุ์ระหว่างพ่อลูกนั้นเป็นเช่นไร  และเราก็ไม่เคยถวิลหาพ่อเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

แต่ด้วยเหตุอะไรหรือ วันนี้เราจึงคิดถึงพ่อขึ้นมาจับจิตเช่นนี้   จนต้องรำพึงกับตัวเองว่า ..หนูรักพ่อ...

ชายชรารูปร่างสันทัดแต่ยังดูแข็งแรงอยู่มาก  สวมกางเกงขายาวสีเข้ม ไม่ใส่เสื้อ เผยให้เห็นผิวเนื้อกายสีทองแดงและร่องรอยของประสบการณ์ชีวิตที่ท่านเคี่ยวกรำมาตั้งแต่อยู่ในวัยฉกรรจ์ หยุดยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่กับที่หนึ่งอึดใจ  ก่อนจะมองเราด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย  คงด้วยเพราะนึกไม่ถึงว่าคนๆนี้หรือที่เป็นเพื่อนของลูก   อาจจะเป็นเพราะการแต่งตัวของเราในวันนั้นที่เราเลือกแบบสบายๆที่สุดด้วยการใส่กางเกงขาสั้นสีบานเย็นตัดกับเสื้อยืดสีฟ้าจึงถูกตัดกับบรรยากาศรอบด้านที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้สูงทะมึนจนครึ้มเขียว  สีสันเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวเรา   จึงโดดเด่นจนพ่อตกใจ !!

แต่เพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้นค่ะ    พ่อก็จูนคลื่นมารับสันญาณภาพตรงหน้าได้อย่างแจ่มชัด  แล้วทุกอย่างก็เป็นปกติค่ะ  พ่อคงปฏิบัติต่อเราดังเช่นเพื่อนๆของลูกทุกคนที่เคยมาหา

เราได้สอบถามสารทุกข์สุกดิบกับเพื่อนพอให้หายคิดถึง   จึงได้พากันมานั่งคุยกันว่าเราจะทำอะไรกันดีต่อจากนี้  ระหว่างนั่งคุยกันอยู่นั้นพ่อได้เดินมาถามว่า “จะทานข้าวเที่ยงกับพ่อหรือเปล่า” 

ฟังดูแล้วมันเรียบง่ายและมีความหมายในตัวอยู่แล้วใช่ไหมคะ  แต่ทำไมเราฟังแล้วเกิดขนลุกซู่ขึ้นมาก็ไม่รู้สิ  น้ำเสียงที่ลดความแปลกประหลาดใจลงแล้วนั้น  ถามขึ้นอย่างเอื้ออาธร และก็อ่อนโยน และเรากับเพื่อนก็ตอบไปว่าจะยังไม่ทานกับพ่อในมื้อนี้ค่ะ เพราะเราจะต้องออกไปทำธุระในเมืองและจะถือโอกาสหาทานมื้อเที่ยงที่ในเมืองเลย   พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วท่านก็เดินหายไปทางหลังบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงโขลกน้ำพริกดังแว่วๆมาจากในครัว  .....วันนี้พ่อแกงอะไรหนอ ???

เราก็ได้แต่นั่งคิดเงียบๆอยู่คนเดียวและรู้สึกผิดจังเลยค่ะ   รู้สึกผิดตรงที่ว่าปกติลูกต้องกินข้าวเที่ยงกับพ่อ แต่เมื่อมีเรามาหาที่บ้านในวันนี้  พ่อก็ต้องทานข้าวกับแม่ตามลำพัง   นั่นเท่ากับว่าสมาชิกคนหนึ่งของบ้านถูกมือดีลักพาตัวไปซะแล้ว 

หลังจากที่เรากับเพื่อนทานข้าวและเสร็จธุระจากในเมืองแล้ว ก็กลับเข้าบ้านอีกครั้งหนึ่ง  คราวนี้พ่อคงทำใจได้แล้วและเริ่มพูดคุยกับเรามากขึ้น   ชี้ชวนให้เราดูต้นไม้ที่อยู่รอบๆบ้าน   เราก็ได้สอบถามถึงชื่อไม้แปลกๆที่ไม่เคยได้ยินและไม่เคยรู้จักมาก่อน พ่อก็อธิบายด้วยความเมตตา

ความรักและความเข้าใจจากพ่อแม่คือรักแท้ที่ไม่มีเงื่อนไขจริงๆนะคะ  ในสายตาของพ่อแม่แล้ว ต่อให้ลูกโตแค่ไหนลูกก็ยังเป็นเด็กอยู่เสมอ   

 ช่วงเวลาแค่ไม่กี่อึดใจและการพูดคุยเพียงไม่กี่ประโยคในวันนั้น   ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากมีพ่อกับเขาบ้างจังเลย   พ่อเป็นตัวแทนของความแข็งแรงและปกป้อง พ่อเป็นฮีโร่ของลูกทุกคน  ถึงแม้ว่าพ่อจะเล่นเนทไม่เป็น  พ่อไม่ได้ออนเอ็ม   แต่หนูคิดว่าสักวันหนึ่งหนูจะชวนพ่อแชท เอ็ม เอส เอ็น กับหนูค่ะ

ก่อนลากลับ พ่อได้ฝากผลไม้ในสวนเท่าที่หาได้ให้เราหิ้วกลับมาบ้านด้วยความเต็มใจ   สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าอะไรดีหล่ะ ?   สิ่งเหล่านี้กระมังที่เปรียบเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจใครทุกคนที่ได้ไปเยือนบ้านป่าหลังนี้ และพ่อก็ยังไม่ลืมถามด้วยความห่วงใยว่าเราจะถึงบ้านดึกไปหรือเปล่า   และเราก็ได้ตอบเพื่อให้พ่อคลายกังวลว่าบ้านเราอยู่ไม่ไกลและเราจะกลับถึงบ้านก่อนตะวันตกดินแน่นอนค่ะ

ความเรียบง่ายที่แฝงไว้ด้วยน้ำใจจริงเช่นนี้  อาจเป็นสิ่งปกติสำหรับคนอื่นแต่สำหรับเราถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยิ่งค่ะ  รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่บ้านพ่อ   ไม่ว่าจะเป็นสายตาแรกที่พ่อมองหนู  หรือสุ้มเสียงอ่อนโยนที่พ่อถามเรื่องอาหารมื้อเที่ยง  ตลอดจนความห่วงใยที่พ่อคิดว่าหนูจะกลับบ้านยังไงคนเดียวในยามเย็นเช่นนั้น  ทั้งหมดทั้งปวงเกิดจากความรู้สึกของผู้ที่เป็นพ่อใช่ไหมคะ    ซึ่งหนูไม่ได้รับความรู้สึกเช่นนี้มานานแล้วค่ะ

หนูจึงอยากบอกพ่อว่า.....พ่อขา    หนูรักพ่อค่ะ  !!!   

ความเห็น

ฮููกก็ไม่เคยบอกรักพ่อเลยค่ะ พ่อก็เสียแล้วเหมือนกัน แต่ตอนเด็กๆฮูกสนิทกับพ่อมากเลยค่ะ พ่อใจดี ขอตังค์กินหนมก็ง่าย  ทุกวันนี้ดูรูปพ่อก็ยังนั่งร้องไห้เลยค่ะ  คิดถึงพ่อที่สุด  หนูรักพ่อค่ะ (สายไปเสียแล้ว)

 

 

"ขอบคุณน้ำใจที่แบ่งปัน ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง"

สำหรับเรื่องราวดี ๆ อ่านแล้วรู้สึกน้ำตาจะไหล...

ชีวิตอยู่ได้ ด้วยความพอเพียง และ เพียงพอ

MSN : it_lover@hotmail.com

ของผมจะเป็นความห่างเหินซะมากกว่าแบบแยกกันอยู่กับพ่อ ได้เห็นแต่ละครั้งดีใจ แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ :crying2: :beg:

EAKAPONG_36@hotmail.com Tel 087 959 9004

  กึ๊ดเติงหาอี่ป้อ...:crying2::crying2::crying2:

.................

สมัยก่อนเวลากลับจากโรงเรียนลูก ๆ ยังกลับไม่ถึงบ้านพ่อจะมารอปากทางเข้าบ้าน

ถ้าลูกยังกลับไมครบ พ่อก็นั่งรอด้วยความเป็นห่วง รักไม่มีขีดจำกัดจริง ๆ :bye:

 

 

บอกแล้วว่ามีฝีมือทางวรรณกรรม ชิ้นเล็กๆชิ้นนี้ก็สามารถดึงน้ำตาชาว สมช. ได้1ช้อนชา อิอิ ความผูกพันธ์ทางสายโลหิต สำคัญคือเข้ากะภาพประกอบประจำบล๊อกนี้ด้วย..พี่เองพ่อก็จากไปตั้แต่10ขวบอยู่กับแม่มาตลอด...

ที่สาวๆบอกรัก แต่กับพ่อไม่กล้าบอก แต่อยู่ที่การกระทำที่ให้กับพ่อครับ

สำหรับจ๋าแล้ว ก็คิดถึงพ่อทุกวันค่ะ


ตอนนี้อาจจะไม่ได้คุยโทรศัพท์ ไม่ได้เจอหน้ากันเหมือนเมื่อก่อน


แต่พ่อจะอยู่ในความทรงจำที่งดงามของลูกตลอดไปค่ะ

ได้อ่านแล้วคิดถึงพ่อจังเลย  อยากกลับบ้านไปหาพ่อ :desperate:


ตอนเป็นเด็กสนิทกับพ่อมาก  พอโตขึ้น ภาระหน้าที่มันก็ทำให้ห่างกัน


ทำได้ก็แค่โทรศัพท์คุยกันบ้าง กลับไปเยี่ยมท่านบ้างตามโอกาส  แต่ที่ทำได้


ในตอนนี้  คือไม่ทำให้พ่อต้องเสียใจ   พ่อ.....ก็พอใจแล้ว......

คุณเพ็ชรี... อ่านแล้ว เห็นภาพเลย ตามด้วยความรู้สึกจากภาพที่สื่อผ่านมาทางตัวหนังสือเลยค่ะ


 

หน้า