จบปริญญา..มาทำสวนทำนา..แบบบ้าๆบอๆ..

หมวดหมู่ของบล็อก: 


คัมภีร์อี้จิงของชาวจีน..ค้มภีร์ที่ว่าด้วยศาตร์แห่งการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่ง..คล้ายๆกับอริยสัจ4 ของพุทธศาสนา..คนอื่นๆอ่านแล้วได้ผลยังไงผมไม่รู้..แต่ผมสรุปได้แบบบ้านๆคือ."สูงสุดคืนสู่สามัญ".ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านสวนพอเพียง.อริยสัจ4คือกระทู้..สั้นๆ.ช้ด.และตรงประเด็น..คัมภีร์อี้จิ้ง.คือบล็อก..มีรายละเอียด.ต้องวิเคราะห์.คิด.สรุปประเด็น.ตามมุมมองของแต่ละคน..ว่าแล้วก็ทำตามบรรพบุรุษ..จะทำกิจกรรมอะไรก็บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางซะก่อน..(อ่อนน้อมและยอมรับตามหลักคัมภีร์..).แหะๆๆ..


อุตสาห์เรียนจบปริญญาชั้นสูงมา..(.เรียนอยู่ชั้น10ตึก11ของมหาวิทยาลัย.)..จะทำอะไรก็ต้องอาศัยหลักวิชาการ.คิด.วิเคราะห์แยกแยะ.แม้แต่ทำสวน.ทำนา.แม้แต่การปล่อยปลา..เอะอะจะปล่อยเลยไม่ได้..ต้องเอาถุงปลาแช่น้ำเพื่อให้อุณหภูมิในถุงปลากับน้ำในสระเท่ากันก่อน..ปลาจะได้ไม่"น็อคน้ำ"..สมกับที่เรียนมาสูงๆๆ..ไหมครับพี่น้อง..ฮ่าาาาาาาา..ฮิ้ววววววววว...


ตามหลักวิชาการที่เรียนมาของวิชาบริหารธุรกิจคือ..ต้องเลือกปลาที่.สด.สะอาด.แอะ.ไม่ใช่ครับอันนั้นปลาต้มแล้ว..ปลาที่จะปล่อยต้องแข็งแรง.เป็นปลาท้องถิ่น.เอาปลาลุ่มน้ำอเมซอนมาปล่อย..ก็คงลำบากแน่..กินอาหารได้ตามธรรมชาติ.(ไม่กินไก่ เค.เอฟ.ซี,เอ็ม.เค.สุกี้,แฮมเบอร์เกอร์.ซอสพริก.).ถ้าจะให้ดีต้องโดดน้ำดังตั้บๆๆๆ..ถ้าแบบนี้โอกาศที่ปลาจะรอดมีเยอะ..


ตามหลักของคัมภีร์อีจิ้ง..และอริยสัจ4.สรรพสิ่งจะสอดคล้องและเกี่ยวเนื่องซึ่งกันและกัน..(ทุกข์,สมุทัย,นิโรธ.มรรค.)..การปล่อยปลาก็เหมือนกัน..ถ้าปล่อยชนิดเดียวกันก็จะเหงาและทะเลาะกัน..แหะๆๆ..เลยเอาปลาที่"กินเจ"..สามชนิดมาปล่อยด้วยกันจะได้ดูแลซึ่งกันและกัน..และไม่เสียทีที่เรียนมาสูงๆๆ..พ่อแม่รู้คงภาคภูมิใจน่าดู..ฮ่าาาาาาาา...ฮิ้วววววววว...

เพื่อเป็นการปฎิบัติตามคัมภีร์ที่ว่าด้วยการเกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์กันของสรรพสิ่ง..เลยจัดอาหาร"ผลไม้รวม"ให้ปลาเพื่อจะได้มีอาหารหล่อเลี้ยงชีวิตต่อไป..แต่ขาด"ของหวาน"หลังอาหารคือ..กล้วยหอมบ้านๆของพี่วิศิษฐ์..เนื่องจากเพิ่งปลูกซื้อก็แพง..เลยอดของหวานไปก่อนช่วงนี้..อิอิอิ..


ส่วนนี้ก็เป็นสิ่งหล่อเลี้ยง."ธาตุทั้ง5"..ให้สมดุลของผมเอง..แต่ดูๆแล้วคงออกไปทาง"ธาตุปั่นป่วน"แน่ๆ..แต่ก็อร่อยครับ..เก็บผักติ้วและผักกระโดนมาจิ้มแจ่ว..แหะๆๆ..ถ่ายรูปไม่ทันกินหมดก่อน..


หลังจากบำรุงธาตุทั้ง5เสร็จ.ก็ออกแผ่เมตตา เอ้ย..ไม่ใช่.ออกสำรวจความเป็นอยู่เพือนๆในสวน..ก็อยู่ๆกันไป..สรรพสิ่งเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันตามหลักธรรมชาติ.(หลักธรรม)..อืมมม..

รวมทั้งต้นไม้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง..ถึงจะเรียนจบระดับสูง..แต่ไม่รู้ทุกอย่าง..รวมทั้งต้นไม้ทั้งสามชนิดนี้ด้วย..แหะๆๆ...


และไม้ตายสุดยอดในการทำ.สวน.ทำนา.ของผู้จบปริญญาระดับสูงอย่างผม.."ฝากเทวดา"..ครับพี่น้อง..ฮ่าาาาาาา.ฮิ้ววววววว..

ขอบคุณพ่อแม่ที่ให้กำเนิด.บรรพบุรุษที่รักษาแผ่นดินให้อาศัย..กำลังใจจากผู้ปกครอง..สมาชิกบ้านสวน..และผู้ใหญ่โสที่เคารพ..ลำใย..

ความเห็น

 ถ้าไม่ยกมือพนม...น้อยคิดว่า............ :uhuhuh:

เจ้าต้นที่มีลูกขาวๆส้ม 2 รูปแรก ทานได้ค่ะ เอายอดมาเหนาะ เค้าคือยอดหมรุย...

ชีวืตที่เพียงพอ..

ขอบคุณที่บอก..ผมไม่รู้ว่าคืออะไร..เห็นมีในสวนก็เพิ่งรู้ว่ากินได้..หวังว่ากินแล้วคงไม่ดำกว่าเดิมนะครับ..อิอิอิ..

เข้ามาชักแหง็กๆๆ เฮ้ย..เข้ามาหัวขวัญเจ่า เฮ็ดไปทั่วทีปเนาะเจ่า อ้ายลำใยบ้านสวนLaughing เอิ้กๆๆๆๆ

ชีวิตไม่ได้เกิดมา เพื่อยอมแพ้

เจ้าบ่เคยเห็นผู้เฒ่าเพิ่นเฮ็ดบ่..ยามเพิ่นสิเฮ็ดหยังเพิ่นกะบอกเจ้าที่เจ้าทางก่อนไดนาง..อ้ายเฮ็ดตามเพิ่นแบบผู้เฒ่า..แหะๆๆ....

จากบักสะตอ จบปริญญามาเหมือนกันกลับมาบ้าน เด็ก ป4 ดูถูกหาว่าเรียนมาทำไม กลับมากรีดยาง มันเจ็บฉุ๊บ ๆๆๆๆ  แต่ไม่เป็นไร ความรู้มันอยู่ในหัว นำมันออกมาใช้งาน แก้ปัญหาได้ทุกสถานการณ์อยู่แล้ว ใครมาแย่งเราไปไม่ได้ (เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันถามทำอะไร บอกว่า ฟรีแล้นด์) ก็แล้วกันเด้อ บักลำใยเด้

เรียกไก่  ก็ได้ครับ(นาธารชื่อลูกชายครับ)

มุมมองคนอื่นๆเป็นยังไงผมไม่รู้.แต่ผมทำแล้วตัวเองมีความสุข..คนอื่นไม่เดือดร้อน..แต่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ..

ถ้าหมู่บ้านมีความรู้ระดับนี้ รุ่งโรจน์แน่นอน  นายกอบต.ยังไม่จบปริญญา(กำลังเรียนเมื่อตอนแก่)

ผมว่าบางอย่างกระแสมันเปลี่ยนเพราะเรารับวัฒนธรรมจากในเมืองมากไป..เห็นรูปแบบการดำเนินชีวิตแบบเดิมเชย.ไม่ทันสมัย..คนทำนาดูไม่มีศักดิ์ศรี..ก็คงต้องทำใจละครับ..

วันนี้ต้องอารมณ์ดีทั้งวันแน่อ่านบล็อกนายลำใยแล้วสนุกดี 55555

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

ดีใจครับที่ทำให้ป้าต่ายอารมณ์ดี..ค่อยๆหัวเราะนะครับป้าต่าย..เดี๋ยวคนอื่นจะได้ยินด้วย..แหะๆๆ..

หน้า