แรลลี่..ที่สวนผึ้ง..วันแรก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

     ก่อนอื่นขอออกตัวก่อน..เนื่องจากไม่คิดว่าจะอัพบล็อก..ก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอย่างเป็นเรื่องเป็นราวสักเท่าไหร่ ทำให้ไม่ค่อยมีรูปประกอบมากเท่าที่ควร หนักไปทางเล่าเรื่องก็แล้วกันนะคะ


     หลังจากที่สำรวจเส้นทางสายอัมพวา-ราชบุรี จนมาถึงจุดหมายปลายทางได้ ก็ทำเนียนเดินดูงานร่วมกับเพื่อนๆค่ะ



มาทันตอนที่เขาตัดมะเขือยาวม่วงกันแล้ว



ไม่ต้องบอกก็รู้จักกันทุกคน "น้ำเต้าขาควาย"



น้ำเต้าเซียน



ข้าวไร่ของพี่หยอยจากพัทลุง..ที่กำลังเริ่มออกรวงมาบ้างประปราย..ในนามีน้ำขังอยู่ ได้ยินครูวัชรินทร์บอกว่าถ้าลูกน้องฝ่าฝืนคำสั่ง จะโดนลงโทษโดยการให้วิดน้ำออกจากนา อืมมม....ก็ดีนะ เป็นการประหยัดพลังงานอีกทางหนึ่ง เพราะถ้าใช้ปั๊มน้ำก็ต้องเติมน้ำมัน สิ้นเปลืองเงินทองอีก.. เคยอ่านบล็อกพี่แก่ ที่ลงโทษลูกน้องโดยการให้ขุดหลุมปลูกต้นไม้นั่นก็กู๊ดไอเดียเหมือนกัน....คนบ้านสวนนี่เก่งๆทู๊กคน....



จากนั้นก็แวะดูไก่ไข่...ผักไร้ดิน(ไฮโดรน้ำหมัก) และที่ครูภูมิใจนำเสนอมาก คือ..น้องอ้วน ลูกสาวของครู และน้องอุ้ยอ้าย ซึ่งจะตัวเล็กกว่าน้องอ้วนนิ๊ดนึง..ช่วงนี้น้องอ้วนและน้องอุ้ยอ้ายอยู่ในช่วงเก็บตัวและลดน้ำหนักเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว...อิอิ.. สงสัยเราและลูกตาลต้องลดบ้างแล้วหล่ะ...แหะ..แหะ.. ไม่ได้เตรียมตัวไปทำอะไรหรอกแค่ไม่อยากหนักเกินหน้าเกินตาน้องอ้วนและน้องอุ้ยอ้าย....



โฉมหน้า..น้องอ้วน



โฉมหลัง..น้องอุ้ยอ้าย...เป็นแม่ของน้องอ้วนด้วยนะ..



ส่วนเจ้าตัวนี้น่าจะเป็นพ่อของน้องอ้วน (ไม่แน่ใจต้องรอครูมายืนยันอีกที) ชื่อ..เจ้าจ้อน ดูลักษณะแล้ว..สูง..ยาว..เข่าดี..ชัวร์...เจ้าจ้อนไม่ค่อยชอบออกสื่อ ก็เลยหลบหน้าหลบตา..อิ.อิ..(แซวได้แม้กระทั่งหมู...)



เหล็กดัด..อีกหนึ่งผลงานของครูวัชรินทร์


     หลังจากดูงานและแลกแจกการบ้านกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาขบวนแรลลี่กันแล้วหล่ะ  งานนี้ไม่มีการแบ่งค่าย..ไม่มีสังกัดหรือยี่ห้ออะไรทั้งสิ้น..ผู้ร่วมทีมมีทั้งหมด 6 คัน นำทีมโดย..ครูวัชรินทร์>>หลานสาว>>เรา>>น้องนา>>น้องลัด>>คุณนึก ขับตามกันมาเรื่อยๆ จุดหมายปลายทางคนอื่นน่าจะรู้ว่าจะไปไหน แต่ตัวเราและหลานสาวนั้นมาสายก็เลยไม่รู้..คิดเอาเองว่าสงสัยไปที่โฮมสเตย์แน่เลย...ถึงแยกไฟแดงที่มีโอ่งยักษ์และมีมังกรพ่นน้ำใส่โอ่ง ก็เลี้ยวขวา....เป็นทางไปสวนผึ้ง..ลูกตาลดีใจมากเลย บอกว่า “หนูจะได้เลี้ยงแกะแล้วแม่” ...ขับตามกันไปสักพัก..เลี้ยวซ้าย..เลี้ยวขวา ก็ถึงที่หมาย..”ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติราชบุรี ของอาจารย์รวม”




บรรยากาศภายในศูนย์ของอาจารย์รวม เขียวขจี ร่มรื่น..น่าอยู่มาก....


     คุณวรวิทย์ตามมาสมทบอีกคน หลังจากแวะไปดูนาข้าว,เดินชื่นชมธรรมชาติ.พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และรับแจกการบ้านระหว่างที่รออาหารเที่ยง


     อาจารย์รวม ใจดี คุยเก่ง เป็นกันเองมาก เป็นธุระจัดหาอาหารเลี้ยงพวกเรา..โดยที่อาจารย์ก็ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า..อาหารที่เลี้ยงมีน้ำพริกกะปิ,ไข่เจียว,ไข่ชะอม และต้มจืดตำลึง ทุกอย่างอร่อยมาก ทานอาหารเสร็จ ร่ำลากันเป็นที่เรียบร้อย ก็เตรียมตัวออกเดินทาง คุณวรวิทย์ ขอตัวไปรับญาติก่อน ขบวนแรลลี่ สมาชิกก็ทีมเดิมแต่เหลือ 5 คัน คุณนึกไม่ได้ร่วมทีม..ขอตัวกลับก่อน ครูวัชรินทร์ ขับนำไปก่อนเลย ไปทางถนนชนบท ผ่านทุ่งนา, ฝูงวัว (วัวของชาวบ้านที่นำมาเลี้ยงแบบปล่อยทุ่งเยอะมากกก) ต้องรอให้วัวข้ามถนนไปก่อน แล้วก็ขับตามกันไปเรื่อยๆ ขึ้นเขา(เตี้ยๆ) ลงห้วย แล้วแต่ผู้นำจะพาไป แล้วไปแวะที่เขื่อนห้วยไม้เต็ง แหล่งน้ำธรรมชาติของราชบุรี สองสาวน้อย พอเห็นน้ำก็ดีใจกันใหญ่เลย..อยากจะไปเล่นน้ำ ครูบอกว่าเล่นไม่ได้..ให้จอดถ่ายรูป แค่ 5 นาที เดี๋ยวต้องไปอีกหลายที่กลัวค่ำ..ทุกคนรีบกดชัตเตอร์กันใหญ่เลย


**ห้วยไม้เต็งเป็นแหล่งน้ำกักเก็บน้ำสำหรับการเกษตร,อุปโภค,บริโภค และเป็นแหล่งน้ำสำหรับระบบประปาของ อ.จอมบึง และ อ.เมือง จ.ราชบุรี**



ลูกตาล,ยายต้อย,น้องฝ้าย


     ขี้นรถไปกันต่อ คราวนี้รถเราอยู่คันสุดท้าย พอออกจาก ห้วยไม้เต็งคันอื่นขับกันฉลุย คันเราดั๊น..มีฝูงวัวตัดหน้าอีกแล้ว.. ลูกตาลบอกว่า .”เร็วๆซิแม่ เดี๋ยวไม่ทันคันอื่นเขา” โธ่! จะไปได้ยังไงล่ะลูก ดูวัวแต่ละตัวสิใหญ่ๆ ทั้งนั้น ถ้าเราชนมัน หรือว่ามันชนเรา..รถเราบุบแน่นอน.. จำเป็นต้องจอดรอให้วัวข้ามถนนก่อน  คันอื่นๆ ก็ต้องจอดรอเรา...เอ้า ปาย..กันต่อ พอเริ่มเข้าเขต อ.สวนผึ้ง คราวนี้ผู้นำ ขับอย่างไม่ต้องมองคันข้างหลังเลยทีเดียว เพราะว่าเป็นถนนเชิงเขาตะนาวศรีเป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ และทางโค้งๆ มองไม่เห็นทั้งคันหน้าและคันหลัง เจอกันอีกที ที่หน้าโครงการพระราชดำหริบ้านบ่อหวีของสมเด็จพระนางเจ้าฯ อยู่ที่ ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง ใครสนใจเข้าไปหาอ่านได้โดยสอบถามจากอากู๋.. ตอนแรกว่าจะจอดรถข้างนอก แล้วเดินเข้าไปชม แต่อาศัยว่าครู..เส้นใหญ่..อีกทั้งใจดีด้วย..อิอิ (ถ้าครูได้มาอ่านคงคิดในใจว่า รู้งี้..ทิ้งให้หลงอยู่แถวๆ ห้วยไม้เต็งซะก็ดี แซวดีนัก...งุงิ..) ทำให้สามารถขับรถเข้าไปชมได้ ขับขึ้นเนินตามกันไป ด้านบนเป็นเหมือนสำนักงานหรือที่พัก ไม่ค่อยมีผัก ครูบอกว่า ให้ผู้โดยสารเดินลงเนินไปดูแปลงผักกันก่อนเลย ส่วนโชเฟ่อร์ ขับตามผมมาเราจะลงไปอีกทางหนึ่ง (เราก็คิดว่า ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องกลับรถ) แต่เห็นทางแล้วก็คิดในใจว่า เอ่อ...พี่คะ ขอกลับรถและกลับลงไปทางเดิมที่ขึ้นมาได้ไหมคะ เพราะทางลงลาดชัน แม้จะไม่ชันมาก แต่มีหินก้อนใหญ่ๆ แหลมๆ เยอะเลย กลัวว่าจากรถเก๋งจะเปลี่ยนสภาพเป็นรถเกรดดินนะซิ...ทำยังไงได้ล่ะ ถ้าไม่ลงไปทางนี้ ชาวคณะก็ต้องหาว่า...ป๊อด..แน่นอน....เอาวะ คนอื่นไปได้เราก็ต้องไปได้ กลั้นหายใจ..เหยียบเบรกเต็มที่.. ค่อยๆ ปล่อยให้รถเคลื่อนไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ..กุกกัก..กุกกัก..ครืด..ครืด..ครืด..เฮ้อ!.. ถึงจนได้ จอดชมวิวรอบๆ มีผักต่างๆ มากมาย ถ่ายรูปกันบ้าง แอบจิ๊กเมล็ดผักปลังบ้าง...



บรรยากาศภายในโครงการ




      ออกเดินทางกันต่อ ลูกตาลเห็นรถแม่ไม่เคยได้เป็นผู้นำเลย ตามเขาตลอด เลยขอตัวไปนั่งรถคันเดียวกับน้องฝ้าย เราก็เลยไปคนเดียว ขับตามกันมาเรื่อยๆ รถน้องวรรณาขับนำคันของครูไปก่อนเพราะเขามีจีพีเอส เลยไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันที่จุดนี้ ..ครูจอดให้ถ่ายรูปที่ป้ายจุดชมวิวห้วยคอกหมู ไม่ได้ขึ้นไปที่ห้วยเพราะเวลาไม่พอ 2 สาวน้อย ก็พูดแซวครูว่า... ให้เวลาถ่ายรูป 5 นาทีนะคะ



 ถ่ายรูปเสร็จไปกันต่อ แวะถ่ายรูปที่ Panoza อีกที่ เหมือนเดิมคือจอดถ่ายรูป 5 นาที




รูปด้านบน คือ บรรยากาศของ Panoza, รูปล่าง.. อ้วนๆ กลมๆ ลูกใครหว่า....


     ออกจาก Panoza เป้าหมายต่อไปคือโฮมสเตย์ของคุณวรวิทย์ อย่าได้ถามนะคะว่าไปทางไหนบ้างเพราะว่าถ้ารถไม่จอด จะไม่ได้ดูวิวหรือดูป้าย 2 ข้างทางเลย ขับตามเขาไป เป็นบอดี้การ์ด คอยวิ่งปิดขบวนอยู่ท้ายแถว เรารู้ตัวเราเองดีว่าถ้าเราขับ ต่อจากครูหรือกลางๆขบวน จะทำให้ขบวนแรลลี่ วิ่งช้าาา..มากกก.. เพราะฉะนั้นอยู่หลังสุดวิ่งไล่ตามเขาให้ทันอย่างเดียว..เป็นดีที่สุด..ฮ่า..ฮ่า.. ครูพาไปไหน..ก็ไปกัน ไม่ต้องถามไถ่ให้ยุ่งยาก.. ขับไปกันต่อจนถึงไร่สัปปะรด.... จอดดดด...ได้ความว่าเลยทางเข้าโฮมสเตย์ เอ้า... กลับรถกันพวกเรา น้องนุสิตาที่นั่งไปกับน้องวรรณา ไปถึงที่พักก่อนออกมารับที่ปากทางเข้า และพาเข้าไปที่โฮมสเตย์ของคุณวรวิทย์   โอ้....แม่เจ้า..(โว้ย...) โฮมสเตย์(อโลน).....สวนของคุณวรวิทย์ มีบ้านเป็นโครงเหล็ก..ที่ยกพื้นระดับอก และปูพื้นด้วยไม้เชอร่า..สวยงาม..กว้างขวาง หลังคาสูง, มีห้องคล้ายตู้คอนเทนเนอร์ เป็นทั้งห้องนอน และห้องน้ำอยู่ 1  ห้อง และห้องน้ำด้านล่างอีก 1 ห้อง น้ำไฟมีพร้อมเสร็จ ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 500 เมตร เป็นสวนเกือบทั้งหมด ไม่ค่อยมีบ้านคนในละแวกใกล้เคียงเลย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ กางเต็นท์ หรือกิจกรรมรอบกองไฟ เราเลยตั้งชื่อให้เองว่า Home Stay Alone (คุณวิทย์จ๋า..คงไม่ว่ากันน๊าา..) งานนี้ใครเตรียมตัวมาดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง อ่ะ..สงสัยอะดิ ว่าหมายถึงอะไร...รอฟังเฉลยบล็อกหน้าก็แล้วกันนะ บล๊อกนี้พอใส่รูป ก็ยาว คงเบื่อที่จะอ่านกันแน่เลย...พบกันใหม่ในบล็อกหน้าถ้ายังไม่เบื่อกันซะก่อน....ไม่ได้เข้าเวปบ้านสวนแล้วจะหนาวววววววว....จริงๆ นะ ไม่ได้โม้...อิอิ......


     ขอขอบคุณเพื่อนๆ สมช.บ้านสวน ทุกๆท่าน..ที่อ่านทน..ทนอ่าน..มาจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ....


 

ความเห็น

ป้าต้อย ขนาดไม่ค่อยได้ถ่ายรูป ยังมีรูปสวยๆ หลุดมามากมายเลย บางรูปไม่รู้เราหลุดไปได้งัย ไปไม่เห็นเลย อยากเห็นฟักข้าวลูกแดงๆ นี้จัง ของจริงคงสวยมาก

ขอบคุณสำหรับขากลับนะคะ ที่ให้น้องได้ติดรถกลับมาด้วย งานนี้คุ้มจริงๆ ฺฺฮี่ ฮี่

 

ยายต้อย บ้าน้ำลาย เข้าขากับธนนันท์เลย ฉะนั้น เรามาเข้าแก๊งค์กันเถอะ ไปเที่ยวลาวกับธนนันท์ดีกว่า...อาสาเป็นไกด์ฟรี...:uhuhuh:

:objection: เจ้ๆ..ไปลาวใต้ชวนกันมั่งนะ(ต้องบอกล่วงหน้านะๆ)

sudjai_waitong@hotmail.com
     0805401058

อบอุ่นจังค่ะ:admire2:

ชีวืตที่เพียงพอ..

ตามเที่ยวด้วยค่ะ :bye:

sudjai_waitong@hotmail.com
     0805401058

ขนาดไปด้วยกันอ่านยังมันเลยค่ะ :cheer3:

 

 

น้องอ้วนน่ารัก  คอตันเชียว

:good-job: มันส์

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

:cheer3:มันส์กันใหญ่......

สนุกมากค่ะ

หน้า