สาวน้อย(ไม่)มหัศจรรย์..ตอน..ไม่ลองไม่รู้

หมวดหมู่ของบล็อก: 

            เรื่องเล่าเรื่องนี้...เป็นเรื่องเล่าที่จะส่งประกวด กิจกรรมการพัฒนาผลงานของหน่วยงาน...น้อยตั้งใจว่าจะนำมาลงหลังการนำเสนอ..แต่ได้อ่านบทกลอนของป้าแมว..จึงขอนำเรื่องนี้มาเป็นกำลังใจแด่ป้าแมวนะคะ...


    “ไปออกกำลังกายกันเหรอ”  เป็นคำถามติดปากของฉันที่ตะโกนถามผู้ที่ผ่านไปมาจากพงหญ้า ในสวนสมุนไพร ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้านานาพันธุ์  “ ใช่แล้วจ้า ไปด้วยกันมั้ย...แล้วนั่นทำอะไร อยู่พงหญ้ารก ๆ ระวังงูกัดนะ” ขณะตอบ เจ้าของเสียงเปลี่ยนเส้นทาง เดินมาเกาะรั้ว พูดคุยกับฉันต่อ  “ปลูกต้นอะไรบ้างนี่ ขอกลับไปปลูกที่บ้านบ้างได้มั้ย”   “ได้สิคะ...น้อยเพาะไว้หลายอย่าง มีเมล็ดพันธุ์ผักอีกหลายชนิด สนใจต้นไหนรับไปปลูกได้นะคะ แต่มีกติกาเล็กน้อย ถ้าปลูกแล้วงอกงามดี อย่าลืมถ่ายรูป หรือเก็บเมล็ดพันธุ์กลับมาแบ่งปัน ให้น้อยแจกต่อบ้างนะคะ”


 เรื่องราวของฉันเริ่มจาก 1 ปีก่อน...ที่ฉันเรียนรู้การนำความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง จากต้นแบบที่หลากหลาย ด้วยโอกาสที่ดีซึ่งได้รับจากองค์กรที่ฉันทำงาน ทำให้ฉันได้มีโอกาสพัฒนาทักษะความรู้ โดยการศึกษาดูงานจากบุคลากรต้นแบบจากโลกออนไลน์ สอนให้รู้ถึงการดูแลสุขภาพของตนเองและชุมชน โดยเริ่มจากการสร้างความตระหนักในการดูแลสุขภาพของตนเองก่อน จากนั้นจึงแบ่งปันความรู้สู่ชุมชน


1 ปีก่อน ฉันได้เข้าร่วมกิจกรรมกับสำนักการแพทย์พื้นบ้านในการรวบรวมและอนุรักษ์ผักพื้นบ้านและอาหารพื้นเมืองในชุมชน นอกจากนี้ยังได้รับเงินงบประมาณสนับสนุน สำหรับการจัดทำศูนย์เรียนรู้สมุนไพรและผักพื้นบ้าน ภายในพื้นที่บางส่วนของโรงพยาบาลละงู  ทำให้ฉันหลงเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นชุมชนที่มีสมาชิกมาจากหลากหลายถิ่นฐานและค่อนข้างมีความหลากหลายทางอาชีพการทำงาน  แต่มีแนวความคิดเดียวกัน คือต้องการส่งเสริมสุขภาพตนเองและครอบครัวด้วยวิถีเศรษฐกิจพอเพียง นั่นคือชุมชนออนไลน์ จากเว็บไซต์ “บ้านสวนพอเพียง” ที่มาร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดูแลสุขภาพด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง ฉันเริ่มเรียนรู้ในสิ่งที่ฉันคิดว่าฉันรู้...เช่นการทำน้ำหมักชีวภาพ ที่ผ่านมาฉันสอนชาวบ้านถึงประโยชน์ของน้ำหมักที่ฉันอ่านจากตำรา เมื่อฉันลงมือทำจริงครั้งแรก  โอ้...น้ำหมักของฉันเป็นหนอน” .. ฉันหัดทำปุ๋ยหมักใช้เอง...ปลูกผักกินเองโดยปลูกในกระสอบบ้าง ในกระถางบ้าง ทั้งในพื้นที่บริเวณรอบบ้านและในสวนสมุนไพรหน้าห้องทำงาน  ฉันเริ่มมีความคาดหวัง..อยากให้ทุกคนในชุมชนปลูกผักกินเอง ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงจากสารเคมี แต่ทุกครั้งที่ฉันแนะนำ...น้อยคนนักที่จะปลูกผักกินเอง..ด้วยเหตุผลที่ว่า..เหนื่อยจากการตัดยาง...ซื้อทานเอาสะดวกกว่า... “แต่จะเชื่อได้อย่างไรว่า..ผักที่ซื้อปลอดสารพิษจริง ๆ” ฉันคิดและบอกออกไปว่า “สู้ผักที่เราปลูกเองไม่ได้หรอก” แม้จะโดนสกัดความฝัน....แต่มันก็ไม่ทำให้ฉันรู้สึกท้อ..ฉันเปลี่ยนเป้าหมายใหม่...ถ้าการชักชวนให้ทุกคน ทุกบ้านร่วมปลูกผักกินเองไม่สำเร็จ... “งั้น...ลองเลือกเฉพาะคนที่สนใจดีมั้ยนะ”  ฉันจึงเริ่มต้นใหม่ โดยกลุ่มเป้าหมายกลุ่มแรกของฉัน คือเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล .ฉันเริ่มโฆษณาสินค้า..เมล็ดพันธุ์ผัก ต้นกล้าผักและสมุนไพรที่ได้รับบริจาค จากชาวบ้านและเว็บไซต์บ้านสวนพอเพียง ให้แก่คนที่เดินผ่านไปผ่านมา  เริ่มจาก กะเร๊าะ  นุช เป็ด พี่รัตน์ และเจ้าหน้าคนอื่น ๆ ไม่เว้นแม้แต่ อสม และคนไข้ ที่ แวะเวียนมารับต้นกล้าไปปลูก “ จะทำไปได้สักกี่วัน” มีเสียงแว่ว ๆ ออกมาให้ฉันได้ยินเสมอ ตอนฉันเริ่มเพาะต้นกล้าและปลูกสมุนไพรในสวน  “ หมอ..ไม่มีอะไรทำหรอ..ถึงมาถากหญ้า” เป็นอีกเสียงที่มาจากคนไข้ที่เดินผ่าน..เสียงเหล่านี้ยิ่งเป็นสิ่งเร้า ให้ฉันมีพลังที่จะพัฒนาและส่งเสริมการดูแลสุขภาพ ด้วยกิจกรรมผักข้างบ้าน อาหารข้างรั้ว ครอบครัวพอเพียง หลีกเลี่ยงสารเคมี อย่างต่อเนื่องตลอดมา


ฉันมีพันธมิตรในการปลูกผักกินเอง หลากหลายและได้แบ่งปันความรู้สู่ชุมชนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น น้องๆนักเรียนโรงเรียนละงูพิทยาคม ที่ปลูกผักปลอดสารพิษในโรงเรียน  เวลาออกชุมชน สิ่งที่มักจะติดตัวไปกับฉันอยู่เสมอๆ คือกระป๋องสมบัติ ที่บรรจุเมล็ดพันธุ์ผักเต็มกระป๋อง เพื่อนำไปแบ่งปันให้แก่ผู้ที่สนใจ และสิ่งที่ทำให้ฉันภาคภูมิใจที่สุดนั่นก็คือเรื่องราวจากคนใกล้ตัวของฉัน พี่สาวของฉัน ซึ่งยังใช้ยาฆ่าแมลงในการฉีดรดผัก  แม้จะนาน ๆครั้งก็ตาม ฉันเคยพยายามหลายครั้งให้พี่สาว ใช้น้ำหมักไล่แมลง หลังจากฉันนำน้ำหมักที่ฉันลองทำเองไปให้ใช้ พี่สาวสัญญาว่าจะไม่ใช้ยาฆ่าแมลงอีก  และแวะมารับน้ำหมักที่ฉันหมักไว้ให้สม่ำเสมอ  ครูเตือน คนไข้ของฉันและสามีซึ่งเป็นข้าราชการเกษียน หลังจากได้รับเมล็ดพันธุ์ผัก และน้ำหมักชีวภาพ ได้กลับไปปลูกผักกินเอง ส่วนที่เหลือจากการบริโภคในครอบครัวก็ได้แจกจ่ายให้แก่คนรู้จักบ้าง ขายให้เพื่อนบ้านบ้าง แม้จะเป็นรายได้ที่ไม่มาก แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ   ทุกครั้งที่ครูเตือนมารับบริการจากโรงพยาบาล ฉันและน้อง ๆในฝ่ายได้รับผักปลอดสารพิษจากบ้านครูเตือนเสมอ เท่านั้นยังไม่พอ ครูเตือนยังเป็นผู้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆในการแบ่งปันอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ตัวฉันเองเคยมีความคิดที่จะขายผักในสวน แต่เมื่อฉันพบแนวร่วมที่รักสุขภาพเหมือนกัน ฉันจะใจอ่อนทุกครั้ง ต้นไม้ในสวนสมุนไพรของฉัน ล้วนแต่มีประโยชน์ทุกต้น เพราะฉันปลูกด้วยแนวคิดที่ว่า “กินทุกอย่างที่ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กิน”   แม้แต่ต้นพลับพลึงที่ฉันขอมาปลูกเพื่อใช้ในการทับหม้อเกลือสำหรับมารดาหลังคลอด ก็มีส่วนช่วยลดต้นทุนในการซื้อใบพลับพลึงมาใช้ อย่างน้อย ครั้งละ 5 บาท ต่อราย  แม้จะไม่ใช่ปริมาณที่มากนัก แต่ก็เป็นการส่งเสริมให้มีพืชและพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นในสถานที่ทำงานของฉันอีกด้วย


ภายในสวนสมุนไพรของฉันเป็นสถานที่สำหรับการแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมจากเจ้าหน้าที่และผู้ที่มาเข้ารับบริการจากทางโรงพยาบาล   ผู้คนเหล่านี้แวะเวียนมาเก็บผักนานาชนิด ไปกินกับน้ำพริก ใส่แกงส้ม หรือเอาไปทำหมูต้มชะมวง  รวมทั้งเข้ามาแบ่งปันต้นกล้าไม้และนำน้ำหมักไปรดผักอย่างไม่ขาดสาย  นอกจากนี้ฉันยังมีโอกาสได้แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ผัก และเผยแพร่ความรู้ในการดูแลสุขภาพที่ดีให้แก่สมาชิกเว็บไซต์และผู้ที่สนใจผ่านเว็บไซต์บ้านสวนพอเพียงอีกด้วย  


เวลา 1 ปี ที่ฉันเริ่มทำกิจกรรม ผักข้างบ้าน อาหารข้างรั้ว ครอบครัวพอเพียง หลีกเลี่ยงสารเคมี โดยใช้พื้นที่สวนสมุนไพรหน้าห้องทำงานเป็นต้นแบบ


ณ..วันนี้..สำหรับตัวฉัน.. ฉันมีรายได้เสริมจากน้ำยาล้างจาน ฉันใช้เวลาว่างจากงานวด ทำผลิตภัณฑ์ไพรฝากขาย" หัวค่ำ ฉันเตรียม ผักสมุนไพรไว้เตรียมน้าสมุนไพรเพื่อสุขภาพขาย หรือในตอนเย็นของบางวันหลังเลิกงานฉันก็แวะไปดูคนไข้ที่บ้านที่ไม่สามรถมารักษาที่โรงพยาบาลได้ ทุกงานของฉัน..ฉันไม่ได้คาดหวังว่า ฉันจะรวย..ขอแค่ฉันมีความสุขในสิ่งที่ฉันทำ ..ฉันทำแล้วมีความสุข..แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว...อาจเป็นบทเรียนที่เหลือเชื่อ...เมื่อก่อนฉันทำงานด้วยจุดหมายว่าจะต้องรวย ๆ  ปีนั้นฉันเหนื่อยมากกับความคาดหวัง ..เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่..แต่เหนื่อยใจ..นี่สิ..ทำให้ฉันล้า...แต่หลังจากฉันเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้..ชีวิตฉันได้เปลี่ยน..คำแนะนำต่าง ๆในการดำเนินชีวิต..ของผู้มีประสบการณ์..ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน..สอนให้รู้ว่า..ชีวิตที่พอเพียงทำให้ตัวเราสงบขึ้น..นิ่งคิด..มีสติมากขึ้น...


ส่วนคนใกล้ตัวของฉัน


“ น้อย...เดี๋ยวมาขอต้นรางจืด ไปปลูกที่บ้านนะ”


“พี่น้อย...ขอเก็บผักไปกินกับขนมจีนหน่อยนะคะ”


“ หมอน้อย...มีต้นอะไร กินแก้ความดันได้บ้าง ขอไปปลูกดูบ้างได้ไหม”


“ พี่น้อย...สวนรกแล้วนะ ให้พวกผมช่วยตัดไหม”


           ทุก ๆวัน มักจะมีคำถาม และ คำทักทายแบบนี้เข้ามาเสมอ  ...เสียงเหล่านี้เอง...สร้างพลังในการทำงานของฉันให้ก้าวต่อไปอย่างไม่ท้อถอย...แล้วคุณผู้อ่านหล่ะคะ..วันนี้คุณได้ทดลองแล้วหรือยัง...


  สุดท้าย..ต้องขอขอบคุณ พี่สายลมลอย และน้องมะโหน่ง..ที่ช่วยให้ในการคัดกรอง และแนะนำในการร้อยเรียงอักษรมาเป็นเรื่องเล่าในวันนี้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ความเห็น

ประทับใจมากค่ะ ขอสนับสนุนแนวความคิด การทำงานที่มีความสุข ให้ดำเนินต่อไป

จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ :love: :cheer3:

 

 

เป็นกำลังใจให้ตลอดไปนะครับพี่สาว


ขออยู่เคียงข้างเสมอค่ะ ไม่ว่าจะก้าวผิดหรือก้าวถูก เราจะเดินไปด้วยกันทีละก้าว เชียร์ๆ ๆ ๆ :cheer3: :cheer3: :cheer3: :cheer3: :cheer3:


สวัสดีค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ


เกิดมาแล้วอะไรที่ยากลำบากเราต้องฝันฝ่าไปให้ได้ค่ะ


ในเมื่อเรายังมีลมหายใจอยู่ อย่าท้อนะค่ะ สู้ๆๆ 

ชีวิตที่เรียบง่ายกับความพอใจในสิ่งที่มี

ขอให้สำเร็จกับงานที่ทำ และสิ่งที่ชอบนะคะ มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ

:cheer3: :cheer3: :cheer3:

Laughingป้าอ้อย

:cheer3: ความสำเร็จแม้จะได้มาด้วยความยากลำบากแต่ก็หอมหวาน(ในจิตใจ)เสมอครับพี่น้อย เป็นอีกหนึ่งแรงใจให้สู้ต่อไป สู้โว๊ย :nonono:

ภาษาไทยเป็นภาษาของชาติไทย เรามาร่วมรณรงค์ใช้ภาษาไทยให้ถูกกันดีกว่าครับ

หมอน้อย...คนอะไรก็ไม่รู้  ตัวเล็ก ๆ แต่ทั้งเก่ง ทั้งขยัน ที่สำคัญใจดีมากด้วยซิ...

มีความคิดเห็นที่ไม่แตกต่างกันเลย...แต่ของป้ายังไม่เป็นรูปธรรมเหมือนของคุณน้อยสักเท่าไร...ขอเวลาอีกไม่นานจะเดินตามหลังคุณน้อยไปคะ....ขอบคุณสำหรับบทความดี...อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นมากมาย....

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

หน้า