ความลี้ลับของเขายายเที่ยงในอดีต ภาค 2 ตอน ผีหลอกน่ารัก ชวนหัวเราะ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ต่อจากบล๊อกที่แล้ว ที่ได้เล่าเรื่องราวชวนขนหัวลุก แต่บล๊อกนี้ขอเล่าแบบไม่น่ากลัวนะค่ะ จะได้อ่านสบายๆ เพราะผีก็แอบมาแบบน่ารักกุ๊กกิ๊กเหมือนกัน

******

อย่างที่บอกไว้คือ พื้นที่บริเวณเขายายเที่ยงทั้งหมด เต็มไปด้วยความอาถรรพ์ และความลี้ลับทุกตารางนิ้ว หนทางทุกเส้นทาง เต็มไปด้วยเงามืดที่ไม่สามารถมองเห็น

เมื่อครั้งที่อ๊อดยังเป็นเด็ก ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงหมู่บ้าน ทุกบ้านยังใช้ตะเกียงอยู่ สัญจรกันด้วย เกวียนเป็นยานพาหะ ถนนหนทางยังเป็นลูกรังอยู่ ส่วนใหญ่ใช้จักรยานกันมากกว่า เพราะสมัยนั้น รถราคาแพง

จักรยานคันละ 50 บาท

รถยนต์ป้ายแดงคันละ 200,000 บาท

มอเตอร์ไซ คันละ หมื่น

ก่วยเตี๋ยว ชามละ 1 บาท

ข้าวสาร กิโลละ 5 บาท

ไข่ ใบละ สลึง

ตอนนั้นอ๊อดประมาณ 11 ขวบ พ่อกับแม่พาไปปลูกบ้านอยู่ท้ายไร่ เชิงเขากุดโง้งโน้นนนน ตอนนั้นทางบ้านยากจน ไม่มีเงินมากพอจะไปซื้อที่ดินในหมู่บ้าน ก็เลยต้องยอมอยู่แบบหลังเดียวโดดๆ เฝ้าสวน ร้านค้าก็มีอยู่ร้านเดียว ติดถนนมิตรภาพปากช่องสายเก่าเลย ชื่อร้าน "เจ้ลั้ง" แกเป็นคนจีน พูดไทยไม่ค่อยชัด โดนปล้นก็บ่อย แต่แกก็ยังมีเงินมาเปิดร้านใหม่อยู่เรื่อยๆ เชื่อกันว่า แกขุดหลุมเอาเงินฝังดิน

ภาพจากบล๊อกที่แล้ว จะเห็นว่าบ้านอ๊อดอยู่ท้ายเขาโน้นเลย แต่ร้านค้าอยู่ฝั่งเขื่อนลำตะคองนี่ ไกลมากโขนะค่ะ และเส้นทางก็มีทางเดียวที่ต้องผ่านไปมา ระหว่างบ้านกับร้านค้าและโรงเรียน ระหว่างทาง จะมีอยู่จุดนึง ที่เฮี้ยนที่สุด คือ "คลองน้อย" จะเป็นคลองเล็กๆ ที่น้ำไหลลงมาจากเขาแล้วไหลตัดผ่านคลองชลประทาน มาบรรจบกันที่คลอง "เจ้าแม่ตะเคียน" ที่ค่ายทหารวอลด๊อก แล้วไหลลงอ่างคลองไผ่ "คลองน้อย" ตรงนี้แหล่ะที่ทุกคนที่ผ่านในยามวิกาลจะต้องโดนผีหลอก ใครที่จะผ่านทางเส้นนี้จะต้องมาเฉพาะตอนกลางวัน พอพระอาทิตย์ตกดินปั๊บเอาล่ะ โดนทันที ยิ่งคืนวันพระยิ่งดุเดือด โดยเฉพาะคืนพระจันทร์เต็มดวง จะเห็นว่ามีทหารขี่ม้ามาเป็นร้อยๆเลย แล้วมาฟันกันด้วยมีดดาบ "ดังโฉ้งเฉ้ง โฉ้งเฉ็ง" เหมือนในหนังซามุไลเลย และมีเสียงม้าร้อง ฮี้ๆๆๆตามมาด้วย บางครั้งก็เหมือนทหารขี่ม้าไล่ตามหลังเรามา แต่มาไม่ถึงสักที มีเสียงฆ่าฟันกันแบบนี้ทุกคืน ทุกวันพระ จะเห็นรอยลากไหสมบัติ รอยเท้าคนเดินไปทางเดียวกันเป็นร้อยๆคน อ๊อดเองก็เคยเห็น ตอนเช้ามืด ปั่นจักรยานไปโรงเรียนตอน6 โมงเช้า รอยที่ว่านี้ จะไปแบบเฉียงๆ คือ ไม่ตรงตามถนน จะทะแยงมุมกับถนนของจริงที่คนเดิน พูดง่ายๆคือ ทางผีผ่าน เป็นทางของเขาที่เขาใช้สัญจร แล้วรอยเหล่านั้นก็หายเข้าไปในป่า ถ้าคนจริงๆ จะลากสมบัติเข้าป่าทำไม เห่อๆ

*****

วันนึงพ่อใช้อ๊อดไปซื้อของให้ จำไม่ได้แล้วว่าพ่อใช้ไปซื้ออะไร แต่ตอนนั้น 5 โมงเย็นแล้ว ก็แอบนึกในใจว่า พ่อทดสอบจิตใจเราหรือเปล่านะ นี่มันจะค่ำแล้ว มาใช้ไปซื้อของอะไรตอนนี้ แต่ก็ต้องไปค่ะ ปั่นจักรยานไป

*****

พอปั่นจักรยานมาถึงตรงเสาไฟฟ้าแรงสูง ตาก็เหลือบขึ้นไปเห็นผู้ชายคนนึงปืนอยู่บนเสาไฟ พอเห็น อ๊อดก็พูดออกมาคนเดียวเลยว่า "ไอ้บ้านี่ปีนขึ้นไปทำไมฟ่ะ ไม่กลัวไฟช๊อตตายรึไง" แค่นั้นแหล่ะ ทั้งคนทั้งจักรยาน ลอยละลิ่วอยู่บนอากาศ  สูง 3 เมตรได้ แล้วอ๊อดก็หล่นตุ๊บลงในบ่อทราย ไม่เจ็บนะ เพราะทรายมันนุ่ม นั่งตบทรายเปาะแปะ งงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะมาด้วยความเร็วสูง จักรยานล้อหน้าทิ่มลงไปในทรายครึ่งล้อ ล้อหลังลอยอยู่บนอากาศ ตั้งสติได้ก็รีบลูกขึ้น รีบคว้าจักรยานมาก่อนเลย ใจก็คิดว่า ผู้ชายที่อยู่บนเสาไฟ เห็นเราล้มหัวทิ่มบ่อป่าวว้าา ทั้งเขิน ทั้งอาย กลัวเสียฟอร์ม มัวแต่มองคนบ้า ไม่ดูหนทาง จนปั่นจักรยานตกบ่อทราย ฮ่าๆๆๆ

พอลุกขึ้นมาได้ก็ยังแอบสงสัยเหลือบขึ้นไปมองเขาอีกนะ แต่ปรากฎว่า เขาหายไปแล้ว อ๊อดก็มองหาว่าเขาไปทางใหน แต่ไม่ก็ไม่เห็นวี่แวว แล้วก็รีบปั่นจักรยานไปต่อ กลัวมืดกลางทาง แต่อดคิดไม่ได้ว่า คนอะไรลงมาเร็วจัง (เสาไฟฟ้าแรงสูงแบบเหล็กที่ไค้วกันไปมา เหมือนหอไอเฟล ) ขึ้นไปสูงแบบนั้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 นาทีถึงจะลงมาได้ แต่นี่อะไรใช้เวลาไม่ถึงนาที หายแว๊บ

*****

พอซื้อของเสร็จ 5 โมงครึ่ง ไกล้จะมืดแล้ว ต้องผ่านคลองน้อยไปให้ได้ก่อน 6 โมง ไม่งั้นคืนนี้เป็นไข้หัวโกร๋นแน่

 ขากลับก็กลับทางเก่า ก็แอบมองหาบ่อทรายที่ตกหัวทิ่มไปเมื่อกี้ เพราะอดสงสัยไม่ได้ว่า บ่อทรายมาจากใหน เทียวผ่านถนนเส้นนี้มาตั้งหลายปี ไม่ยักกะมีบ่อทราย แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น ขากลับอ๊อดก็จอดจักรยานเดินหาบ่อทรายนะ ประมาณ 5 นาที แต่ไม่เจอบ่อทราย มีแต่ดินแข็งๆ พอหาบ่อทรายไม่เจอ แค่นั้นแหล่ะ เผ่นดีกว่า เจอดีเข้าแล้วเรา ว่าแล้วก็ปั่นแรงสุดขีด ไปแบบรักบ้านเกิดเลย ฟิ๊ววววว เหาะไปเลย

******

และถัดไปจากคลองน้อย ก็เป็น "ต้นมะค่าแต้" (นึกถึงเม็ดมะค่าแต้พี่สายพิน) ต้นไม้ต้นนี้ จะอยู่กลางถนนเลย ไม่มีใครตัดได้ ใครคิดจะไปตัด เจอดี

มีญาติคนนึง กำลังเป็นหนุ่ม ปั่นจักรยานกลับจากไปจีบสาวต่างหมู่บ้าน กลับมาค่ำ ผ่านต้นมะค่าแต้ต้นนี้ ก็เจอสาวผมยาวท้องโย้ไกล้คลอดคนนึง สวย ขาว หน้าตาดี อายุประมาณ 20 กว่าๆ นั่งอยู่ใต้ต้น แกก็ถามว่า คอยใครเหรอ? สาวนั้นตอบกลับมาช้าๆ  "คอยยยยย ผัวววววว" และส่วนใหญ่ ผู้ชายทั้งนั้นที่โดน สงสัยจะมาคอยเฉพาะผู้ชาย

******

พอถัดไปหน่อย ก็จะเป็นบ่อน้ำลึก  มีต้นฉำฉา หรือ ต้นก้ามปู ขนาดใหญ่ อยู่ที่ริมบ่อ ตกกลางคืนมา ใครผ่านต้นไม้นี้จะเจอคนนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้

และถัดจากต้นก้ามปูไป 20 เมตร ก็จะเป็นต้นพุทราใหญ่ ลูกดกเต็มต้น ไม่มีใครกล้าไปเก็บ เพราะผีดุ คืนวันพระ มีคนเห็นผู้หญิงกระโดดผูกคอตายลงมาจากกิ่งไม้ ลิ้นจุกปาก ตาเหลือกถลน น่าสงสารมากๆ เขาคงทรมานมากกว่าเราหลายเท่าที่ฆ่าตัวตาย เพราะการฆ่าตัวตายมันบาปกว่าการฆ่าคนอื่นซะอีก กว่าจะได้ไปเกิดใหม่ ทุกวันทุกคืนต้องมาผูกคอตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

*****

สรุปแล้วกว่าจะถึงบ้านท้ายไร่ ต้องผ่านด่าน 3 ด่านนี้ไปให้ได้ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ขนาดกลางวันแสกๆยังไม่เว้น

แต่พอเสาอาทิตย์ อ๊อดกับพี่สาว และพี่ชาย (ปัจจุบันพี่ชายคนนีเสียแล้ว เป็นพี่ชายแท้ๆ พ่อเดียวกัน แม่เดียวกัน) ความที่ว่าอยากกินพุทราต้นนี้ เพราะมันหวาน ลูกใหญ่ และดกเต็มต้นทุกปี ก็พากันมานั่งนึก ว่าทำไงจะได้กินพุทรา กลัวผีก็กลัว และแล้วความคิดอุบาทก็แล่นเข้ามาในสมอง

พากันเอาเสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ มามัดเป็นตุ๊กตา แล้วเอาเชือกผูกคอตุ๊กตา แล้วเอาไปแขวนที่ต้นพุทรา  พอไปถึงต้นพุทรา ก็พากันจุดธูปขอขมาก่อน บอกว่า ขอพุทรากินหน่อยเด้อ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย สาธุ ไปที่ชอบ ที่ชอบ แล้วอ๊อดเป็นคนดึงเชือก ชักคะเย่อ ไปมา ขึ้นลง เหมือนคนผูกคอตาย เพื่อแก้เคล็ดให้คนตายเขา ถ้าดึงเชือกเหนื่อย อ๊อดก็กระโดดเกาะกิ่ง ดึงเชือก แล้วโหนไปมาเหมือนทาซาน เขย่ากิ่งให้พุทราร่วง  พี่ชายลงไปมุดเก็บในน้ำ พี่สาวเก็บบนบก แป๊บเดียว เกลี้ยงต้นเลย ได้พุทรากลับบ้านไปกินกัน สามคนพี่น้อง

หลังจากนั้นมา ไม่มีใครเคยเห็นผีต้นพุทราอีกเลย โดนผีเด็กกระโปโลผู้หิวโหยปราบแล้ว

%%%%%

ขออภัยสำหรับคนกลัวผีเด้อพี่น้อง

ความเห็น

มาอ่านเรื่องผี  อาจเป็นเพราะตอนนั้น  ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง   อะไรๆก็น่ากลัวไปซะหมด  ลูกสาวชอบให้เล่าเรื่องผี  แทนการเล่านิทาน   พอเล่าก็นอนไม่หลับ  คนเล่าหลับก่อน  ก็โดนปลุก  แม่ๆ น้องกลัว...อ้าว..แล้วให้เล่าทำไม

อ๊อดโดนผีหลอกบ่อยนะ แต่ไม่เคยเจอแบบ แลบลิ้นปลิ้นตา เจอแต่แบบเป็นเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แบบที่บอกค่ะ ว่าเห็นเป้นคนเดินโท่งๆเลย ก็เลยไม่กลัวเท่าไหร่ แต่ในใจก็กลัวว่าเขาจะมาแบบและๆ ตาถลนอะไรแบบนั้น

ตื่นมาฟัง สว. เล่าความหลัง   ชอบ  ๆๆๆ   :uhuhuh:

ผีหลอกไม่กลัว  ....กลัวผีอำมากว่า   :cute2:

ไปแระ .........   กลัวผี  :scared:

ฮ่าๆๆ ว่าจะชวนเจ้โสไปเก็บพุทราซะหน่อย

 

น้องอ๊อด เอื้อยตามอ่านเรื่องผีน้องมา 2 บล็อกแล้ว บล็อกแรก สยองสุด ๆ แต่บล็อกนี้ พี่ว่าผีเขาน่ารัก...แต่น้องอ๊อด...เป็นตาย่านกว่าผีอีกเด้อ!....ปราบฮอดผี...:crying2:  ที่ดินบ้านเอื้อยก็เป็นทางเทียวของคนสมัยโบราณคือกัน สมัยเด็ก ๆ ก็เจอดีประจำ...บรื๊อออออ!!!!!!!

555555555 คนมันอยากกินน่ะ ทำไงได้ อยู่ป่าอยู่เขา กลัวก็อดซิ สมัยนั้น จะไปตลาดปากช่องที ต้องออกมาโบกรถบัสสีส้มๆ สาย อบลฯ- กรุงเทพฯ ถึงจะได้ไปตลาด รถแอร์ก็ยังบ่มี ป.1 กับ ป.2 ก็ยังบ่มี มีแต่รถบัสพัดลม จอดตลอดทาง

555... ตกลง จับไข้มั้ยคะพี่อ๊อด

ชีวืตที่เพียงพอ..

ไปถึงบ้านก่อนค่ำจ้า เลยไม่เจอ เจอแต่ที่ปีนอยู่บนเสาไฟนั้นแหล่ะ ที่ปากเสียไปว่าเขา เลยโดนจับทุ่มบ่อทราย ทั้งคนทั้งจักรยานเลย อิอิ

:bigeye: :victory:

หน้า