"จะเกิดอะไรขึ้น หาก..."

หมวดหมู่ของบล็อก: 

"จะเกิดอะไรขึ้น หาก..."


เช้านี้อ่านหนังสือ "พัฒนาสมองซีกซ้ายให้เป็นอัจฉริยะ"ของ  Allen D.Bragdon & David Gamon,Ph.D. แปลโดยจักรกฤษณ์ แก่นจันทร์ ของสำนักพิมพ์ Good Morning กทม.(ธันวาคม 2546)


อดใจไม่ได้ที่อยากจะคัดลอกมาให้อ่านกัน หลายตอน แต่มีหน้าหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจลงบล็อก หน้า 17 ความมีอยู่ว่า


"จะเกิดอะไรขึ้นหากสมองซีกขวาและสมองซึกซ้ายไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลให้แก่กันและกัน


เมื่อพิจารณาอย่างลึกซึ้งถึงความแตกต่างระหว่างสมองสองซีกซ้ายและสมองซีกขวา จากการศึกษาคนที่เคยมีการติดต่อสื่อสารระหว่างสมองสองซีก แพทย์จะตัดผ่านส่วนกลางสมองผู้ป่วยบริเวณกลุ่มใยประสาทที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อสมองซีกซ้ายและซีกขวาไว้ด้วยกัน และแยกสมองออกเป็นสองส่วนที่เป็นอิสระต่อกันโดยสิ้นเชิง แพทย์เริ่มใช้วิธีการรักษาโดยการแยกส่วนสมองครั้งแรกในทศวรรษที่ 1940s เพื่อลดความรุนแรงของโรคลมบ้าหมู โดยป้องกันไม่ให้อาการชักที่เริ่มจากสมองด้านหนึ่งลุกลามไปยังสมองอีกด้านหนึ่ง น่าแปลกที่ผู้ป่วยที่ถูกแบ่งสมองสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้เหมือนคนปกติ และสามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนคนธรรมดา... จนกระทั่งมีการสำรวจลักษณะนิสัยและทดสอบพวกเขาอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างรายงานทางการแพทย์ฉบับหนึ่งบอกว่า ผู้ป่วยที่ผ่าแบ่งสมองที่มีสองมือ(แต่ละมือถูกควบคุมโดยสมองแต่ละซีก)มือไม้พันกันเมื่อลุกขึ้นแต่งตัวตอนเช้า มือหนึ่งพยายามดึงกางเกงขึ้น ขณะที่อีกมือหนึ่งพยายามดึงมันลง คนไข้อีกรายหนึ่งตื่นขึ้นได้เพราะถูกมือของเธอเอง...ตบหน้าอย่างจัง สมองซีกที่ควบคุมมือข้างนั้นตื่นก่อน และรู้ตัวว่าสมองอีกซีกหนึ่งยังนอนขี้เซาอยู่จึงตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์..."


... อ่านแล้วก็ทึ่งความสามารถของสมองแต่ละซีกที่สามารถทำงานและแก้ปัญหาได้ขณะที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน อยากบอกว่า มีความสุขในวันนี้คือสมองสองซีกยังสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ได้ไม่ตกใจตื่นเพราะว่าสมองข้างหนึ่งตื่นก่อนแล้วแก้ไขสถานการณ์ให้อีกข้างหนึ่งตื่นอย่างในเรื่องราวหนังสือหน้านี้ ...


มีความสุขกันมาก ๆ นะคะ

ความเห็น

อ่านแล้วบอกตัวเองว่า  เออ...ยังดีนะ ที่ยังมีสมองแต่ละส่วนไว้ทำหน้าที่ของตัวเอง  ถึงจะช้าบ้าง

โง่บ้าง ก็ช่างเถอะ เพราะใช้เจ้ามานานแล้ว คงใกล้เวนคืนแล้วล่ะนะ

 

ย่าตอนคะ วันหนึ่งคงถึงคิวหลานบ้างค่ะ ตามกาลเวลา ล่าสุดนี้อ่านในหนังสือเจอว่าหากฝึกสมองบ่อย ๆ เส้นใยประสาทในสมองจะขยายกิ่งก้านสาขาได้ค่ะ ถือว่าเป็นข่าวดีมากทีเดียว อีกเรื่องที่ว่าสมองเสื่อมตามวัยนั้น มีข้อมูลเรื่องอาหารเสริมสมองด้วยค่ะ คือ เรื่องของสารกาบ้า(GABA)ที่มีในข้าวกล้องเพาะงอก ไว้หลานต้องหันกลับมาหุงข้าวกล้องเพาะงอกอีกรอบแล้วนะคะ

ฮ่า  ๆๆๆๆ   อ่านแล้วต้องสำรวจตัวเองซะหน่อย  ... เพราะทุกวันนี้   ไอ้นั้นก็จะเอา  ไอ้นี่ก็จะเอา  แต่....เหอะน่าาาาาาเอาไว้ก่อน ....ไว้ว่าง ๆ ค่อยทำวันหลัง  เลยไม่ได้อะไรสั๊กกะอย่าง  5555  เจ๊สายว่ามันจะเกี่ยวกะสมองสองซีกม่ะ ........  หรือเพราะความขี้เกียจ  :uhuhuh:

เจ้โส ...สมองสองซีกถกกันไม่ลงตัวน่าจะต้องหาทางประนีประนอมกันละค่ะ เจ้โสว่าไหม  อิอิ  ก็เป็นด้วยอีกคนล่ะค่ะ พอมีเวลานั่งพักหันมามอง อ้าว เกลื่อนเชียว

สาระดีๆ :love:

ขอบคุณค่ะ หนุ่มอาร์ม ... อ่านแล้วก็อดทึ่งความสามารถของสมองไม่ได้

แบบนี้คงลำบากเลยครับพี่ :sweating:


คุณรุท ลำบากแบบว่าไม่น้อยเลยนะคะ เพราะว่าไม่ได้เป็นวันเดียว แต่เป็นกันทั้งชีวิตเลย

ไม่ว่าสมองซิกซ้ายหรืขวาจะเป็นอย่างไร...


แค่ขอให้คนเราคิดดีทำดีก็พอแล้วละค่ะ...

เป็นข้อที่คิดอยู่บ่อย ๆ ว่าวันหนึ่งหากแก่เฒ่า สมองถดถอยลง สิ่งที่เหลือขอให้เป็นสิ่งที่คิดดี ๆ ...ขอบคุณมากนะคะ

หน้า