น้ำท่วมกระชังปลา

     บทเรียนราคาแพงมาแล้วค่ะ น้ำท่วมกระชังเลี้ยงปลาเพื่อการเรียนรู้

    เมื่อคืนฝนตกหนักมาก และก่อนหน้านี้ก็มีน้ำสะสมอยู่เต็มห้วย ก็เลยเจอสภาพนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมลายหายไปกับน้ำนั่นก็คือปลานิลจำนวน 1,500 ตัว ที่เลี้ยงมาตั้งแต่ 16 มิถุนายน 2552 แม้แต่สักตัวก็ยังไม่กล้าเอามากินเนื่องจากอยากให้มันโตกว่านี้

      ได้เรียนรู้สมใจอยากเลย อันที่จริงห้วยหลังบ้านน้ำจะไม่เคยมากขนาดนี้ แต่ก็ตั้งตาระวังน้ำมาก่อนลอยกระทงนั่นแหละ แต่เอาเข้าจริง ๆ พอน้ำมาช่วงกลางคืน น้ำมาเร็วมาก ไหลผ่านบนกระชังไปเลย กระชังลอยตัวไม่ทัน เจ้าปลานิลตัวน้อย อายุ 4 เดือน 20 วัน ขนาดน้ำหนักประมาณ 4 ตัว/กก. ก็ไปกับสายน้ำ

                              สภาพก่อนน้ำท่วม

จะมีใครเห็นใจผู้ประสบภัยบ้างหนอ คราวต่อไปคงต้องเลี้ยงหน้าแล้งซะแล้ว

สรุปผลการเลี้ยงได้ว่า

       น้ำสะอาดไหลผ่านตลอด ปลาโตเร็วดี  รสชาดปลาอร่อย (ทราบจากชาวบ้านที่จับปลาได้)

ปัญหาและอุปสรรค

      - ช่วงหน้าแล้ง กระชังปลาถูกรบกวนจากสัตว์อื่น เช่น ตะกวด นาก งู นก ปลาขนาดใหญ่กว่า  

      - กิ่งไม้บริเวณใกล้ ๆ หักโค่นทับกระชัง 

      -  ช่วงหน้าฝน น้ำมากจนกระชังลอยตัวไม่ทัน เนื่องจากว่ากระชังที่นำมาเลี้ยงมีขนาดใหญ่ แต่ห้วยแคบ การลอยตัวยากลำบาก 

      พอแค่นี้ก่อนดีกว่าตอนนี้ก็นั่งมองน้ำที่กำลังท่วมต่อไป รอจนน้ำลดค่อยเก็บกระชังมาซ่อมแซม หรืออาจจะไม่มีโอกาสได้เก็บก็อาจะเป็นไปได้ เพราะฝนก็ทำท่าจะตกหนักต่อไปอีก 

 

 

ความเห็น

การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ไม่ทราบว่าจะสามารถช่วยอะไรเราได้บ้าง แต่เท่าที่รอคอย เริ่มขึ้นทะเบียน เดือนสิงหาคม 2552 หลังจากนั้นประสบภัยน้ำท่วมเดือน พ.ย 52 แจ้งเรื่องที่ สนง.เกษตรอำเภอ จากลองศึกษาหาข้อมูลการช่วยเหลือเกษตรกรจากภัยต่าง หลังจากแจ้งเรื่องแล้ว ไม่น่าจะเกิน 60 วัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากทางการเลย ไม่รู้ว่าเค้าให้ขึ้นทะเบียนเพื่ออะไรบ้าง

แต่ก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรหรอกค่ะว่าจะได้รับความช่วยเหลือ เพียงแต่เข้ามาบ่นนิดหน่อยเอง

   เห็นใจมากค่ะ คนทำงานเมื่อเจอกับสภาพแบบนี้(ที่ควบคุมไม่ได้) ก็น่าปวดหัว แต่อย่าท้อนะคะ กำลังใจล้นหลาม เป็นไปได้มั๊ยถ้าจะทำกระชังให้มันเล็กลงเพื่อให้มันลอยได้ทันกับปริมาณน้ำ

   การลงทะเบียนเกษตรกร ตามนโยบายรัฐทำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยเป็นหลัก คุณแจ้วขึ้นทะเบียนแล้วและแจ้งเรื่องน้ำท่วมกระชังปลาไปแล้ว ตอนนี้ถึงขั้นตอนสำคัญ รอค่ะ รอต่อไป การช่วยเหลือช้ามาก แต่ยังไงคิดว่าน่าจะมีความหวัง

พอบ่นแล้วมีคนให้กำลังใจกลับมา หายเครียดเลยค่ะ เมื่อกี้โทรตามเรื่องไปทาง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บอกเดี่ยวจะตามเรื่องให้ แสดงว่าเค้ายังไม่เคยตามเรื่องเลย ตอนนี้ก็ตั้งใจทำกระชังใหม่ให้มาตรฐานกว่าเดิม หากล่าช้าไปกว่าเดือนมีนาคม ก็คงเจอภัยธรรมชาติดอีกแน่ๆ  ขอบคุณกำลังใจค่ะ

บล็อกนี้ พึ่งได้อ่าน  ทำการเกษตร  ก็ต้องระวังเหมือนกันนะ  เสียหายเยอะเลย

เพราะการไม่เข้าใจกันค่ะ ติดต่อไปทาง สนง.เกษตรและ สนง.ประมงอีกที ได้รับคำถามกลับมาว่า แล้วคุณขึ้นทะเบียนผู้เลี้ยงปลาในกระชังด้วยรึเปล่า .... เปล่าค่ะ งั้นคุณก็ไม่มีสิทธิได้รับความความช่วยเหลือครับ....อ๋อรึคะ....แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่วันไปแจ้งเรื่องล่ะคะ ....ออ ผมไม่ได้รับเรื่องเองครับ   .....  งั้นขอเอกสารทั้งหมดคืนด้วยค่ะที่ยื่นไว้ตั้งแต่ 10 พ.ย. 52 น่ะค่ะ  เอกสารรึครับ ผมไม่แน่ใจนะ....เอ้า ตกลงคุณได้ดูเอกสารรึยังคะ .... เอ่อ  ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่สำนักงานนะครับ ไว้ผมจะดูให้อีกทีนะครับ

สรุปแล้วคือเค้าไม่ได้ใส่ใจในเอกสารที่เราส่งไป คนที่รับเอกสารก็ไม่ทราบรายละเอียด ผญ.บ้านก็แค่มาแจ้งว่า ให้ไปเขียนคำร้องขอรับความช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมกระชังปลา เราก็เสียหายหลายตังก์ก็คิดว่าได้กลับมาสักนิดก็จะได้เลี้ยงต่อได้

ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน  ทะเบียนเกษตรกร ก็คือเอกสารหางกระดาษ แผ่นเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย

ไม่เคยไปขึ้นทะเบียนเกษตรกร เลย  เพราะคิดว่าบางทีเป็นนโยบายแต่ปฏิบัติจริงหละผู้ที่วงานโยบายกับผู้ปฏิบัติไปคนละแนวทางกัน บางทีก็วางเพื่อสวยหรูก็มีค่ะ

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

น้องแจ้วของพี่แรกๆแจ้งก็ไม่ได้ ต้องมีใบขึ้นทะเบียนสีเหลือง รู้สึกว่าตอนหลังได้ 850 บาท (มากจังเสีย)แต่ว่าก็ให้แม่แจ้งไว้พันนั้นแหละค่าลูกปลาก็ไม่พอที 55555 คิดเสียว่าปล่อยปลาสู่ธรรมชาติ ก็บอกแล้วไงว่าเอาแบบไม่ทำหมันจะได้แพร่พันธุ์ต่อไป ของเพื่อนเค้าปล่อยปลาตอนวันเกิด ของพี่ปล่อยทุกปีตอนน้ำท่วม 55555 อย่าไปเครียดกับเจ้าหน้าที่เลยเช้าชามเย็นชาม เฮ่อ ประเทศไทยยังอีกนานนนนน

คุณน้องแจ้ว พูดกระทบใจอย่างแรง
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเห็นด้วย ความกระตือรือล้นของเจ้าหน้าที
ตอนบอกจะช่วยเหลือเรา หาได้ครึ่งของเราตอนที่เขาออกพื้นที่
แล้วเรากระตือรือล้น หาข้าวปลาเลี้ยงเขาด้วยซ้ำ จริงๆ
ให้ตายสิ ไก่ในเล้าเรามีกี่ตัวก็ต้มให้กิน ด้วยยินดี เห็นเขามาสำรวจ
กลัวจะอดน้ำ อดข้าว ปวดร้าวตามหลัง เมื่อรู้ว่าข้อมูลที่สำรวจไป
ไม่ใส่ใจจะเก็บจริงๆ พอทำรายงานก็นั่งเทียนเขียน เพราะข้อมูลดิบ
เอาไปตั้งไว้ไหน จำไม่ได้  เฮ้อๆๆ ได้แต่หวังว่า
คงมีแค่คนที่เราเห็น ที่เป็นแบบนี้   

เอาใจช่วย สู้ๆค่ะ คุณแจ้ว


 

ลูกอิสานกันดารแท้ แต่บ่อเหี่ยวทางน้ำใจเด้อ
หากแหม่นใหลหลั่งรินปานฝนแต่เมืองฟ้า
มาเด้อพวกพี่น้อง สานสัมพันธ์ให้มันแก่น
ให้ยืนยาวแนบแน่นพอปานปั้นก้อนข้าวเหนียว เด้อพี่น้อง

ทุ่นลอยถ้าเป็นถังพลาสติก 100ลิตรปากกว้างฝามีเกลียว จะสามารถใช้ได้ไหมคะ

หน้า