เส้นทางในฝันแห่งตะนาวศรี

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ไม่ว่าจะเดินขึ้นเขา หรือปั่นจักรยาน หรือแม้แต่เข็นจักรยานขึ้นเขา มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากใจมุ่งมั่น มันสอนให้เราอดทน แข็งแกร่ง และรางวัลที่ได้รับมันคุ้มค่ามาก เหมือนกับงานหนัก ที่ต้องตรากตรำ ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย แต่เมื่อถึงยอดเขา... วิวบนนั้นสวยสุดใจ เป็นความงดงามของธรรมชาติที่ไปสัมผัสได้ด้วยสองขาของเราเอง แล้วบางครั้งความรู้สึกนั้นมันทำให้เราอยากร้องตะโกนให้ก้องฟ้าว่า ‘ฉันทำได้’

แล้ววันนี้เราได้รับรางวัลจากการปั่นและเข็นขึ้นเขากันมาทั้งสองวัน เส้นทางในฝันของเทือกเขาตะนาวศรี เส้นทางที่สวยงดงามที่อ้อยหวานและเพื่อนร่วมทางใฝ่ฝัน และเมื่อพบแล้วก็ยังฝันที่จะกลับไปเยือนอีกครั้ง

 

เช้าวันนี้เราออกจากที่พักก่อนตะวันจะข้ามพ้นเหลี่ยมภูผา ปั่นลงเนินมาแค่ 200 เมตรก็มาพบรีสอทอีกหลายแห่งที่อยู่ติดๆ กัน แล้วมาเจอกับป้ายโฆษณาสุดท้ายของสวนผึ้ง เราแกล้งแซวกันเล่นว่า วิวสวยๆ ของสวนผึ้งอยู่ไหน? อ้อ..อยู่หลังป้ายนี่เอง!!

 

อ้อยหวานบอกกับคุณผู้ชายว่า ต่อไปนี้เส้นทางจะลงเขา จะปล่อยให้สองล้อไหลเลื่อนลงเขาให้สนุกไปเลย แต่ไม่ทันขาดคำ!! เลี้ยวโค้งข้างหน้าก็ต้องร้องจ๊ากส์!! ถนนคดเคี้ยววกวนขึ้นเขาอย่างกับพับผ้า เราเลยต้องลงเข็นจักรยานกันแต่เช้า ไม่เป็นไร อากาศยามเช้าเย็นสบาย ถือว่าเป็นการวอร์มกล้ามเนื้อขาก็แล้วกัน รูปนี้เข็นขึ้นเขามาครึ่งทางแล้วถ่ายรูปย้อนลงเขา ของจริงชันกว่าที่เห็นในรูปมาก

 

พ้นเนินเขาลูกนั้น จักรยานทั้งสองคันก็ข้ามเขตอำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี มาสู่อำเภอด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี เส้นทางก็ไหลลงเขาอย่างที่ใจหวัง สองข้างทางปกคลุมด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่ หอมกลิ่นดอกไม้ป่าอบอวล ส่วนใหญ่จะเป็นต้นปีบป่า ที่ทั้งสูงทั้งใหญ่ ดอกขาวพราวเกาะอยู่บนกิ่งสูงๆ แต่กลิ่นหอมลอยต่ำมาให้คนเดินทางได้ดอมดม อยากหยุดสองล้อไว้ตรงนี้ แล้วไปนั่งสูดดมกลิ่นหอมหวานของปีบป่า แต่ผู้ร่วมทางเร่งรีบ เพราะวันนี้เป้าหมายอยู่ไกล และพยากรณ์อากาศในอินเตอร์เน็ทบอกว่าอาจจะถึง 35 องศา อ้อยหวานถอนหายใจ 30 องศาก็ย่ำแย่แล้ว 35 องศาคงเป็นจะเนื้อแดดเดียวแน่เลย

 

เส้นทางในฝันของนักปั่นจักรยาน..เส้นทางสีเขียวที่คดโค้งผ่านไร่อ้อยและมันสำปะหลัง กับวิวภูเขาเป็นฉากหลัง ทำให้อ้อยหวานนึกถึงเพลง WHAT A WONDERFUL WORLD...โลกนี้ช่างน่าอภิรมย์

…ฉันมองเห็นต้นไม้สีเขียวๆ

…ฉันมองเห็นท้องฟ้าสีฟ้าใส

แล้วฉันต้องปรารภกับตัวเองว่า…โลกนี้ช่างน่าอภิรมย์

 

บางช่วงก็เป็นไร่แครอท แปลงแครอททอดยาวสุดชายเขาเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก

 

มองไกลๆ คล้ายกับหน่อไม้ฝรั่ง แต่พอมาดูใกล้ๆ อ้อยหวานคิดว่าเป็บแครอท

 

พอพ้นเขตไร่สวนเราก็มาถึงบ้านหินสี ถ้าเลี้ยวซ้ายก็ไปยังน้ำตกสาธิต หนึ่งในหลายๆ น้ำตกของเมืองกาญจน์ เราเลี้ยวขวามุ่งตรงสู่กาญจนบุรี

 

บรรยากาศของเส้นทางในฝันก็เปลี่ยนจากไร่สวนไปเป็นป่าทึบเขียวชอุ่ม ได้ยินเสียงนกป่าร้องกันเซ็งแซ่ ถ้าไม่มากับจักรยานก็จะไม่ได้ยินหรอกนะ แค่ขับรถตบึงมาแต่ไกล ป่าทั้งป่าก็แตกกระจุยไปกันคนละทิศละทาง แถวนี้เราไม่ต้องออกแรงมากเพราะไหลลงเขาไปเรื่อยๆ

 

สำนักสงฆ์ป่าวิเวท ธรรมสถาน ริมอ่างเก็บน้ำ ( ห้วยยายทอง ) เป็นสถานที่ที่เงียบสงบมาก

 

ต้องเดินข้ามสะพานไปอีกฝากหนึ่ง เป็นสถานที่ที่เหมาะสมแก่การปรีกวิเวกจริงๆ เสียดายเราไม่ได้แวะเข้าไป

เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนความสงบของสถานที่

 

หลังจากนั้นเราก็พ้นจากเขตภูเขา เส้นทางจากด่านมะขามเตี้ยสู่ตัวเมืองกาญจนบุรีจะมีแปลงผัก ไร่อ้อย และมันสำปะหลัง สลับกันไปตลอดทาง เราแวะกินไอศครีมกันที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย ซึ่งช่วยบรรเทาร้อนได้มาก วันนั้นทั้งวันเราดื่มน้ำไปคนละสามขวดใหญ่ๆ แถมยังแวะเติมโค๊กเย็นๆ กันสองสามรอบ

 

คุณผู้ชายหาถนนหลังที่ซอกแซกผ่านไร่อ้อยอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ผ่านหมู่บ้านต่างๆ เราก็เลยไม่ต้องปั่นบนถนนใหญ่สู่ตัวเมืองกาญจนบุรี

 

ระหว่างทางเข้าตัวเมืองผ่านสุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ เราหยุดแวะชมและทำความเคารพต่อทหาเชลยศึกที่สูญเสียชีวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ทั่วบริเวณเงียบสงบ ปราศจากนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เพราะส่วนใหญ่จะไปชมกันที่สุสานใหญ่

สุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่ หรือสุสานทหารสัมพันธมิตรเขาปูนแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย บริเวณท่าน้ำเมืองกาญจนบุรีห่างจากตัวเมืองไปทางแม่น้ำแควน้อยประมาณ 2 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 7 ไร่  เมืองสุสานทหารสัมพันธมิตรช่องไก่เคยเป็นที่ตั้งของค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ บริเวณสุสานสงบและสวยงาม มีขนาดเล็กกว่าสุสานดอนรัก บรรจุศพทหารเชลยศึกซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารอังกฤษ ประมาณ 1,740 หลุม ภายในมีการตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับอย่างร่มรื่น

ขอบคุณข้อมูลจากการท่องเที่ยวไทย

 

แผนที่เส้นทางของวันนี้ 78 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมง เพราะเราหยุดแวะกันบ่อยๆ นับเป็นวันที่เราปั่นเป็นระยะทางไกลที่สุดในทริปนี้ เราไปถึงโรงแรมที่เราพักในสภาพโทรมสุดๆ พรุ่งนี้จะเป็นวันพักสบายๆ ของเรา และจะตากแดดกันให้น้อยที่สุด

 

โปรดติดตามปั่นเที่ยวไทยกับอ้อยหวานในตอนต่อไป

อ่านปั่นเที่ยวไทยตอนที่แล้วได้ที่นี่

 

รางวัลแด่คนช่างฝัน

ปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง มันปิ้ง ปิ้ง จริงๆ นะ

หอมกลิ่นไอฝน ยลความงามสีเขียว ณ.เชิงเขานครศรีธรรมราช

ถามหาความทรงจำที่ราชบุรี

เยือนถิ่นตะนาวศรี ดินแดนแห่งขุนเขา ณ.สวนผึ้ง

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

 

ขอบคุณค่ะ

 

อ้อยหวาน

ความเห็น

ตามคุณอ้อย เที่ยวทุกทริป  ไม่ได้ไปเองขอไปในฝันก็ยังดี อ่านไปฝันไปเฮ้อความสุขเล็กๆ

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

ช่างมีความสุขเหลือเกินคะแค่ได้ติดตามอ่านบล๊อกพี่อ้อยหวาน  ถ้าได้สัมผัสด้วยตัวเองคงสุขหลายคะ

ความสะดวกสบายมีขาย แต่ความสุขเงินซื้อไม่ได้ เพราะความสุขมิใช่เงิน

จริงอย่างคุณอ้อยว่า สุสานทหารเคยแต่ขับรถผ่าน ไม่เคยได้แวะชมสักที

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

เพิ่งรู้ว่ารอบๆบ้านตัวเองก้มีธรรมชาติสวยงาม เหมาะแก่การหาเวลาไปปั่น แบบคุณอัอยหวานบ้างจริงๆ ขอบคุณอีกครั้งที่นำทางให้เราก่อน สักวันเราจะตามรอยไปค่ะ^^

ความสุข..อยู่ที่ใจ

เก่งจัง ค่ะ แข็งแรงมากๆด้วย วิถี ริมทาง งดงาม อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน.....เอาไว้ทริปหน้า พี่อ้อยหวาน มาจัดพวกเรา เข้า ทีม ด้วย สัก 10 กม. เห็นท่าจะดี นะ เป็นการปั่น เป็นเพื่อนร่วมทาง สัก ระยะ สั้นๆ ค่ะ

สนุก เลยนะคะ พี่อ้อย เจอทางคดเคี้ยว โค้ง อย่าง นั้น  จูงสิคะ...โอ้...บรรยากาศสองข้างทาง สวยงาม จริงๆ ถ้าไม่บอกว่าเมืองกาญฯ คงคิดว่าเป็นญี่ปุ่น หรือที่ต่างประเทศ แน่ๆ เลย

เสียงนกร้อง สลับกับธรรมชาติ ..ช่างเป็นการปั่นจักรยาน ที่มีความสุข และได้บรรยากาศ มากครับ

จงเตือนตน ด้วยตนเอง

ประเทศของเรานี่สวยงามจริงๆ น่าภูมิใจมากๆ ค่ะ