ชีวิตขึ้นๆ ลงๆ บนเทือกเขาแอลป์ ตอน ดุจเมืองในฝัน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

อ้อยหวานพาชมเมืองในหุบเขามาหลายเมืองแล้ว วันนี้จะมีเมืองริมทะเลสาบมาแจมให้ชมกันอีกด้วย และขึ้นชื่อว่าอิตาลีแล้ว เมืองแต่ละเมืองของเขานั้นจะไม่ธรรมดาเลย แต่จะสวยดุจเมืองในฝันเลยทีเดียว เป็นความงามที่ตรึงใจและความทรงจำแก่ผู้ที่ได้มาเยือน แม้จากมาแล้วก็ยังถวิลหา

 

จากเมือง เทร็นโธ เช้าวันรุ่งขึ้นเราพับจักรยานทั้งสองคันใส่ใต้ท้องรถเมล์ ที่มุ่งหน้าขึ้นเขา แล้วไปเริ่มปั่นจักรยานกันที่หมู่บ้านหรือเมืองเล็กๆ ในหุบเขาอีกด้านหนึ่ง รถเมล์ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ถ้าปั่นจักรยานข้ามเขากันเอง ก็คงจะต้องปั่นกันซี่โครงบาน และใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือทั้งวัน เพราะทางขึ้นเขาวกวนยังกับผ้าพับ เส้นทางเมื่อวันวานอ้อยหวานร้องว้าว! ว่ามันซุปเปอร์สวยแล้วนะ เส้นทางวันนี้ยังเหนือกว่าซุปเปอร์สวยเสียอีก สองขาปั่นจักรยานไป ส่วนในใจนั้นร้องว้าว! ว้าว! ไปตลอดทาง

 

หุบเขาเล็กๆ แคบๆ แห่งนี้ช่างงดงามยิ่งนัก หมู่บ้านแรกที่เราปั่นผ่านในวันนี้ เงียบสงบ และสะอาดสะอ้าน มีดอกกุหลาบริมรั้วเป็นพนักงานต้อนรับ กุหลาบกอนี้หอมฟุ้งไปไกลเลยทีเดียว เสียงจักรยานเบรคดังเอี้ยด.. จะไม่หยุดหอมพนักงานต้อนรับได้อย่างไร

 

หลังจากนั้นก็มีน้องกุหลาบมายืนรออยู่ริมทางอีกมากมาย ในหุบเขาแห่งนี้เขานิยมปลูกกุหลาบกัน

 

เส้นทางจักรยานซอกแซก คดเคี้ยว ขึ้นๆ ลงๆ ผ่านสวนแอปเปิลและไร่องุ่น ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขา บางช่วงแคบมากๆ ให้ความรู้สึกถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นของภูเขาสูงใหญ่

 

ไร่องุ่นแต่ละแห่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

 

ส่วนสวนแอปเปิ้ลนั้นก็เป็นระเบียบไม่แพ้กัน

 

ทางจักรยานวิ่งผ่ากลางหมู่บ้านหรือเมืองหลายแห่ง ที่ยังเก็บรักษาความงามเก่าแก่เอาไว้ ชมเมืองเก่าบนจักรยานนั้น ช่างเข้ากันดีจริงๆ ไร้เสียง ไร้มลพิษ ไร้ร่องรอย ผ่านมาแล้ว ผ่านไป เก็บแต่ภาพ และความทรงจำ

 

บ้านบางหลัง บ่งบอกความใส่ใจของเจ้าของ

 

แต่งเติมสีสันให้กับบ้านสีสวย

 

อีกเมืองหนึ่งที่คราคร่ำไปด้วยจักรยาน ถ้าไม่เดินชม การปั่นจักรยานก็เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมอีกทางหนึ่งในการชมเมือง

 

เมืองแต่ละเมืองนั้นเล็กจริงๆ ปั่นไม่นาน สองข้างทางก็กลายสภาพมาเป็นสวน ทำให้เป็นเส้นทางจักรยานที่น่าเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก เพลินขา เพลินตา เพลินใจ และสบายหู เพราะไม่มีเสียงเครื่องยนต์ใดๆ นอกจากเสียงนกร้องเพลง

 

ระยะทาง 35 กิโลเมตร เราก็มาถึงจุดหมายปลายทางสำหรับวันนี้ ‘ทะเลสาบการ์ดา (Garda)’ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี เป็นทะเลสาบที่เกิดจากการกัดกร่อนของธารน้ำแข็งในยุคน้ำแข็ง เมื่อ 5-6 ล้านปีก่อน ทะเลสาบการ์ดานี้มีรูปร่างคล้ายแจกันที่มีคอแคบยาว ขนาบข้างด้วยเทือกเขาสูง ส่วนปลายทะเลสาบผายออกจากเทือกเขาแอลป์ เป็นก้นแจกันที่สวยงดงาม

 

เราแวะค้างคืนกันที่เมืองริวา เดล การ์ดา (Riva del Garda) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เหนือสุดของทะเลสาบ (ปากแจกัน)

 

จัสตุรัสกลางเมือง ในภาษาอิตาลีเรียกว่า เพียซ์ซ่า (piazza) ที่ทุกเมืองจะต้องมีกัน เมืองริวา เดล การ์ดา ตั้งอยู่ริมน้ำ เพียซ์ซ่าของเมืองก็ต้องอยู่ริมน้ำ แถบนี้มีโรงแรมเก่าแก่ ร้านค้า ร้านอาหารริมน้ำน่านั่ง ไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือน ตึกรามบ้านช่องต่างๆ ทาสีสวยใสน่าดูมาก เป็นตัวอย่างที่ดี ที่ชี้ให้เห็นว่า ความเก่าแก่ไม่จำเป็นต้องผุพัง คร่ำครึ เป็นความเก่าที่มีความสดใสเข้ากันได้อย่างลงตัว

 

เช้าของอีกวัน สองจักรยานก็ได้เลื่อนล้อลงเรือโดยสารลำใหญ่ เป็นเรือที่ล่องรับส่งนักท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ ริมทะเลสาบการ์ดา ระยะทางจากเหนือสุดไปใต้สุดของทะเลสาบ 50 กิโลเมตรนั้น ใช้เวลาล่องเรือถึงสามชั่วโมงครึ่ง ถ้าปั่นจักรยานก็คงใช้เวลาเท่าเทียมกัน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีทางจักรยานเลียบทะเลสาบ ส่วนถนนเลียบทะเลสาบนั้นค่อนข้างอันตรายสำหรับจักรยาน เพราะมีรถเยอะ และวิ่งผ่านอุโมงค์อยู่สองสามแห่ง ชมเมืองบนเรือให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากบนจักรยาน ข้อดีก็คือ เป็นการเปิดโอกาสให้อ้อยหวานได้เก็บภาพโปสการ์ดหรือภาพวิวของเมืองในฝันเหล่านี้

 

ทะเลสาบการ์ดาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับมาพักผ่อนหย่อนใจของชาวอิตาลี มาตั้งแต่โบราณกาล เมืองแต่ละเมืองจะเป็นเมืองรีสอร์ทเล็กๆ แต่มีคฤหาสน์ หรือปราสาทใหญ่โต และที่ขาดไม่ได้คือโบสถ์ ประจำเมือง

 

ส่วนเมืองนี้มีป้อมปราการมาช่วยเสริมความเด่น พร้อมกับเมฆและละอองฝนที่กำลังเคลื่อนคล้อยเข้ามาปกคลุมทะเลสาบ ทำให้ดูสวยดุจเมืองในฝันยิ่งขึ้น

 

นี่ไม่ใช่คฤหาสน์ หรือปราสาททั่วๆ ไป แต่เป็น ปราสาทมะนาว (La Limonaia del Castèl) หรือสวนมะนาวเก่าแก่ที่มีอยู่มากมายริมทะเลสาบการ์ดา เป็นสวนมะนาวที่เริ่มทำมาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว เสาที่เห็นนั้นออกแบบมาให้เป็นคานสำหรับค้ำหลังคาคลุมมะนาวในหน้าหนาว เพราะแถบนี้มีหิมะตกในฤดูหนาว จัดได้ว่าเป็นสวนมะนาวที่อยู่ในพื้นที่ทางเหนือสุดของโลก

เสียดายจัง! ถ้าปั่นจักรยานก็คงจะได้แวะชม

 

มองจากบนเรือ ทำให้ผู้คนดูเล็ก ยังกับตุ๊กตา

 

เมืองนี้มีครบสูตร เพียซ์ซ่าหรือจัสตุรัสกลางเมือง โบสถ์ คฤหาสน์หลังโต และมีปราสาทมะนาวอยู่มากมาย จึงได้ชี่อเมืองว่า limone sul garda เมืองมะนาวแห่งทะเลสาบการ์ดา

 

ร้านขายน้ำมะนาวคั้นสดๆ ที่เมือง Sirmione เมืองใต้สุดของทะเลสาบการ์ดา สังสัยจะมีคนมาจับมะนาวกันบ่อยๆ เจ้าของเลยต้องแขวนป้ายห้ามจับเอาไว้

 

หลังจากที่ต้องนั่งอยู่บนเรือกับผู้คนมากมายมาถึงสามชั่วโมงครึ่ง ใจของเราก็โลดเล่นอยากเป็นอิสระ หลุดออกจากเรือได้ก็เริ่มปั่นกัน เลยไม่ได้แวะชมเมือง Sirmione เมืองที่เรืองชื่อที่สุดของแถบนี้ อ้อยหวานเพียงแค่แวะเก็บรูปปราสาทของเมือง แล้วเร่งรีบปั่นจักรยานมุ่งหน้าสู่เมืองเวโรน่า เมืองจุดหมายปลายทางของวันนี้ ไปถึงที่พักทันเวลาพายุหนัก ทีซัดกระหน่ำมาอย่างไม่เกรงใจใคร สภาพอากาศที่มีฝนและพายุเกือบทุกวันนี้ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในประเทศเยอรมันและฝรั่งเศส ที่อยู่รอบๆ เทือกเขาแอลป์ ประสบกับปัญหาน้ำท่วม และบางแห่งมีน้ำป่าไหลท่วมฉบับพลันเกิดความเสียหายมากมาย ส่วนทางฝั่งอิตาลีนั้น รอดมาได้ คงจะเป็นเพราะอยู่ไม่ไกลจากทะเล

โปรดติดตาม ชีวิตขึ้นๆ ลงๆ บนเทือกเขาแอลป์ ในตอนต่อไป

อ่าน ชีวิตขึ้นๆ ลงๆ บนเทือกเขาแอลป์ ตอนที่แล้วได้ที่นี่

ชีวิตขึ้นๆ ลงๆ บนเทือกเขาแอลป์

มุ่งหน้าสู่ภูเขา

วันฟ้าฉ่ำฝนน

ขุมเขา สวนแอปเปิล และไร่องุ่น

ขอให้เพื่อนๆ มีแต่ความสุข

ขอบคุณค่ะ

อ้อยหวาน

ความเห็น

ถ้าเส้นทางไหน อันตราย พี่อ้อย พับจักรยาน ถูกต้องแล้วครับ......น้ำมะนาว สักแก้ว ท่าจะ ดีมากๆ ...อิตาลี่ สวย ถูกใจ จริงๆ

จงเตือนตน ด้วยตนเอง

ตึก - อาคาร - บ้านเรือน - ดอกกุกลาบ สวยมากค่ะ พี่อ้อย ....เป็นกำไรชีวิต จริงๆเลย ... หน้าโรงแรม มีน้ำ น่านั่งเป็นกลุ่ม สรวล เส เฮฮา เป็นที่สุด ..... 

สวยจริงสวยจัง อยากไปจริง ๆ !

ไร่สุโขทัยนี้ดี ไร่นี้มีแต่ความสุข

สวยงาม ตามแบบฉบับ อ้อยหวาน ดูรูปสวยทุกรูปอิ่มตา เกินบรรยายจริงๆค่ะ

ความสุข..อยู่ที่ใจ

ตามมาเที่ยวอีกคนครับพี่อ้อยหวาน

สวยจังเลย ค่ะ พี่อ้อย ....อยากเที่ยวปราสาท มะนาว ...อ้อ ..หน้าหนาว ต้องมีคลุม ต้นมะนาว ด้วย ...(คิดถึง แล้วค่ะ )

น่าเที่ยวจังเลย ดอกกุหลาบ สวยจัง คุณอ้อยเก่ง นะ ทักษะดี ปั่นจักรยาน ท่องเที่ยวได้ ----  สบายใจเลยละ ----  รอชม ค่ะ