การเดินทางของพันธุ์ไม้(น้ำใจจากผู้ให้ ปิติใจเมื่อได้รับ)

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 หลายคนคงจำได้ว่าผมตามหาต้นไม้หลายๆต้นในเวบนี้ ต้นหนึ่งในจำนวนนั้นคือ "ต้นคางคก" และแล้ววันนี้ผมก็มีโอกาสได้ครอบครองต้นไม้ต้นนี้แล้ว

เชื่อหรือไม่ว่าต้นไม้ต้นนี้เดินทางมาไกลไม่ต่ำกว่า 1,250 กม. กว่าจะถึงปากช่อง

ผู้อารีย์ที่ให้เป็นอดีตอาจารย์สอนที่โรงเรียนคณะราษฎร์บำรุง จ.ยะลา ปัจจุบันท่านไม่ได้สอนหนังสือแล้ว

และยังคงอาศัยอยู่ในยะลา ท่านผู้นี้ไม่ได้เป็นสมาชิกบ้านสวนพอเพียงแต่อย่างใด แต่ท่านเคยเข้าในเวบบ้านสวนฯ และรู้ว่าผมอยากได้ต้นคางคก จึงได้แจ้งผมมาทาง e-mail ว่าท่านมีต้นคางคก ถ้าอยากได้ให้ไปรับได้ที่บ้านท่าน ด้วยความบังเอิญ ที่ทำงานผมมีน้องคนหนึ่งบ้านเดิมอยู่ยะลา และน้องชายของน้องคนนี้ยังอาศัยและทำมาหากินอยู่ที่ยะลา และด้วยความบังเอิญยกกำลังสอง บ้านของอาจารย์เจ้าของต้นคางคก อยู่ซอยติดกับบ้านน้องคนที่ว่า จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะให้น้องคนนั้นไปรับต้นไม้จากอาจารย์ได้ แต่ก็นั่นแหล่ะ ไม่มีอะไรจะสมบูรณ์แบบไปทั้งหมด เหมือนชีวิตคนเราทุกคนที่มักมีปัญหาและอุปสรรคอยู่บ้างไม่มากก็น้อย การติดต่อระหว่างอาจารย์กับน้องที่จะไปรับต้นไม้ให้ไม่ค่อยราบรื่นนัก กว่าจะลงตัวและไปรับต้นไม้ได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร ได้แล้วก็ต้องรอว่าน้อง(คนที่ทำงานที่เดียวกับผม)จะกลับบ้านเมื่อไหร่ แต่ในที่สุดผมก็ได้รับต้นไม้สมใจ จากการที่ต้องอาศัยไหว้วานคนอื่นและต้องใช้เวลานาน การที่ผมจะสอบถามความคืบหน้าแต่ละครั้งรู้สึกเกรงใจบุคคลเหล่านั้นมาก เมื่อได้ต้นคางคกมาแล้วผมคงต้องปลูกเลี้ยงให้เขาเจริญเติบโตและดูแลรักษาให้ดี ให้สมกับน้ำใจอันมากมายของผู้ให้และคนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ต้องขอขอบคุณทุกคนไว้ ณ ที่นี้ด้วย

 

นอกจากต้นคางคกแล้ว อาจารย์ยังให้ต้นไม้อื่นๆมาด้วย อย่างต้นนี้ อาจารย์บอกว่าเป็น พร้าวนกคุ่ม ความที่มีพร้าวนกคุ่ม ปลูกอยู่แล้ว จึงดูต้นไม้ต้นนี้อย่างมีคำถามในใจว่า ใช่พร้าวนกคุ่ม อย่างที่อาจารย์บอกหรือไม่ เพราะมีความแตกต่างจากพร้าวนกคุ่มที่มีอยู่พอสมควร คงต้องรอจนกว่าเขาจะออกดอกให้ดู  จึงจะสรุปได้ ว่าใช่หรือไม่

สามถุงนี้มีต้นไม้ที่มาพร้อมกับต้นคางคกเช่นกัน แต่มาในสภาพที่เหลือแต่แง่ง ใบหลุดไปหมดแล้ว ต้นที่ว่านี้คือ ต้นปุดสิงห์ ที่ผู้ใหญ่โสทร บอกว่าเป็นต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง ที่ใบมีกลิ่นคล้ายกลิ่นแมลงดา แง่งที่ไม่มีใบนี้ยังเขียวและสดอยู่ ผมจึงเอาลงปลูกในถุงเพาะชำก่อน คิดว่าต้องรอดแน่นอน และจะแตกใบอ่อนในไม่ช้า แล้วจะถ่ายรูปมาให้ชมกันอีกครั้ง

ความเห็น

ดีใจด้วยนะคะ คุณสุรพล แต่ขวัญอยากถามนิดหนึ่งคุณสุรพล ทำงานเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยเกษตรหรือเปล่าคะ ถ้าใช่ เราอาจเคยเจอกันแล้ว แต่แบบว่าไม่รู้ก็ได้นะคะใครจะไปรู้  ตอนที่ขวัญทำงานที่กรุงเทพขวัญมีภาระกิจที่ต้องไปมหาวิทยาลัยเกษตร บ่อย มาก ๆ ค่ะ

 ที่ทำงานผมอยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขนครับ อยู่ที่ตึกข้าวโพด ใครที่อยู่แถวนั้นอาจเจอผมควบมอเตอร์ไซ ร่อนไปร่อนมาในเกษตร และสถานที่ที่จะพบตัวผมได้ง่ายที่สุดคือ ที่ตลาดนัด เดินมันทุกเช้า เพราะในเกษตรและพื้นที่ใกล้เคียงจะมีตลาดนัดทุกวัน เวียนกันจัดไปตามสถานที่ต่างๆ ที่ไปเดินส่วนใหญ่ก็ไปดูต้นไม้นั่นแหล่ะ เจอเป็นไม่ได้ แพ้กันยังไงไม่รู้

เวลาที่ไปมหาลัยเกษตร ถ้าตรงกับวันที่มีตลาดนัด ก็ต้องไปทุกทีค่ะ ตลาดนัดตรงที่ไกล้กับธนาคารออมสินถ้าจำไม่ผิด ขวัญไปติดต่องานที่ สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ค่ะ (ส่วนประยุกต์และถ่ายทอดงานวิจัย)

เห็นลักษณะต้นเล็ก ๆ คล้ายพร้าวนกคุ่มนาแถวบ้านค่ะ

บางอย่าง  ยากมากกว่าจะได้มา   เรื่องของคน   ก็ใช่ว่าจะเจอกันได้ง่ายๆ   อย่างบ้านป้าเล็ก  ปกติ  ล็อกรั้ว ล็อกบ้านทันทีที่เข้า-ออกบ้าน  ติดนิสัยจากการอยู่กรุงเทพ     หมาที่บ้านก็เลยนิสัยแปลกๆ   หวงบ้านมากๆ  กัดคนมาแล้ว  เข้าเขตบ้านปั๊บ  เขาแสดงอาการทันที 

ถามหน่อย  ต้นนี้  ที่ให้เมล็ดใหญ่ๆมา  งอกแล้ว  แต่ว่า  ชื่ออะไรคะ

 

 ผมก็คนขี้ลืมซ๊ะด้วย เมล็ดใหญ่สีครีมๆเท่าลูกมะนาวหรือเปล่าป้าเล็ก แต่ดูใบแล้วคงเป็นต้นอะโวคาโดแหล่ะ

ต้นนี้น่าสนใจค่ะ  เคยเห็นผู้ใหญ่พูดถึงเหมือนกัน

คางคก มาบ้านลุงโรสแล้ว คงจะได้ขยายอาณาจักรมาที่เขาช่องบ้าง

 

เรื่องราวอย่างกับ พรหมลิขิต ไว้ซื่ง

ต้นคางคกกับลุงโรส เลยนะคะเนี่ย

ถ้าไม่มีบุพเพสันนิวาสต่อกัน คงจะ

ไม่ได้ อยู่ด้วยกัน...

ทำแค่...พอดี  


ใช้อย่าง...พอเพียง  


เก็บออม...พอสมควร


3 พอ...เพื่อความสุขในชีวิต


msn  kra_pook@hotmail.com

ของบางอย่างกว่าจะได้มา..จะว่ายากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่ายนะ..ดีใจที่ได้มาและได้ปลูกดูแลเขาต่อไป...จะรอดูอีค่ะ

ยินดีด้วยค่ะ ที่ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ถึงมือพี่สุรพล คงจะงอกงามสมบรณ์ แน่ ๆค่ะ

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

หน้า