ระบบสืบพันธุ์ของมะเขือเทศและการผสมเกสร

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ก่อนอื่นต้องขอชี้แจงก่อนว่า เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่อาจารย์ ไม่ใช่นักวิชาการด้านมะเขือเทศอะไรทั้งสิ้น ก็แค่คนที่ชอบทานมะเขือเทศเท่านั้น สิ่งที่เรานำมาบอกกล่าวก็แค่จากประสปการณ์ที่เคยทดลองมาแล้วเท่านั้น



 


หากขัดกับหลักวิชาการท่านใดต้องขออภัย เพราะเป็นประสปการณ์ที่ตัวเองได้ศึกษาและทดลองมา



นี่คือต้นมะเขือเทศของที่บ้าน ที่ปลูกในกระถางนะค่ะ กำลังออกดอก เป็นพันธุ์ "Big Boy" คือมะเขือเทศสีแดงลูกเล็กๆ เป็นที่ทราบกันดีว่า มะเขือเทศเนี่ย " Self pollinated" ไม่มีดอกตัวผู้ หรือดอกตัวเมีย แต่จะมีต้นตัวผู้ และต้นตัวเมีย



มะเขือเทศ อาศัยการสั่นสะเทือนในการผสมเกสร ไม่จำเป็นต้องอาศัยผึ้งหรือแมลงใดๆมาช่วย (มันไม่ง้อแมลง) หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า "Vibrate" ที่ภาพด้านบนลองสังเกตุดีๆสักนิด ที่ปลายดอกเราจะเห็นว่ามีตุ่มเล็กๆยื่นออกมา นั่นคือ จุดแต้มของท่อนำไข่ตัวเมีย นั่นคือจุดเริ่มต้นของการผสมพันธุ์



ดอกมะเขือเทศจะบานเต็มที่ในช่วง 10โมงเช้า  ถึง เที่ยงครึ่ง พอบ่ายโมงไปแล้วกลีบดอกจะค่อยๆหุบลง และปิดสนิทในช่วงตอนกลางคืน เพราะฉนั้น ช่วงเวลาที่ดอกบานเต็มที่คือช่วงที่เหมาะที่สุดที่จะผสมเกสร อาจจะมีแมลงผึ้งมาเกาะแล้วทำให้ก้านดอกเกิดการสั่นสะเทือน เกสรตัวผู้ก็จะปล่อยเกสรออกมา ซึ่งมีลักษณะเป็นฝุ่นผง ปลิวอยู่รอบๆดอก และจะปลิวไปติดกับท่อนำไข่ที่ยื่นออกมาทันที



ภาพด้านบนลองสังเกตุดูดีๆก็จะเห็นว่า กลีบดอกบานอ้าเต็มที่จนม้วนไปข้างหลัง พร้อมที่จะรับเกสรจากตัวผู้ และจะเห็นว่ามีอีกชั้นนึงที่หุ้มท่อนำไข่อยู่ นั่นคือเกสรตัวผู้นะค่ะ เกสรตัวผู้จะเป็นฝุ่นผงๆมีขนาดเล็กมาก บางครั้งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และจะกระจายไปทั่วๆเมื่อมีการสั่นสะเทือน ท่อนำไข่จะมีลักษณะเป็นกาวเหนียวๆที่ผิว และมีขนาดเล็กเท่าเส้นผมต่อเชื่อมกับรังไข่



การปฏิสนธิจะเกิดขึ้นในตอนกลางคืน เมื่อกลีบดอกหุบห่อหุ้มและปิดสนิทลง (เหมือนคู่บ่าวสาวแต่งงานกันใหม่ๆกางมุ้งนอนกันสองคน) เมื่อขบวนการผสมเกสรเสร็จสิ้นลงแล้ว กลีบดอกและเกสรตัวผู้ก็หมดหน้าที่ลง แล้วก็จะโรยลาไปในที่สุด แต่ก็ยังเหลือท่อนำไข่ในระยะ 2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้น ท่อนำไข่ก็จะหล่นร่วงหายไป เหลือแค่กลีบเลี้ยง



หลังจากนั้น ทายาทตัวน้อยๆก็ถือจุดกำเนิด เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนแก่สมบูรณ์เต็มที่ และเป็นอาหารของสัตว์และมนุษย์ต่อไป หากไม่ติดเชื้อโรคซะก่อน


ส่วนตัวแล้วชอบมะเขือเทศมาก ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แม่จะปลูกไว้เป็นผักสวนครัวตลอดทั้งปีไม่เคยขาด แต่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยไส่ใจว่ามันจะมีลูกหรือไม่มี เพราะไม่เคยศึกษา เคยเข้าไปค้นคว้าในเว็บไซต์ต่างๆมากมาย ทั้งเว็บไทย เว็บฝรั่ง แต่คำตอบที่ได้ก็เป็นข้อมูลเชิงลึกทั้งนั้น ฟังแล้วปวดหัว มีการทำหมันมะเขือเทศ มีการเก็บเกสรตัวผู้ แล้วจ้างคนงาน 7-8 คนต่อไร่มาผสมพันธุ์ โอ้ย...ข้อมูลเชิงลึกแบบนี้ oddzy ไม่เอาด้วยหรอก ปวดหัวตาย...


เอาเป็นว่า ให้เราเข้าใจคร่าวๆไว้ว่า มะเขือเทศเนี่ยมันผสมพันธุ์ของมันเอง ไม่มีดอกตัวผู้ ไม่มีดอกตัวเมีย แต่มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียในดอกเดียวกันก็พอ


หากใครที่ปลูกมะเขือเทศแล้วมีดอก แต่ไม่มีลูก ให้คุณเดินไปสำรวจก่อนว่า คุณปลูกมะเขือเทศไว้ที่ใหน มีอะไรมาบังลมหรือไม่ เพราะลมเป็นสิ่งสำคัญต่อการผสมพันธุ์ของมะเขือเทศมากๆ เพราะบางครั้งบริเวณที่เราปลูกมีผึ้งหรือแมลงไม่เพียงพอ แต่ถ้าหากว่ามีลมพัดโชยเบาๆ ก็สามารถช่วยการสืบพันธุ์ของมะเขือเทศได้


ลองหันมามองต้นมะเขือเทศอีกสักนิด แค่หางตาก็ยังดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีเวลาเลยก็ตาม มือถือโทรศัพย์คุยธุระกิจพันล้าน อีกมือถือถ้วยกาแฟ และขาคุณล่ะ มีขาตั้งสองข้างก็เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยการเตะไปสักป๊าบที่ต้นมะเขือเทศ (เตะเบาๆก็พอ) เอาขาไปเขี่ยๆหน่อยก็ยังดี ทำให้ต้นสั่นสะเทือน แค่นี้ก็สำเร็จแล้ว ไม่ต้องไปจ้างคนมาทำหมันหรอก ยุ่งยาก ปวดหัว แต่การสั่นลำต้นต้องทำในตอนที่กลีบดอกอ้าเต็มที่นะค่ะ และดอกต้องไม่เปียก และต้องไม่ใช่วันฝนตก เพราะถ้าฝนตก เกสรตัวผู้มันก็เปียก สั่นให้ตายมันก็ไม่ติด


ที่ต่างประเทศ เขาปลูกมะเขือเทศทีเป็นพันๆไร่ๆ ไม่เห็นเขาจ้างคนงานมากมาย เต็มที่ก็จ้างมาเก็บตอนผลสุกเท่านั้นเอง เพราะถ้าเก็บช้า มะเขือเทศที่สุกก็จะเน่าไม่ทันขาย ช่วงการดูแลเห็นมีแต่เจ้าของไร่คนเดียว บางคนปลูกในเรือนกระจก ไม่มีลมไม่มีแมลง เขาก็เปิดพัดลมให้ ต่อมาก็เห็นมีลูกเต็มต้น เคยสงสัยว่าเขาจะเปิดพัดลมให้มะเขือเทศทำไม ที่ใหนได้ก็ทำการผสมเกสรนี่เอง.. 


หวังว่าบล๊อกนี้คงทำให้ใครหลายคน หายสงสัยนะค่ะว่าทำไม มะเขือเทศที่ปลูกถึงไม่มีลูก และเข้าไปดูบล๊อกเก่าที่เคยแนะนำไว้ ถึงเรื่องมะเขือเทศขาดแคลเซียม จะแก้ไขอย่างไร เข้าไปดูได้ที่ลิ้งค์นี้นะค่ะ


http://www.bansuanporpeang.com/blog/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และขอบคุณบ้านสวนพอเพียงแห่งนี้สำหรับพื้นที่น้อยๆ "มีความสุขแบบที่เรามีก็พอ"


"อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"


ความเห็น

ฮ่าๆ ขำ...บอกว่าจะไปเตะมะเขือเทศสักป๊าบสองป๊าบ (เตะเบาๆเด้อ เดี่ยวช้ำ)

เป็นประโยชน์มากเลยครับ พี่อ๊อด มะเขือเทศที่ปลูกไว้ ไม่ติดลูก ผมก็นึกว่าเป็นตัวผู้ ถอนทิ้งหมดแล้ว อิอิ

สิ่งไหนที่ยังไม่ทำ อย่าเพิ่งสรุปว่าไม่สำเร็จ

ลองใหม่จ้าน้องเด่น คราวนี้อาจจะได้ดกเต็มต้นก็ได้นะ

เชี่ยวชาญเรื่องมะเขือเทศจริง ๆ ยอมรับเลย

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

ไม่ใช่เชี่ยวชาญหรอกค่ะ แค่ทำมั่วๆ แต่บังเอินฟรุคมั้ง..ก็อาศัยเก็บข้อมูลจากหลายๆด้านมารวมกัน เหมือนสูตรอาหาร เอาสูตรอาหารไทยมาผสมกับอาหารฝรั่งเป็นเมนูเกาหลี แต่ให้คนญี่ปุ่นทาน

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ

  เรียกง่ายๆว่า ขวัญก็ได้นะครับ my nickname

น่ารักมากค่ะ  แลขอขอบคุณในข้อมูลดีๆ นี้ด้วยค่ะ มีประโยชน์มากด้วย ที่บ้านมีต้นมะเขือจิ๋ว ซื้อมาทานไม่ทัน มันเน่าแล้วแลยเอดเม็ดทิ้งลงในกรถาง ปรากฎว่ามันขึ้นเป็นต้นและมีลูกติดด้วยนะ แต่ลูกติดไม่มาก  ส่งสัยต้องลองของซักหน่อย ไปช่วยมันโดยการเขย่ามัน จะดีไหมเนี่ย


ถ้าเห็นดอกมันบานเต็มที่ก็สั่นเลยค่ะ เขย่าเลย บางครั้งเราต้องเขย่าต้นบ่อยๆทุกวัน ประมาณ 1 อาทิตย์เลยค่ะ บางคนเขาไม่มั่นใจว่าติดหรือไม่ตัด เขาก็เลยทำทุกวัน จนกว่าครบ 1 สัปดาห์ว่างั้น ถ้าไม่ขี้เกียจก็เชิญเขย่าได้เลยค่ะ

ได้ความรู้ขึ้นอีกเยอะค่ะ

ตอนนี้มีอยู่ ๔ ต้นเล็กๆ ยังไม่ได้เอาออกนอกบ้าน เพราะยังหนาวอยู่ รอโตอีกหน่อยก่อน ต้องสั่นบ้าง:uhuhuh:ขอบคุณพี่อ๊อดที่มีข้อมูลดีๆ มาให้อ่าน:love:

ชีวิตไม่ได้เกิดมา เพื่อยอมแพ้

หน้า