ครื้นเครง ... กับวิชาเขียนแบบ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

    ยังจำอาคาร ... หลังที่ข้าพเจ้า เคยพาดพิงถึงใน “สู้ ! ... เพราะสี” ... ได้ไหมครับ ที่ข้าพเจ้า เกริ่นไว้ว่า ...

    “ข้าพเจ้า จึงเดินไปใต้ถุนอาคารหอพักหญิง หลังเก่า ที่อยู่ติดกะเวทีมวยชั่วคราว อาคารหลังนี้ถูกเลิกใช้ หลังสร้างอาคารหลังใหม่ ที่โอ่อ่ากว่า ..  ชั้นบนของอาคารหลังนี้ ... จึงถูกใช้ประโยชน์ เป็นห้องเรียนเขียนแบบ (การวิชาเขียนแบบ มีเรื่องสนุก ๆ ที่ฝังใจเยอะ นึกทีไรอดยิ้ม แบบคนบ้าไม่ได้) ..”

    ก่อน จะก้าวเล่าลึกเข้าไปในเนื้อหา ... ขออนุญาต นำท่านไปให้เห็น สภาพของอาคาร ที่จะแสดงเป็นพระเอกในเรื่องนี้ นะครับ

    อาคารหลังนี้ ... เป็นอาคารไม้สองชั้น เก่า ๆ ชั้นล่าง สูงประมาณ 2.5 เมตร ... ด้านนอกอาคาร ... มีหลังคากันสาด โดยรอบ ... เอาตรงนี้มาเล่า ทำไม ... แล้วท่านจะทราบภายหลังครับ

    ชั้นล่าง ส่วนหนึ่งกันเป็นห้อง พักรวม สำหรับ นักศึกษาหญิง ... ด้านหนึ่ง ... เว้นเป็นที่ว่างไว้เป็นทางเดินไปสู่บันใด ขึ้นชั้นบน ซึ่งก็มีทางเดียวครับ .... หากเราเดินเข้าไปทางด้านหน้าอาคาร ... บันไดที่ว่าอยู่ทางซ้ายมือ ...

    บันได มีชั้นพัก หักมุม ... ใต้บันใด ... นักการ ฯ ... เก็บสารพัดอย่างที่อำนวยแก่งาน ของเขาไว้ ตั้งแต่เบา ๆ อย่าง ไม้กวาด ... จนถึง อุปกรณ์หนัก รวมถึงวัสดุที่คาดว่าจะใช้ในโอกาสหน้า เช่น ลวดหนามเก่า ม้วนใหญ่ ๆ ...

        อ้อ ... อีกเรื่องหนึ่ง ที่ขออนุญาตแนะนำท่าน ให้รูจัก ...

    ท่านอาจารย์ผู้ ประสิทธิ ประศาสน์ วิชาเขียนแบบ ให้พวกเรา ชื่อท่านรึครับ ... ไม่ขอบังอาจพาดพิง ... แต่กล้าบังอาจ ยืนยันแทนเพื่อน ๆ ได้ว่า พวกเรา รักท่านมาก !

    ท่านจบจาก ปีนัง ... เก่งภาษารึเปล่า ไม่ทราบ ... แต่ตอนท่านสอนวิชาเครื่องยนต์ดีเซล ... ท่านใช้วิธีกางตำราภาษาอังกฤษ แล้วบอกเป็นภาษาไทย ให้พวกเราจด ... พาหนะ ของท่าน ช่าง “สมน้ำ – สมเนื้อ” กันซะจริง ๆ

คือ ท่านเป็นคนร่างใหญ่ ... และรถจักรยานยนต์คันใหญ่ ที่เป็นพาหนะคู่ใจของท่าน คือ AJS ... จอดปุ๊บ ... ท่านก็คลี่ผ้าใบหนา คลุมปั๊บ ... เสียงของท่าน ใหญ่ ทุ้ม แต่ อักษร ส. ท่านจะออกเสียง เป็น ฉ. ... ซึ่งไม่ใช่ปัญหา ... เราก็ฟังเข้าใจนะครับ ... เป็นอันว่า รู้จักท่านพอควรแล้วนะครํบ

          Period ... เขียนแบบมาถึงแล้ว ! .....

    พวกเรา บรรดาลูกศิษย์ ที่มาในวันนั้น ... อยู่ในห้องเรียน กันครบครัน ... เฮฮา .. กันถ้วนหน้า สายตาแต่ละคู่ ... ถูกส่งไปยังประตูทางเข้า ด้านหน้าชั้นเรียน .. บ่อย ๆ พร้อมกันบ้าง ... สลับกันบ้าง เพราะไม่ได้นัดหมายกัน ...

    แต่ ... สิ่งหนึ่งที่เป็นอันเดียวกัน คือ ... การรอคอยที่เต็มไปด้วย ความสนุก ตื่นเต้น และ “ลุ้น” ว่าเมื่อไร ... อาจารย์ท่าน จะ “ฝ่าค่ายกล” โผล่ประตูเข้ามาให้พวกเราเห็นหน้า นะ

       5 นาที แล้ว .... 10 นาที แล้ว .... 15 นาที แล้ว .... กว่า 20 นาที แล้ว ...

            และแล้ว ! สิ่งที่พวกเรารอคอยก็มาถึง ...

    อาจารย์ เคลื่อนร่าง อ้วน ล่ำ พร้อมเสื้อโชกด้วยเหงื่อ เข้ามา ... พวกเราหันหน้า ไปพยักพเยิด หัวเราะกันแบบไม่ให้มีเสียง อย่างสนุกสนาน .... ท่านไม่ได้สนใจพวกเรา ... เดินไปที่โต๊ะของท่าน ... ล้วงบัญชีเรียกชื่อออกมา ... ระหว่าง นั้น เริ่มตั้งแต่ท่านเข้าประตูมา ... ท่านไม่มองดูพวกเราก็เหอะ .. แต่ท่านก็ปรารภดังลั่นห้องตลอดเวลา ... ที่ท่านเดินเข้ามา

    “เฮอ .. ช้าจนได้เรา ... แต่ไม่ใช่ความผิดของครู นะ ... กว่าจะฝ่า “อุปฉัก” (ท่านหมายถึงอุปสรรค) มาได้ เกือบหมดแรงฉอน(สอน) เลย ... ฉอนกันเท่าเวลาที่เหลือนะ”

    แล้ว ... ท่านก็ก้มหน้า ก้มตาเรียกชื่อ ... พวกเราก็ขานกันไป ... บ้างก็ขานแทนกัน ... บางครั้งท่านจำเสียงได้ ... ว่าเพิ่งขานไปหบก ๆ ... ท่านก็เงยหน้าถาม

        “เธอขานแล้ว ... ทำไมขานให้คนอื่นอีก”

    “อ้อ ... (ออกชื่อคนที่ได้รับการขานแทน) ... ปากไม่ว่างครับ” ... คนขานแก้ตัว ...

        “อมอะไรอยู่” ... ท่านอาจารย์มีคำถามใหม่มาให้

    “ผมอมน้ำลาย อยู่ครับ ... กลืนไม่ทัน ... (ออกชื่อคนที่ขานชื่อให้) เลยขานแทน ครับ” ... คนที่ได้รับการขานแทน อธิบาย

       “เออ ... ทีหลังขานเองมั่งนะ ... กลืนน้ำลายก่อนค่อยขานก็ไม่เป็นไร” ... อาจารย์ท่านว่า

    พอ เสียงเรียกชื่อคนสุดท้าย ขาดลง .... พวกเรากลุ่มหนึ่ง จะกรูกันออกไป ... ล้อมหน้า ล้อมหลังท่านไว้ ... แล้วหาสารพัดเรื่อง มาชวนท่านคุย ...

    ระหว่างนั้น พวกเราส่วนหนึ่ง ก็ ... โดดครับ ... อ๊ะ ๆ ๆ ไม่ใช่โดดร่มนะครับ ... โดดตัวเปล่า ๆ ทางกันสาดที่เล่าไว้ตอนต้น นั่นแหล โดดโดยไม่ต้องมีร่ม ท่านว่าใจกล้าไหมล่ะ ... ส่วนอุปกรณ์การเรียน รึครับ ...มีผู้สนับสนุนเบื้องหน้า เบื้องหลังจัดการให้เอง ... ฮุ ๆ ๆ

    อาจารย์ ท่านก็คุยด้วยเกือบทุกเรื่อง ... จน ...“พอมั้ง” ... ท่านตัดบท ... “คงกันหนีกันเสร็จแล้วแหละ ...”

    “เสร็จแล้วครับ” เสียงตอบจาก ผู้ที่นั่งประจำโต๊ะ ... ก็ท่านรู้แล้ว จะหลอกท่านไปทำไมอีก

       แล้ว ... มี อยู่วันหนึ่ง ... พอท่านถาม “หนีกันเสร็จยัง...” และเราตอบว่า ... “เสร็จแล้วครับ”

          พลันมีเสียงหนึ่ง สอดเข้ามา ทางหน้าต่าง ด้านหลังห้องเรียน

            “ยังโว้ย ! … กูยังไม่ได้โดด

    สายตาทุกคู่หันไปทางเสียงที่ได้ยิน ... เจ้าของเสียง ยืนยิ้มเจื่อน ๆ อยู่บนกันสาด

        “ก็รีบ ๆ โดด เข้าซี ... ครูจะได้สอน เสียที” อาจารย์เปิดโอกาสให้

    เพื่อนคนนั้น ทำท่า จะก้าวลอดช่องหน้าต่างกลับมา ...

         “อ้าว ... กลับเข้ามาทำไม ?... เปลี่ยนใจเรียน แล้วเหรอะ” อาจารย์ ถาม

    “ครับ .. แต่ไม่ใช่เปลี่ยนใจเรียน ... เปลี่ยนใจไปลงทางบันได” เพื่อนบอกอาจารย์

         “โดดลงทางนั้นแหละ ... ก็อยากโดดไม่ใช่เรอะ ...” อาจารย์บอก แล้วว่าต่อ ...

    “อุปฉัก ลวดหนาม ม้วนใหญ่ ที่พวกมือบอน ... ขวางไว้ที่บันได ... ครูเป็นคนรื้อออกเอง สิทธิใช้บันได เป็นของครู ... ไม่อนุญาต ห้ามใช้”

        ทีนี้ ... ท่านทราบรึยัง ว่า “อุปฉัก” ของอาจารย์ คืออะไร

    เพื่อน ... คนนั้น เลย ... ต้องหันไป โดด ทางกันสาด อย่างเคย

    เรื่อง “โดด” นี่ ข้าพเจ้า ... ไม่มีเอี่ยว ... เพราะขณะนั้น ข้าพเจ้า เป็น “หน้ามือ” แล้ว ไม่ใช่ “หลังเท้า” อย่างเก่า

    ที่จริง ... เรื่องสนุก ๆ ในการเรียนวิชาเขียนแบบ ยังมีอีกเยอะ ... แต่ย้อนกลับขึ้นไปดูที่เขียน ... โอ .. ยาวจัง !

                เลยขอยุติเอาดื้อ ๆ อย่างนี้แหละ

ความเห็น

ต้องนึกภาพไปด้วย สนุกดีค่ะ อ่านทุกตัวอักษรเลยค่ะ

ความพอเพียงจะทำให้ชีวิตมีความสุขแบบยั่งยืน

   สรั่าง จินตนาการ ไม่สนุกเท่า อยู่ในเหตุการณ์จริง ... ครับ

 อาจารย์ท่านน่ารักมาก ... ลูกศิษย์ หยอกล้อไง ท่านก็ไม่เคยถือโกรธ ...

เวลา ท่านมีอะไรจะต้องทำ ... แค่รู้ ไม่ต้องออกปาก ... ศิษย์ ๆ ก็รุมช่วย ไม่กลัวเหนื่อย เลยแหละ

อุปฉักของครูใจดี     :uhuhuh:     นักเรียนก็แสนจะน่า.......ซะ

   ลูกศิษย์ ชองท่าน ที่ เกษียร แล้วอยู่ที่สตูลก็มีนะ ... คนนี้แหละ ที่โดดกันสาดไม่ทัน ... เรียกว่า คู่กัดของอาจารย์ น่าจะใกล้เคียง นะ ... มีเรื่องเอาชนะำักันได้ทุกบ่อย

ฉง ฉัย งานนี้ ได้ ฉอบช่อม :uhuhuh:

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

   โอ้ย ! ... ต้องสัมผัสเองแล้วจะรู้ ...

     ท่านละเอียด มาก ตอนเราเขียน เราวัดด้วย Set sQuare พลาสติก ที่มีความละเิีอียด แค่ 1:16 นิ้ว ... เวลาท่านตรวจงานเรา .. ท่านวัดด้วยฟุตเหล็กของท่าน ที่วัดละเอียดได้ ถึง 1:64 นิ้ว ... แล้วท่าน ก็จะบอกเจ้าของงาน ...ว่า

   "ของ นาย (ออกชื่อ) .. ผิดตั้งเฉ้นผม .. ต้องหักฉัก ห้าแต้ม" 

     ท่านจะหาจุดบกพร่อง และหักไปเรื่อย ๆ ... จนต้องหาเรื่องมาขู่ นะแหละ ท่านจึงจะหยุด ตัดแต้ม

:uhuhuh: :uhuhuh: ทำท่านได้ :uhuhuh:

    

 

   ก็ไม่ได้ ทำด้วยความโกรธ หรือ เกลียด แต่ประการใด ..

    แต่มาย้อนมองตอนนี้ ... เล่นแรงไปหน่อย ...จริงแหละ

     และท่าน ก็ เฮียบ จริง ๆ ... ลุงเองก็โดน ... ท่านหาเรื่องตัดคะแนนเราจนได้แหละ แค่มีรอยดินสอสกปรกนิดหน่อย ท่านก็ เอามาเป็นข้อผิดพลาดได้ ... มีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านตรวจงานของลุง ... ไม่มีที่ผิดพลาด ... แต่ท่านก็ ... 

    "ของนาย (ออกชื่อลุง) ... ที่เช้าเทิร์น (Southern ซีงเป็นชือวิทยาลัย ที่เขียนไว้ใต้งาน) มีรอย ฉก กะ ปรก คล้ายถูกลบ ... ต้องห้กชัก ห้าแต้ม" ...

    เห็นรึยัง ! ... แล้วท่านจะมีมาตรฐานในการหักคะแนน ... คือ จุดละ 5 คะแนน สม่ำเสมอ ... ฮึ ๆ ๆ

เหนือฟ้ายังมีเฆม :uhuhuh:

sudjai_waitong@hotmail.com
     0805401058

   เมฆ กับ ขี้ลม ... ไอไหร สูงหวา ... ฮุ ๆ ๆ