สัตว์ไม่ได้เลี้ยง

หมวดหมู่ของบล็อก: 


ประมาณปี 2542 หลังจากสร้างบ้านในสวนเสร็จ น้องผึ้งก็เข้ายึดครองพื้นที่ตามอำเภอใจ เข้าไปอยู่ในฝาบ้านซึ่งมี 2 ชั้นด้านในบ้านตีไม้อัดไม่ทาสี บ้างก็ขึ้นไปอยู่บนฝ้าใต้หลังคา บอกคนอื่น
เขาไปเรื่อย บ้างก็ว่าดีเขาจะมาให้โชคลาภ มาวันหนึ่งนั่งกินข้าวอยู่ที่นอกชาน ผึ้งบินมาเกาะก็จะปัดแล้วผึ้งก็ตกใจก็ต่อยเข้าให้ก็ไม่เจ็บมากแต่หน้าบวม เลยคิดหาวิธีไล่โดยจุดไฟเอาควันไล่เพื่อขอคืนพื้นที่ ผล ผึ้งไม่ยอมพาพรรคพวกมาบินขบวนกันเยอะ(จะใช้คำว่าเดินขบวนก็ไม่ไ้ด้เพราะไม่ได้เดิน) ผลเราต้องยอม เวลาผ่านไปทำไงดี มานึกอยู่นานอย่ากระนั้นเลย ทำไงจะเอาน้ำผึ้งได้ ผนังฝาบ้า 2 ชั้นจะเปิดยังไงไม่ให้กระเทือนคิดกันนาน ทำทุกทีก็ออกมาบินขบวนทุกที แต่ละครั้งพี่น้องเอ้ย!ใจยังกะตีกลอง แล้วยิ่งมารู้ว่า
เวลาที่เรากลัวร่างกายเราจะหลั่งสารแห่งความกลัว แล้วผึ้งก็รู้อีกว่าเรากลัว เสร็จผึ้งแน่ ลองดูภาพแก้เบื่อที่อ่านนานๆ

 หลังจากเปิดฝาผนังบ้านด้านในกลุ่มผู้ชุนมุมก็รวมตัวกันรอคำสั่ง

 ด้านบนคือกลุ่มผู้ชุนุมในรูปแรก ตรงกลางเป็นคลังน้ำผึ้งและผึ้งเล็กๆ ส่วนดำๆเป็นกลุ่มเล็กๆด้านล่างเป็นการ์ด(ล้อเล่นครับ) ก็ผึ้งน่ะแหละ

 

  ย่อรูปให้เลือ 2 ชั้น

 

  รูปนี้บนหลังคาต้องระวังลื่นตกลงมา (เครื่องมือที่ใช้ ภาชนะที่เก็บน้ำผึ้งรวมถึงตัวผมด้วย)

  แล้วก็เป็นแบบนี้

 

  แบบนี้

 

  แบบนี้รูปนี้สีสวยส่วนรูปบนคิดว่าคงเพราะใช้เวลาสะสมไว้นานว่าเป็นกลุ่มรังเดียวกันเก็บมาด้วยกัน รูปนี้ยังมีฝารวงปิดอยู่สีเหลืองอ่อน ส่วนสีเข้มเป็นน้ำผึ้งครับ

  เปิดฝารวงออกแล้ว

 

  แหล่มไปเลย

  ที่เห็นเป็นเกล็ดอยู่คือเศษฝารวงที่เปิดออก ของเหลวคือน้ำผึ้ง

 

   ผ่านการกรองคัดคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ(ผมเองแหละ)

 

  ก่อม๊อบเล็กๆ

 

  นี่ก็อีกกลุ่มนึง

 

  สภาพคร่าวๆในสวน

 

พอจบปั๊ปเราก็      ตั๊ กๆๆๆๆๆๆๆๆ  - แก ชอบเล่นนะกับเด็กเล็กๆ เวลาเล่นเราก็ปิดตา พอเปิดตาเราก็พูดว่า ตั๊กแก แล้วเด็กก็หัวเราะ แล้วเราก็สนุกไปกับเด็กด้วยเนาะ เจ๊โสเนาะ!


 


ก่อนจบขอขอบคุณนายบ้านโสทรที่่ส่งข้อความต้อนรับเป็นสมาชิกบ้านสวนพอเพียงมาในฮอตเมลครับเพิ่งเปิดดูครับ ขอบคุณครับ



ความเห็น

:admire:

เป็นจะได๋เข้ามบ่อู้บ่จ๋า เดือดหื้อไผ เตียวเข้ามาแอ่วบ่ดายกา จะได๋กะยินดีเน้อที่มาผ่อบ่ดายกะจ้างเตอะ อยู่ผะเยา ปู้นก๋า?

เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส อร่อยๆๆ หวานๆๆ

หวัดดีครับคุณหน่อย ที่จริงกินน้ำผึ้งเป็นยาน่ะครับ ไม่กินเอาอร่อย อะไรที่เรากินเอาอร่อยกินประจำไม่นานเราก็เบื่อ แต่เนื่องจากน้ำผึ้งหายากโดยเฉพาะน้ำผึ้งธรรมชาติที่ผึ้งจะไปหากินดอกไม้นาๆพันธ์(ดอกไม้ป่าตามธรรมชาติ) ถ้าผึ้งไปหาของกินในตลาดซึ่งคุณหน่อยคงเคยเห็นผึ้งไปกินแป้งข้าวหมากหรือทองหยิบทองหยอดในตลาดแม้จะเป็นน้ำผึ้งแต่คุณค่าทางอาหารจะน้อย หากเราว่าเราอยากกินเราสามารถซื้อน้ำผึ้งที่เขาเลี้ยงทางเหนือซึ่งไม่แพงมากินเป็นประจำเดี๋ยวเราก็เบื่อทั้งๆที่เป็นน้ำผึ้งแท้ๆ ผึ้งกินอะไรก็จะมีรสชาติเหมือนหรือใกล้เคียงของที่ผึ้งกิน ดูรูปนี้นะครับ เพื่อนผมบอกว่าน้องเขยของเค้าโดนผึ้งต่อยจนสลบฉี่แตกอึแตก ตอนแรกผมไม่เชื่อ แต่พอศึกษาดูพบว่าบางคนแพ้พิษผึ้ง ผมจึงอาสาไปจัดการ พอจับผึ้งเสร็จมาชิมน้ำผึ้งพบว่ารสชาติเหมือนน้ำตาลตะโหนด พอถามเพื่อนบอกว่าใกล้ๆบ้านเขาเคี่ยวน้ำตาลเพื่อทำน้ำตาลปี็๊บแล้วผึ้งก็ไปกิน ผมจึง อ๋อ ดูรูปตอนไปจับครับ

นำไม้ที่รื้อออกไปทำลังเลี้ยงต่อได้เลย

[url=http://upic.me/show/33189177][img]http://upic.me/t/zp/0bees.gif[/img][/url]

ขอบคุณครับคุณ คนไท แต่ว่าไม้ที่ รื้อ ออกเป็นแค่ไม้อัดบางๆแล้วผมก็ปิดเข้าไปใหม่ไม่งั้นมันก็โบ๋อยู่ ผมก็อยากทำรังให้ผึ้งอยู่แต่ยังไม่มีความรู้ พอคุคคนไทมาแนะนำก็ดีใจยังไงช่วยชี้แนะด้วย อยู่แถวไหนครับเนี่ย

ดูเพื่อนที่เขียนเลี้ยงผึ้งบล็อกนี้ได้เลย

   http://www.bansuanporpeang.com/node/19506

ขอบคุณ คุณคนไทยมากครับ แป้นของไม่มีค. คน

เพิ่งรู้ว่าผึ้งรับรู้สารความกลัวที่ร่างกายมนุษย์หลั่งออกมา   :confused:

ไปแระ .........  กลัวตั๊ก ๆๆๆๆ  แก    :nonono:

ล้อเล่นน่ะเจ๊โส ผมให้ตั๊กแกหลบไปเล่นซ่อนแอบในซองแล้ว ตั๊กแกกิโลหลายตังเชียวนา คนจีนเรียกกั๊บแกใช้เป็นส่วนผสมของยายำรุงกำลังและรักษาโรคหอบหืด ดว้ย ขอบคุณเจ๊โสครับที่แวะมาเยี่ยม ผมขำกับเจ๊โสที่ทำได้เหมือนมากตอนผมเขียผมจะเขียนยังไงให้เหมือนจริง เจ๊โสทำได้เหมือนจริงมากแสดงว่าใกล้ชิดตั๊กแกจรีงๆ ตั๊กแกก่อนจะร้องก็ต้องติดอ่างก่อน(คนใต้พูดว่าแหลงอัง คนเหนือพูดว่ามันกั๊ก) คือ ตั๊กๆๆๆๆๆๆ กว่าจะแกได้ แต่คนเหนือเรียกว่าต๊กโต มันร้องยังงงี้ครับ  ต๊กๆๆๆๆๆๆ......โต แล้วแต่ท้องถิ่นเนาะ เราบอกว่าไก่ขันเสียงดัง เอ๊ก -อี-เอ๊กๆ ฝรั่งบอกว่ามันร้องยังงี้ ค๊อค อะดู เดิ้ล ดู เออแน่ะ ช่างเป็นไปได้ แล้วเจ๊โสว่าไก่ไทยคุยกับไก่ฝรั่งรู้เรื่องรึเปล่าหรือต้องใช้ล่าม

หน้า