ใครรู้จักบ้าง "พรมมิ"

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้มีเรื่องมารบกวนสมาชิกครับ

ได้อ่านพบบทความเกี่ยวกับ "พรมมิ" ด้วยความบังเอิญ อ่านแล้วรู้สึกเกิดกิเลส (อยากได้) ขึ้นมาทันทีเลยครับ ไม่ทราบว่ามีใครรู้จัก และ มีอยู่ในครอบครองบ้างครับ และ ใช้ทำอาหารอะไรได้บ้าง

พ่อผมตอนนี้เริ่ิมหลง ๆ ลืม ๆ อาการเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เลยอยากได้มาปลูกเอาไว้ทำอาหารให้พ่อกินครับ

หวังว่าคงจะไม่เป็นการรบกวนสมาชิกนะครับ 

บทความเกี่ยวกับ พรมมิ จาก http://www.pcrh.go.th/pcrh/index.php?option=com_content&view=article&id=112:2011-10-29-07-09-51&catid=58:drug-information-service&Itemid=101

มน.เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดสมุนไพรพรมมิ

Last Updated on Wednesday, 16 November 2011 08:32Written by ภก.พิรัชญาณเมธา ชมภูคำSaturday, 29 October 2011 14:04

 

รศ.ดร.กรกนก อิงคนินันท์ หัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีสมุนไพร ภาควิชาเภสัชเคมีและเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ได้ทำการศึกษาพัฒนา “พรมมิ” เพื่อใช้เป็นสมุนไพรบำรุงความจำ โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผลการศึกษา พบว่า สารสกัดที่ได้จากต้นพรมมิมีสารซาโปนิน (saponins) สามารถชะลอการเสื่อมของเซลล์สมอง มีผลกระตุ้นความจำและการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีฤทธิ์ในการป้องกันการถูกทำลายของเซลล์ประสาทด้วย

ทั้งนี้คณะผู้วิจัย ร่วมกับ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ศึกษาผลทางคลินิกของพรมมิ ในอาสาสมัครที่ร่างกายปกติ อายุ 55 – 70 ปี จำนวน 60 คน โดยศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้ยาหลอกและได้สารสกัดพรมมิ ขนาด 300 และ 600 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า สารสกัดพรมมิช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว เพิ่มการตื่นตัวต่อสิ่งเร้า มีสมาธิมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และความจำ คลายอาการซึมเศร้า ไม่พบอาการพิษและภาวะข้างเคียงใดๆในอาสาสมัคร

ปัจจุบันได้มีการจดอนุสิทธิบัตรแล้ว ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ผลิตยาเม็ดขนาด 300 มิลลิกรัม เป็นยาต้นแบบที่มีคุณสมบัติทางกายภาพที่เหมาะสมและมีความคงตัวดี ทั้งนี้มหาวิทยาลัยนเรศวรพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดสมุนไพรพรมมิ ในรูปแบบยาเม็ด ให้แก่ องค์การเภสัชกรรม โดยเตรียมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตตั้งแต่ การเตรียมสารสกัด การผลิตเป็นยาเม็ด และการควบคุมคุณภาพ โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งเน้นให้ผลิตภัณฑ์ยามีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ประชาชนผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพในราคาสมเหตุผล

รศ.ดร.กรกนก กล่าวปิดท้ายว่า การรับประทานอาหารเสริมพรมมิ ควรรับประทาน 300 มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อรับประทานเพียง 2 เดือน เห็นผลได้ชัดเจน และหากไม่รับประทานเป็นยาเม็ดก็สามารถนำสมุนไพรพรมมิ มารับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริก ประมาณวันละ 50 กรัมก็ช่วยบำรุงสมองได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามผลงานวิจัยนี้ได้นำไปใช้ประโยชน์เพื่อการต่อยอดเชิงพาณิชย์ ช่วยส่งเสริมสมุนไพรไทย ลดการนำเข้าสมุนไพรจากต่างประเทศต่อไปในอนาคต ผู้สนใจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดสมุนไพรพรมมิ ในรูปแบบยาเม็ด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การเภสัชกรรม โทรศัพท์ 02-2038000 หรือ Call Center 1648

ความเห็น

ไม่โร้จักหิดเดียว:sweating:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

รู้สึกว่าต้นแบบนี้คุ้น ๆ จัง เดี่ยวขอเวลาหาข้อมูลก่อน

เห็นภาพแล้วคุ้นๆ เหมือนกันนะ ถ้าหน้าตาแบบนี้ดูเหมือนต้นไม้น้ำที่ประดับตู้ปลาจังเลย

ขอบคุณที่เอาภาพมาฝากจ้ะ

จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ


ต้องรู้จักไว้แล้วล่ะน้องเล็ก เผื่อได้ใช้ประโยชน์ในอนาคต

จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ


จากที่หาข้อมูล น่าจะมีแถวบ้านเรา ในสวนยาง ระหว่างร่องมีน้ำแฉะ ๆ...ต้นอวบ ๆ ดอกขาว ๆ สวย...แต่ไม่รู้จักชื่อ รอการพิสูจน์อีกทีค่ะ....

:admire2:



:embarrassed: :embarrassed: :embarrassed:

ใบคล้าย คุณนายตื่นสายเลยคะ :confused:

มือใหม่

 เพิ่งเคยได้ยินชื่อครั้งแรก แต่ต้นมันคุ้นๆยังไงชอบกล

ตั้งความหวังไว้กับพี่สุรพลเต็มที่เลยนะเนี่ย 

แต่ก็ขอบคุณครับที่เข้ามา comment

จะปลูกต้นไม้ในใจเธอ


 ดูในบล๊อกของสมาชิกท่านที่ใช้ชื่อ นายบุญลือ รู้สึกว่าจะกล่าวถึงการปักชำต้นพรมมิ(ถ้าจำไม่ผิด)

หน้า