ฮอร์โมนไข่

ช่วงนี้ฝนหยุด ในสวนทำอะไรได้ไม่มาก ภาพใหม่ๆก็ไม่ค่อยมี มีแต่เวลา อยู่เฉยๆก็เปลืองลม(หายใจ)

งั้นก็ลองมาทำอะไร ที่พอจะเป็นประโยชน์ ต่อชาวบ้านสวนฯกันสักหน่อย

สิ่งที่จะนำมาทำให้ดูในวันนี้ (ตอนแรกคิดว่า ได้เขียนลงในเวปฯแล้ว แต่พอถอยกลับไปดู

ปรากฎว่า ทำแต่ฮอร์โมนไข่ ที่เป็นปุ๋ยต้นไม้ ส่วนฮอร์โมนไข่

ที่ให้คนกินได้กลับไม่ได้เขียนเอาไว้เลย ที่เขียนไว้เป็น ไข่ดอง )

ผมทำกินมานานพอสมควร แต่กินๆหยุดๆ ไม่ค่อยจะติดต่อกัน

แต่ช่วงหลังนี้ ได้ทำกินติดต่อกันมาสักเดือนสองเดือน

พอจะทำให้เกิดรู้ถึงความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการกิน

เห็นว่า ไม่น่าจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพ แต่กลับตรงข้าม

(เฉพาะตัวผม คนอื่นหากหลงกลผม ไปทำกินบ้าง โปรดใช้วิจารณญาณ)

ความรู้เรื่องฮอร์โมนไข่ เริ่มแรกสุดน่าจะอยู่ที่ อ.สุวัฒน์ ทรัพย์ประภา ต่อมา อ.พัฒน์ สันทัด

และผู้ที่ทำให้เรื่องนี้กระจายไปทั่วประเทศ จะเป็นใครไปไม่ด้คือ คุณจำรัส เซ็นนิล

แห่งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่า ท่านได้ขอลาออกจากราชการไปเมื่อปีงบประมาณที่ผ่านมา

ส่วนประกอบที่สำคัญได้แก่ ไข่ไก่ สดๆ ใหม่ๆ เชื้อแป้งข้าวหมาก

นมเปรี้ยวยี่ห้อแรกของประเทศไทย และน้ำผึ้งตามรูป

ไข่สด 1 กก. ล้างขี้ไก่ออกให้หมด ไม่ติดขี้ไก่มาก็ต้องล้าง

วางผึ่งลมให้แห้ง ถ้ารีบก็ใช้ผ้าเช็ดให้แห้งสนิท

ลูกแป้งข้าวหมาก ใช้ลูกเดียวก็เกินพอ แต่ต้องบดให้ละเอียด

นมเปรี้ยว เขาให้ใช้ยี่ห้อนี้ ก็ยี่ห้อแรกที่เอามาขายในเมืองไทยนั่นแหละครับ

น้ำผึ้ง ต้องใช้เท่ากับไข่ แต่ผมมีเพียงขวดเดียว ก็ใช้แค่นี้ก่อน

บ้านใครมีรังผึ้งก็ไปขอจากผึ้งมากินก็ได้ครับ

บ้านผมไม่มีที่ตีไข่ เลยต้องเอาอุปกรณ์ตัวนี้มาใช้แทน

หลังจากโดนตีก็เละแบบนี้ แล้วเทใส่ขวดตามรูปข้างบน เทน้ำผึ้งตามลงไป พร้อมนมเปรี้ยว

ส่วนลูกแป้งโดนตีไปพร้อมไข่แล้วครับ ปิดฝาขวดให้แน่น

แล้วเขย่าให้ไข่ผสมกับน้ำผึ้ง แล้วคลายฝาให้หลวมๆ พอให้อากาศออกมาได้

หลังจากนั้นก็เขย่าทุกวัน วันละครั้ง หมักไว้ครบเดือน (30 วัน) ก็ลองดมดู จะออกรสเปรี้ยวๆ

มีกลิ่นแอลกอฮอล์นิดๆ ก็เป็นอันใช้ได้

ถ้ามีกลิ่นเหม็นแบบไข่เน่า ก็เอาไปทำน้ำหมักใส่ต้นไม้ ห้ามเอามากินครับ

เมื่อครบ 30 วัน ดม ชม แล้วว่าพอกินไหว ก็จัดการกรองเอาแต่น้ำ

เปลือกไข่ที่เป็นชิ้นเล็กๆ คงกลืนกินเข้าไปไม่ไหวก็ กรองด้วยกระชอนถี่ๆ ที่ไม่ให้เปลือกไข่ลงไปได้

แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น

(ส่วนเปลือกไข่เอาไปทำปุ๋ย)

การเอามากิน มือใหม่ไม่เคยกิน ก็ลองทีละช้อนชา เช้า - เย็น

หากยังกลืนไม่ลง ก็เอามาผสมกับนมเปรี้ยวสักขวด ก็น่าจะกลบกลิ่นคาวไข่ได้

ส่วนใครจะดัดแปลงวิธีการกินแบบไหนก็หาทางกันเอาเองครับ

กินแล้วเป็นอย่างไร คนอื่นผมไม่รู้ แต่สำหรับผม สุขภาพ ร่างกายแข็งแรงดี ครับ

ยกตัวอย่างง่ายๆ ก่อนหน้านี้ ผมดึงสายสตาร์ต เครื่องตัดหญ้า เครื่องไม่ติด ดึงสัก 5 ครั้ง ก็บ้อลัดเลี้ยว

แต่เดี๋ยวนี้ ดึง 10 ครั้ง ก็ยังไหว แต่ดึงแต่ 3 - 4 ครั้งเครื่องก็ติดแล้ว

(หากยังไม่ติด เครื่องเขากลัวว่าผมจะไปซื้อเครื่องใหม่ ก็เลยต้องติด)

พอดึงเครื่องตัดหญ้าติดได้เอง ผมก็เลยต้องตัดหญ้าเองอีก

(แต่ว่าตัดเฉพาะทางเดิน ส่วนหญ้าในสวนป่า มีคนคอยตัดให้อยู่แล้วครับ)

ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีนะครับ