ฟักข้าว ความเหมือนที่แตกต่าง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ช่วงนี้ในสมองมีไม่กี่เรื่องหรอก....หมูหลุม และ ฟักข้าว ที่มาอันดับต้น ๆ ที่อยากทำ ที่เป็นแบบนี้เพราะว่ามีที่ปรึกษาที่สุดยอดอย่างพี่รัตนพงษ์  คอยให้ข้อมูลอยู่เรื่อย ๆ ไฟในตัวมันก็สว่างบ้าง ริบหรี่บ้างตามโอกาส และสภาวะแวดล้อม วันนี้มีเรื่องสีแดงมาฝาก

น้องชายได้ฟักข้าว หรือที่บ้านเราเรียก ขี้พร้าไฟ มาจาก กอไม้ไผ่ชายคลอง เป็นลูกสุกแล้ว  เนื้อสีเหลือง เยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงเข้ม

สภาพเมื่อสุกแล้ว ผิวเกือบเรียบเลยค่ะ หนามเหลือแบบสั้น ๆ

เท่าที่ได้เห็นฟักข้าวแถวบ้าน คิดว่าน่าจะมีหลายสายพันธุ์ อย่างที่ได้จากบนภูเขาลูกก็อีกแบบหนึ่ง ลูกใหญ่ มีหนามเยอะกว่า แบบนี้คือที่ได้จากชายคลอง

ได้เม็ดทั้งหมด 29 เม็ด สภาพสมบูรณ์ทุกเม็ด

ที่เกริ่นว่า ฟักข้าวมีความแตกต่าง วันนี้ให้ดูลักษณะใบก่อนค่ะ

ใบของฟักข้าวที่ได้เม็ดจากบนภูเขาแถวบ้านค่ะ

ส่วนในถุงชำด้านล่างนี้ เป็นเมล็ดที่ได้รับจาก นครปฐมของพี่รัตนพงษ์ผ่านมาทาง ผญ.บ. เพาะ 12 เมล็ด งอกมาแล้ว 4 ค่ะ ที่เหลือก็ยังมีความหวังค่ะ เพราะแตกรากขาว ๆ ให้เห็นแล้ว ดีใจสุด ๆ ส่งการบ้านด้วยเลยนะคะ

ดูจากลักษณะใบที่พอเริ่มแตกยอดอ่อนออกมาก็เห็นความแตกต่างตรงความหยักของใบใช่มั๊ยคะ ของแถวบ้าน (ภาคใต้) ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ใบเหมือนจะแยกออเป็น 3 แฉกอย่างชัดเจน ส่วนของทางนครปฐม ความหยักแค่ครึ่งใบ

ที่นี้ยังมีอีกพันธุ์ของเชียงใหม่ (ยังไม่มีเมล็ด) ไม่เป็นไรค่ะ  พี่รัตนพงษ์เอาความแตกต่างมาให้ดูด้วยนะคะ.....

หรือของที่อื่นเป็นอย่างไรกันบ้าง เอามาเปรียบเทียบกันหน่อยค่ะ

ความฝันต่อไปคือปลูกฟักข้าวไว้ในธรรมชาติให้เทวดาดูแลจะได้มั๊ยคะ.......

ความเห็น

Confirm ครับต้นที่ได้มาจากพัทลุงมีใบลัษณะเดียวกันเลย ส่วนที่บ้านผมใบลึกประมาณกลางใบ ส่วนที่เชียงใหม่ใบจะไม่ลึดเท่าไหร่ จะออกไปทางสามเหลี่ยม สังเกตง่ายๆ ตามแผนที่เลย ที่เหนือยักน้อย ที่นครปฐม(ภาคกลาง)ใบยักเข้าครึ่งหนึ่ง ส่วนที่ใต้ พัทลุงใบหยักเข้าเกือบถึงโคนใบ

ต้นจากพัทลุง

เปรียบเที่ยบกับพันธุ์ที่นครปฐม

มิตรภาพไร้พรมแดน

เป็นความแปลกที่น่าติดตามนะคะพี่ ความหยักของใบสังเกตุได้ตามแผนที่เลย  แปลกจริงหนอ ....... ทีนี้เอาของนครปฐมมาปลูกที่พัทลุง ของพัทลุงปลูกที่นครปฐม จะออกใบออกลูกยังงัยคอยติดตามกันต่อไป ฝากความหวังไว้ที่พี่ค่ะ....

ข้อมูลเพียบ

ดวงเพาะ 8 งอกแค่ 1 ค่ะ เพาะใช้ดิน ผสม ขี้วัวเก่า กับ เปลือกมะพร้าวสับ

แต่ที่เหลือยังไม่เน่านะ แงะดูค่ะ ตรงปลายที่ดวงกะเทาะไว้ยังขาวๆ แต่ไม่งอก

พี่ขลิบตัวหัวเมล็ด แหลม ๆ นั่นออกด้วยความระมัดระวัง  รอบนี้พี่ไม่แช่น้ำ นำเมล็ดไปปักลงดิน รดน้ำเช้าเย็น รอบนี้ 15 วัน ได้ 2 ต้น หลังจากนั้นก็ทยอยแตกรากขึ้นมาแล้ว รอสักพักคงได้ลงดินจ้า

ดวงก็ขลิบตรงปลาย แต่ไม่โดนเนื้อเหมือนกัน บางเม็ดก็จะเห็นปลายเนื้อเมล็ดขาวๆแหลมๆ ตอนนี้แงะเม็ดจากดินดูก็ยังอยู่สภาพเิดิม ไม่เน่าด้วย เป็นเมล็ดที่แปลก เม็ดอย่างอื่นคงเน่าไปแล้ว เพาะตั้งแต่ 5 พ.ค. คงต้องรอเวลาอย่างพี่แจ้วว่า

อุณหภูมิและความชื้นต้องเหมาะสมครับ เพื่อปรับอุณหภูมิ และความชื้นผมดัดแปลงใช้กระบะเพาะครับ

ข้อควรระวัง จะต้องเจาะช่องให้มีที่ระบายอากาศด้วย ไม่เช่นนั้นต้นฟักข้าวอ่อนจะโดนลวกสุกก่อนแน่ๆ เลย

เจาะให้ได้ประมาณ เศษหนึ่งส่วนสามของพื้นที่ทั้งหมด

แล้วเราก็ค่อยย้ายไปใส่ถุงอนุบาล หรือไม่ถ้าฝนตกชุกๆ ก็ย้ายไปปลูกในสถานที่จริงได้เลย

มิตรภาพไร้พรมแดน

ทำไมงอกเยอะขนาดนี้ อธิบายการเพาะหน่อยได้มั้ย ต้องใช้พลาสติกคลุมด้วยเหรอคะ

เป็นการเร่งการงอกของเมล็ด ต้องปรับความชื้นให้ได้โดยอาศัยความร้อนด้วยการคลุมพลาสติก

หลังจากกระเทาะเมล็ดให้แง้มนิดนึ่ง พอให้น้ำซึมเข้าได้ ไม่ต้องแช่น้ำแล้วมันจะเน่า ใช้ขี้เถ้าแกลบ หรือดินปลูกก็ได้ แล้วนำเมล็ดไปจิ้มที่ดินนั้นแหละลึกประมาณครึ่งนิ้ว หรือหนึ่งนิ้วก็ได้ (ถ้าแรงเยอะหรือโกธรใครมา ล้อเล่นหรอก) เสร็จแล้วรดน้ำนำพลาสติกคลุมไว้ อย่าให้ร้อนเกิน 40 องค์ศาอาจสุกได้ ต้องเจาะให้มีที่ระบายอากาศ หรือเปิดบ้าง แต่ไม่บ่อย จดกว่าจะงอก แล้วค่อยย้ายไปใส่ถุง หรือนำไปปลูก ต่อไป (มีเทคนิคการคัดเลือกเมล็ดที่ให้ลูก คงต้องอบรมหรือปล่าวนี่ ต้องทำ Work Shop)

มิตรภาพไร้พรมแดน

ตอนนี้ดวงเหลืออีก 7 ถุง จะลองเอาใส่ถุงพลาสติก แล้วปิดปากถุงดูค่ะ

เม็ดที่ได้เมื่อวานจะลองวิธีแบบนี้เช่นกัน.... ยังกะเพาะลูกเหรียงเลยนะดวงนะ

หน้า