กระท้อน ลอยแก้ว
อากาศร้อน ๆ แบบนี้ต้องมีอะไรเย็น ๆ กินคลายร้อนหน่อย ที่บ้านตอนนี้ก็มีกระท้อนทีพอจะแปรรูปได้ บางคนถามว่า แช่อิ่ม กับ ลอยแก้ว ต่างกันตรงไหน เจ้ก็ว่ามันไม่ต่างกันเพราะต้องใช้น้ำตาลทรายมาเคี่ยวให้เป็นน้ำเชื่อมแล้วก็เอากระท้อนลงไปแช่ มันอาจจะต่างกันที่ผลไม้ที่แช่อิ่มจะไม่มีน้ำเชื่อมมากนัก แต่ลอยแก้วผลไม้จะลอยอยู่ในน้ำเชื่อม แต่เพื่อความกระจ่างก็ต้องเปิดพจนานุกรม ฉบัับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ว่า
- ลอยแก้ว น. ของหวานทำด้วยเนื้อผลไม้รสเปรี้ยวลอยในน้ำเชื่อมเจือเกลือเล็กน้อย เช่น ส้มลอยแก้ว กระท้อนลอยแก้ว.
- แช่อิ่ม ว. ที่แช่น้ำตาลเชื่อมจนอิ่มตัว เช่น ผลไม้แช่อิ่ม เปลือกส้มโอแช่อิ่ม.
เดี๋ยวนี้เห็นเค้าทำ บอระเพ็ดมั่ง มะระขี้นกมั่ง พวกสมุนไพรต่างๆ ก็นำมาแช่อิ่มได้ วันนี้ทำกระท้อนลอยแก้วหรือจะเรียกแช่อิ่มก็ได้ ตอนแรกจะทำกระท้อนทรงเครื่องแต่ขี้เกียจไปตลาดเลยทำแบบนี้ดีกว่า เตรียมทำกันเลย มีกระท้อน เกลือ น้ำตาลทราย วิธีทำ (ตามแบบฉบับของเจ้)
เลือกกระท้อนลูกกำลังเหมาะไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ถ้าใครชอบเนื้อกรอบ ๆ ก็ใช้กระท้อนที่ไม่แก่มากที่เรียกว่าสีหม้อใหม่ แต่ถ้าชอบเนื้อนิ่ม ๆก็ใช้กระท้อนที่แก่จ้ด แต่อย่าให้งอมเพราะตอนบีบเอาน้ำฝาดออกจะเละ
ปอกเปลือกออกและสับให้ทั่วทั้งลูก แช่น้ำเกลือทิ้งใว้ 2-3 ชม. เจ้แช่น้ำเกลือไม่นานเพราะใช้กระท้อนห่อ (กระท้อนปุยฝ้าย)จะไม่เปรี้ยวและไม่ฝาดมาก แต่ถ้าใช้กระท้อนเปรี้ยวก็ต้องแช่นานกว่านี้ ช่วงที่กระท้อนแช่น้ำเกลืออยู่เราก็ไปเตรียมทำน้ำเชื่อม ทิ้งไว้ให้เย็น เมื่อแช่น้ำเกลือครบเวลาแล้วก็มาบีบ ๆ ปั้น ๆ ปั้น ๆ บีบ ๆ เอาน้ำฝาดและความเปรี้ยวของกระท้อนออกแต่อย่าบีบหรือปั้นแรงเกินไปเดี๋ยวกระท้อนจะเสียรูปทรง
เมื่อรู้สึกว่ากระท้อนนิ่มแล้วก้แช่ในน้ำเปล่าไว้
บีบและปั้นเบา ๆ เอาน้ำออก
จัดใส่ถ้วยหรือกล่องเทน้ำเชื่อมใส่ให้ท่วมมิดกระท้อน เก็บแช่ตู้เย็นสักพักเพื่อให้น้ำเปรี้ยวและความเค็มออกจากเนื้อกระท้อน ถ้ากินเนื้อกระท้อนหมดเหลือแต่น้ำ ก็นำน้ำแข็งมาใส่แก้วแล้วเทน้ำกระท้อนลงไปก็จะได้น้ำกระท้อนเย็นชื่นใจอีกเมนูหนึ่ง
ต้องเก็บในตู้เย็น จะช่วยให้เก็บกระท้อนไว้กินได้หลายวัน ถ้าไม่ใส่ตู้เย็นกระท้อนจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส .........
เชิญชิมกระท้อนหวาน ๆ เย็น ๆ ได้แล้วจ๋าาาาาาาาาาาาา
- บล็อกของ เจ้โส
- เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อแสดงความคิดเห็น
- อ่าน 97699 ครั้ง
ความเห็น
ดวงหทัย
13 มิถุนายน, 2010 - 22:15
Permalink
ต้องลูกท้อนบ้าน
ทำส้มตำต้องลูกท้อนบ้านเปรี้ยวดี
ที่บ้านแม่มีท้อนบ้าน อยู่ต้นนึง วันก่อนแม่โทรมาบอก
แม่ : โค่นต้นท้อนข้างบ้านแล้วนะ
ดวง: อ้าวทำไมอ่ะแม่ ดายของ เอาไว้ต้มไก่กะได้
แม่: มั้นดกแรง หล่นเต็มใต้โคน ม่ายเท่เดินแล้ว ขายกะไม่ได้ เปรี้ยว แม่ให้เณรโค่นเสียแล้วแหละ
ดวง: ....
สรุป แม่โค่นต้นท้อนข้างบ้านเพราะมันดกเกินไป เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยเห็นท้อนบ้านแล้ว มีแต่ปุยฝ้าย บ้านไหนบ้านนั้นปลูกแต่ปุยฝ้าย แต่ปุยฝ้ายต้มไก่ไม่อร่อยเท่าท้อนบ้าน
สวนสุขารมย์
13 มิถุนายน, 2010 - 22:01
Permalink
เห็นแล้วน้ำลายไหล
เจ้ไม่น่าทำกันเลย เห็นแล้วน้ำลายมันไหลนะ แล้วจะไปหาที่ไหนมากินล่ะ
เวลาพบกันสั้นนิดเดียว
เจ้โส
13 มิถุนายน, 2010 - 22:10
Permalink
น้องบุ๋ม
ก็มา นว. สิ เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วเจ้ขึ้นเชียงใหม่ว่าจะแวะบ้านน้องบุ๋มไปถึงแถวนั้นมืดพอดี ขากลับวันพุธว่าจะแวะอีกก็ฝนตกและเย็นมากด้วย เลยไม่ได้แวะทั้งขึ้นทั้งล่อง โอ้ !!! ถ้าบุ๋ม 200 ไร่ เจอ เจ้โส 200 ตรว. อะไรจะเกิดขึ้น 555555
garden_art1139@hotmail.com
สวนสุขารมย์
13 มิถุนายน, 2010 - 22:26
Permalink
เจ้โส
ช่วงนี้ยังไม่มีโปรแกรมไป นว. เลยเจ้...แต่บุ๋มตั้งท่ารอเจ้ตั้งนานแล้วนะเจ้...
เวลาพบกันสั้นนิดเดียว
ติดดิน
14 มิถุนายน, 2010 - 09:02
Permalink
ชอบกิน
ชอบกินตำกระท้อนมากกว่าค่ะ แต่ร้อนๆแบบนี้ ได้กระท้อนลอยแก้วแก้ร้อนสักหน่อยก็ดีนะ
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
KASETMCOT
14 มิถุนายน, 2010 - 09:13
Permalink
เห็นมานาน
เห็นชื่อมานานพอสมควร แอบอ่านคุณติดดินคุยกันบ่อยๆกับสมาชิกคนอื่น แต่ผมไม่มีโอกาสคุยสักที วันนี้ขอทำความรู้จักหน่อยนะครับ
เจ้โส
14 มิถุนายน, 2010 - 12:25
Permalink
น้องกุ้งน่ารักค่ะ
น้องกุ้งน่ารักค่ะ น้องสุนิตย์ แต่น่าฉงฉานโดนแกล้งอยู่เรื่อย ๆ ต้มยำมั่ง โดนเผามั่ง กุ้งเต้นก็มี
garden_art1139@hotmail.com
เจ้โส
14 มิถุนายน, 2010 - 12:21
Permalink
น้องกุ้ง
ตอนนี้อยู่อุตรดิตร์หรือแม่ฮ่องสอน อิจฉาคนมีบ้านหลายหลังเน้อ
garden_art1139@hotmail.com
มาย
14 มิถุนายน, 2010 - 09:49
Permalink
ยังเหลือไหมคะ
ยังเหลือไหมคะ...ช่วยส่งมาทางนี้หน่อยค่ะเจ้โส อยากกินจัง..
there is a will , there is a way .
เจ้โส
14 มิถุนายน, 2010 - 12:12
Permalink
หมดแล้วจ๊ะ
หมดแล้วคะน้องมาย ต้องรอของน้องแก้ว 2 เค น่ะ ถ้าจะรอของเจ้ก็ต้องปีหน้าจ๊ะ
garden_art1139@hotmail.com
หน้า