จะโทษใคร ... ?

หมวดหมู่ของบล็อก: 

หากจะมีใครสักคน ถามว่า เคยได้ยิน โคลงบทนี้ไหม ?

                    ๏ เจ็ดวันเว้นดีดซ้อม   ดนตรี

               อักขระห้าวันหนี               เนิ่นช้า

               สามวันจากนารี                เป็นอื่น

               วันหนึ่งเว้นล้างหน้า         อับเศร้าศรีหมอง ๚

     ข้าพเจ้าจะตอบโดยมิพักลังเลว่า “จำได้ซี ...” และกล้าโวว่า ... “ท่องได้ ด้วยนะ” แต่จะให้ท่องด้วย ทำนองเสนาะ’ … ข้าพเจ้ายอมรับอย่างไม่เหนียมแม้แต่น้อย ว่า ... “ม้า า า ... ย ... หวา า า ... ย ...”

     แล้วหากใครคนนั้น ... หรือ ... คนไหนก็ได้ ถามต่อว่า ... “แล้วยังจะเขียน โดยไม่ผิด ได้อยู่หรือ” ...

     ก็กลอนที่ยกมานำบล็อก ข้างต้นนั่นไง ... พอจะเป็นคำตอบ และ/หรือ พยานได้ไหมละครับ ... ? ... ข้าพเจ้ามั่นใจว่า เขียนไม่ผิด ... โอ๊ะ ... ขออภัย ... ที่สื่อผิด ... ตั้งใจจะบอกว่า ... “พิมพ์ไม่ผิด ...” ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดูจากตันฉบับใด ๆ ... สาบานให้ฟ้าลั่น (ฟ้าร้อง) ซีเอา !

     และหากถามต่อว่า “แล้วความหมายล่ะ ... รู้ป่ะ ?” ...

     ก็ไม่รู้ซีนะ ... แต่ขอวิสัชนา ตามที่เคยได้รับถ่ายทอดจาก คุณครู ว่า ... “โคลงโลกนิติสุภาษิต บทนี้ สอนให้เป็นผู้ใฝ่ ฝึกฝน ปฏิบัติ ในกิจของตนให้เป็นนิจ ทักษะจะได้ไม่ถดถอย ... โดยนัยกลับกัน จะเป็นการเพิ่มพูนทักษะ อันก่อผลประโยชน์แก่ตน ... นั้นแล”

     ที่ เกริ่นมาซะยืดยาว จนเกือบเป็นเนื้อหา ... ก็ด้วยกำลังจะบอกว่า ...

     โคลงบทนั้น ... ข้าพเจ้า รู้ ... จำ ... เข้าใจ ... แต่ ‘เป็นหมันในแง่ปฏิบัติ’ ... เพราะไม่ได้นำสู่การปฏิบัติ กลับปล่อยให้มันนอน นิ่ง ประหนึ่ง เครื่องใช้ประจำวัน ที่ถูกเก็บไว้ในตู้โชว์ ? หรือ ... ข้อธรรมะ ในใบลาน หรือ ... ผู้รู้ธรรมอย่าง ‘ตุจโฉโปฐิละ’

     หากข้าพเจ้า บอกกับท่านว่า “ข้าพเจ้า สนุกต่อการปลูก ต้นไม้ในสวน เพลิดเพลิน ที่ได้คอยเอาใจใส่ ดูแล บำรุงรักษา ต้นไม้ที่ปลูกไว้” ...

 

ท่านจะเชื่อไหม ... เมื่อเห็นภาพนี้ ?

 

      เห็น รก ๆ อย่างนี้ ... หากข้าพเจ้าบอกว่า “นี่ก็ส่วนหนึ่งที่เป็น ‘กิจกรรมทำสวน ที่ข้าพเจ้าบอกว่าชื่นชอบ’ ... ท่านคงอยากให้ข้าพเจ้ายืนยันโดยการสาบาน ละซี ... ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบการสาบาน ... แต่เพื่อให้ท่านเชื่อ สาบานก็ได้ ... ให้ฟ้าร้องซีเอา ... !

 

 

 

 

     นอกจากสาบาน ข้าพเจ้าขออนุญาตนำภาพนี้ มาเป็นพยาน ประกอบคำให้การ ว่า นี่คือพื้นที่ที่ข้าพเจ้า และใครเคยเรียกว่า “สวนผักกูด” ...

 

 

 

 

 

      ใช่ว่า ‘เจ็ดวันเว้นดีดซ้อม    ดนตรี’ ละครับ ... กลับเป็นว่า ... ‘กว่าหนึ่งปี ที่ละห่างสวนไป’ ... สภาพอุดมด้วย หญ้า แล เถาวัลย์ จึงปรากฏมากกว่าภาพ ผักกูด ... ดู ๆ ไป ช่างไม่ประเทืองจักขุเอาซะเลย

     ที่น่าเจ็บกระดองใจ ... เอ๊ะ ..! ... ที่เคยเรียนมา ใจ ไม่มีกระดองนี่หว่า ... เอาเป็นว่า ที่มันกวนอารมณ์ให้ขุ่น ดีกว่านะ

 

 

 

   ก็คือเจ้านี่ แหละครับ ... อ้อยแดง เอามาปลูกไว้เป็นสมุนไพร ... แค่ไม่ได้อยู่ ห้ามปราม ปีกว่า ๆ บุรุกเข้าไปยึดครองพื้นที่ของผักกูดเต็มไปหมด ... คงหวังจะ ครอบครองปรปักษ์

   ที่เห็นนี่ เหลือจากที่ถูกตัดคอ ... เอ้ย ... ตัดโคน ถอนรากไปแล้ว กว่า 1 ใน 4 แล้ว นะเนี๊ยะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     นี่ หลักฐาน 1 ใน 3 กอง ที่สุมสูงเป็นพะเนิน

 

 

 

 

 

 

 

 

       นี่ ! … ก็อีกกอง ...

   ที่เห็น อยู่ด้านหลังซากกองอ้อยแดง เยื้องไปทางขวา ... คือ มะนาวน้ำเหลือง กลิ่นหอมเลียนกลิ่น ‘ส้มซ่า’ ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะถูกอ้อยแดงบุกรุก ... ซ้ำถูกกดขี่โดยเถาวัลย์ และหญ้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                          เอ้า ... เชิญครับ ... เชิญ ...

       เข้าไปเยี่ยม ให้กำลังใจ ผู้ป่วยกันหน่อย ... มะนาวที่เห็นไกล ๆ ในภาพก่อนไงครับ

 

 

 

 

กำจัด ผู้บุกรุก ไปบางส่วนแล้ว ... ดูเป็นสวนผักกูดโดยไม่ต้องสาบานล่ะ ทีนี้

 

    

 

     เสร็จไปแล้ว หนึ่งแปลง ... Queue ต่อไป ก็ แปลงนี้ไง ครับ

     แปลงนี้ ผู้บุกรุก นอกจาก อ้อยแดงแล้ว ยังมี ตะไคร้หอม และ กลุ่มเถาวัลย์ ... เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วย

     ที่เห็นในขวามือภาพ ไม่ใช่ไม้ประดับนะครับ ... แต่เป็นซุ้มเถาวัลย์ ที่ขึ้น กด ขี่ บนผักเหลียง ตะหาก

 

 

 

 

     แต่ เอ .... ที่ว่ามานั่น จะเป็น อ้อยแดง ... เถาวัลย์ ... ขจร ... ตะไคร้หอม และหญ้า ฯลฯ. สมควรถูกประณาม และยัดเยียดให้เป็น “จำเลย” อย่างเต็มปาก โดยไม่กระดาก กระนั้นหรือ

        รึว่า ... ผักกูด ผักเหลียง ...  งี่เง้า ... อ่อนแอ ... ไม่รู้จักพึ่งพา ปกป้องตัวเอง ...?

     ถึงตอนนี้ คงมีบางท่าน เริ่มหมั่นไส้ และบ้างเริ่มรำพึงเสียง กับตัวเอง ... บ้างอาจปรารภกับจอ คอมพ์ หรือไม่ก็จอโทรศัพท์ บ้างแล้วว่า

     “อีตาลุง” ... อ้อลืมไป ... ต้อง “ไอ้ตาลุงนี้ ... บ้าป่าว ... ไปโทษได้ไงต้นไม้ ... มันจะไปรู้เรื่องรู้ราวอะไร ... แล้วตัวเองน่ะ ดีนักเรอะ ?”

     อ้าว ... หากถามอย่างนั้น ขอถามกลับบ้างล่ะ ... ว่า

        “จะมีใครสักกี่คน ที่ชี้นิ้วเข้ามาที่หน้าอก หรือแสกหน้าตัวเอง ... แล้วกล่าวโทษว่า

            ‘แกนี่แหละ ผิด พร่องความรับผิดชอบ’ ... เหตุไม่สมควรเหล่านี้ จึงเกิด”

             ว่าง ๆ ... ช่วยหาคนกล้าหน่อยเหอะ ... จะได้ชี้โทษถูก

ความเห็น

รกได้ที่ แต่ก็ดีกว่าแห้งแล้ง ว่างเปล่า Smile

“นานุวัฒน์ ทำเกษตรให้สนุกและมีความสุข”

หากมันรกสิ่งที่เราปลูกไว้ ก็พอรับได้ครับ ... แต่นี่รกหญ้า เพราะเราพร่องหน้าที่ ... จึงเปลืองแรง เปลืองเวลาโดยใช่เหตุ นี่ซีครับ มัน ฮึ ๆ ๆ ๆ

สวัสดีค่ะลุงพาโล มีเหตุผลมากมายที่กล่าวโทษอย่างอื่น(ต้นไม้) แทนที่จะโทษตัวเอง เป็นปกติวิสัยของมนุษย์ต่ะลุงพาโล ขอโทษนะค่ะลุง ตอบตามกำลังความคิดแคบๆค่ะ

หวัดดีครับป้า ... เพิ่งเข้าบ้านใหญ่ได้ครับ ... ดีใจที่ได้เจอกัน นอกบ้านเล็กใน Fb.

   ก็เพราะเรามี Partial ให้กับตัวเองนี่แหละป้า จึงพยายามยกเหตุผล แม้ข้าง ๆ คู ๆ มาอ้าง ดั่งที่ว่า

         โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง  เมล็ดงา
    ปองติฉินนินทา            ห่อนเว้น
    โทษตนเท่าภูผา          ใหญ่ยิ่ง
    ป้องปิดคิดซ่อนเร้น        เรื่องร้ายหายสูญ

ความดีใส่ตัว ความชั่วใส่เพื่อน

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

55555

ลุงคะ
ลุงชี้ต้นไม้กี่นิ้วคะ (หนูว่าน่าจะใช้นิ้วชี้นิ้วเดียว)

ที่เหลืออีก 4 นิ้ว กลับเข้าหาตัวลุงนี้ค่ะ ลุงแหละผิด
(อิ อิ หากมีเคือง ขอโทษค่ะ)

   55555 ... ลุงเปล่าชี้ ...

      แค่บุ้ยปาก ส่ง ๆ ไป ... ไม่มีนิ้วเข้าหาตัวเอง ซะหน่อย ... มากล่าวหากัน เคืองแล้วนะเนี๊ยะ ... เหอ ๆ ๆ ๆ