ทำความรู้จัก อ. วิวัฒน์ ศัลยกำธร (3)

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ผมนำเสนอเรื่องของอาจารย์วิวัฒน์เรื่องนี้คงทำให้หลายคนรู้จักอาจารย์วิวัฒน์มากขึ้น ผมดาวน์โหลดเรื่องนี้มาจากเวบไหน ผมจำไม่ได้ ต้องขออภัยเจ้าของเวบด้วยครับ  แต่โชคดีที่ในบทความนี้มีชื่อผู้เขียนอยู่ด้วย

คนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

วิวัฒน์  ศัลยกำธร
“เขาไม่ได้เพี้ยน?”

โดย ....พรเทพ สิงห์ธวัช : 1/8/46

ในโลกใบนี้มีอะไรหลายอย่างที่มนุษย์ค้นหา ศึกษา และเรียนรู้มิรู้จบ... ศาสตร์ทุกศาสตร์ในโลกใบนี้ก็ล้วนแต่สนองต่อความต้องการของมนุษย์ทั้งสิ้น ศิลป์ทุกศิลป์เป็นสิ่งที่jเชื่อมต่อศาสตร์ทุกศาสตร์เข้าถึงชีวิตและจิตวิญญาณของมนุษย์ได้อย่างผสมกลมกลืนมากขึ้น มนุษย์เป็นเพียงผู้ที่ศึกษาและถ่ายทอดเรื่องราวในโลกใบนี้ทั้งศาสตร์และศิลป์สู่ผู้คน แต่มนุษย์ทุกรูปทุกนามย่อมมีวิถีทางแห่งตนเสมอ โลกได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย ตามกาลเวลา หลายคนพยายามที่จะแสวงหาและก้าวไปข้างหน้ากับโลกศิวิไลซ์...ที่มีเทคโนโลยีสูงสุด ไร้พรมแดน ก้าวไปในโลกแห่งจักรวาลอย่างมิหยุดยั้งและหาที่สิ้นสุดมิได้ หลายคนกลับที่จะย้อนกลับไปหาอดีต และการคืนสู่ธรรมชาติ โดยวิถีแห่งธรรมชาติที่จะกลับไปฟื้นฟูธรรมชาติ ที่ถูกลืมไปกับวันเวลาที่ผ่านเลย

เฉกเช่นเดียวกันกับคุณวิวัฒน์ ศัลยกำธรที่เคยมีหน้าที่การงานระดับผู้อำนวยการ สำนักงานโครงการในพระราชดำริ มีหน้าที่คอยจดข้อมูลในพระราชดำริถวายในหลวง ในเวลาที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการในพระองค์ ถือเป็นจุดสุดยอดในชีวิตของคน น้อยคนนักที่จะได้มีโอกาสรับใช้งานในเบื้องยุคลบาทเช่นนั้น... แต่คุณวิวัฒน์ กลับลาออกจากการเป็นผู้อำนวยการสำนักงานโครงการในพระราชดำริ จะกลับไปทำนา? จะเป็นเกษตรกร? จะคืนสู่วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม เมื่อ 50-60 ปีที่แล้วที่เคยเป็นลูกชาวนา เคยทำนา อยากจะย้อนกลับไปฟื้นฟูวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากนัก ไม่มีเทคโนโลยีไฮเทคอะไร... ไม่ใช้เคมีสาร... ไม่ใช้ยากำจัดศัตรูพืช หลายคนพิศวง งงงวยกับการกระทำ กับแนวความคิดของเขา หลายคนไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง เพื่อนฝูง และวงศาคณาญาติหาว่าเขาบ้า? เขาเพี้ยน? หรืออะไรทำนองนั้น แต่ถ้ามองในอีกแง่มุมหนึ่งก็คงจะเข้าใจในการกระทำและแนวความคิดของคนว่า ทุกคนมีวิถีชีวิตที่เป็นของตนเอง อยากจะทำอะไรสักอย่างที่อยากจะทำ หรือทำในสิ่งที่คนอื่นคิดว่าเขาทำไม่ได้ แก้คำสบประมาท พิสูจน์ตัวเอง...ว่าทุกอย่างในโลกใบนี้ถูกปรุงแต่งขึ้นมาทั้งนั้น ละความยึดมั่นถือมั่นในตนเสียได้... กาย-ใจจะเบา และมีความสุขอันเป็นนิรันดร์

หนุ่มใหญ่วัย 60 เศษ...ตัดผมสั้น ใส่เสื้อม่อฮ่อม...ใส่รองเท้าแตะ ผิวกร้านแดดและลม ดูสมถะและเป็นคนเรียบง่าย สายตาที่มุ่งมั่นและจริงจัง แต่แฝงด้วยความหมองหม่นลึกๆ ที่พลางทอดมองไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด...เหมือนกับจะหาคำถามจากความรู้สึกที่ไม่มีคำตอบก็ตาม ในโลกแห่งความแตกต่าง ในโลกที่หาจุดแห่งความพอดี ในโลกที่หาความสมดุลย์ที่ต่างคนต่างแสวงหามันไม่ได้

ดั้งเดิมคุณวิวัฒน์ เป็นคนแปดริ้ว เป็นลูกชาวนา เรียนจบรัฐศาสตร์ แต่อยากจะเป็นครู... เข้ารับราชการช่วงแรกๆ โดยการเป็นพัฒนากรที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จนมีโอกาสได้เข้าทำงานในสภาพัฒน์ ซึ่งในสมัยนั้น ดร.เสนาะ อูนากุล เป็นเลขาธิการสภาพัฒน์ ได้คัดทีมงานถวายพระองค์ท่านหลายชุด และหนึ่งในจำนวนนั้นก็มีคุณวิวัฒน์ รวมอยู่ด้วย ได้มีโอกาสติดตาม ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เพื่อทำงานถวายในหลวง ในช่วงแรกๆ โครงการห้วยทรายในพระราชดำริที่จังหวัดเพชรบุรี ได้พัฒนาและฟื้นฟูให้เป็นเขตอนุรักษ์

จากการที่ได้ติดตามเสด็จฯ จากการที่ได้พบปะกับชาวบ้าน จากการที่ได้รับรู้ปัญหาของชาวบ้าน ของเกษตรกร ทำให้เขามีความคิดที่จะทำอะไรบางอย่างในระบบราชการ บางครั้งมันไม่สนองตอบกับความต้องการของชาวบ้านนัก คำว่าเช้าชามเย็นชาม คำว่าขอให้ทำแบบเสียไม่ได้ หรือทำแบบขอไปที หรือไม่ก็คำว่าผักชีโรยหน้า จะมีกันอยู่มาก ในบ้านในเมืองนี้... “การทำงานด้วยจิตวิญญาณ และความรู้สึก มันจะมีพลัง มันจะมีความสุข” เป็นสิ่งที่เขาคิดและทำมาตลอด... พื้นที่เกือบ 50 ไร่ที่เป็นที่ของยายที่จังหวัดชลบุรี พื้นที่รกร้าง พื้นดินเสื่อมโทรม เพราะเกิดจากการปลูกมันสำปะหลัง เกิดจากการปลูกอ้อย... หน้าดินไม่ได้บำรุงและฟื้นฟู คุณวิวัตน์ได้นำความรู้ในเกษตรแผนใหม่ เหมือนกับว่าจะใช้พื้นดินตรงนั้นให้เป็นพื้นที่ทดลองตามแนวความคิดที่เขาได้วางแผนไว้ จากพื้นที่รกร้างกลายเป็นพื้นที่สีเขียวที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ เขาผลิตปุ๋ยชีวิภาพ และได้นำความรู้ไปเผยแพร่ในนาม “มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ”

แนวความคิดและแก้ปัญหาพื้นฐานเกษตรผสมผสาน หรือหัวใจของคำว่าเศรษฐกิจพอเพียง คือพออยู่, พอมี, พอกิน, พอใช้, และพึ่งตนเองได้ คิดและทำเป็นด้วยตนเอง  ตัวเองต้องวิเคราะห์ให้ได้ เช่น การมีพื้นที่สักแปลงหนึ่งก็สามารถที่จะจัดสรรให้ได้ว่า ในพื้นที่ 100% นั้นจะแบ่งเป็นที่พักอาศัยกี่เปอร์เซ็นต์ ขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำไรนาสวนผสม หรือเลี้ยงสัตว์ ปลูกผักปลอดสารพิษ ใช้ปุ๋ยชีวภาพ ใช้เอมไซน์จากสมุนไพร ณ วันนี้จากสิ่งที่เขาคิด...เขาทำ...เขามุ่งมั่นและวิเคราะห์ทดลอง มันมีคำตอบในตัวเองเบ็ดเสร็จ เขาถูกเชิญไปเป็นวิทยากรในทฤษฎีเกษตรกรรมทฤษฎีใหม่...ชาวบ้านเกษตรกรรมได้นำความรู้ไปปรับปรุง เปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิต เขาคิดเสมอว่า ในการที่เปลี่ยนแปลงทัศนคติ ความคิดในวิถีการดำเนินชีวิตของคนในหลักการที่เขาทำอยู่กับผู้คน บางครั้งต้องใช้เวลาให้ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป... เหมือนกับคำโบราณที่เคยสอนไว้กับคำว่า “เดินทีละก้าว...กินข้าวทีละคำ...ทำทีละอย่าง...ช้าสม่ำเสมอ และคงสำเร็จเอง” เขาเชื่อในสิ่งนี้และเป็นการพิสูจน์ตัวเองว่า เขาทำได้และทำได้ เขาเป็นคนที่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา? ใครบอกว่าเขาเพี้ยน?

ความเห็น

เห็นด้วย :good-job:

อยากสอบถามความรู้จากอาจารย์คะ อยู่พิโลกคะ ขอเบอร์ได้ไหมคะ  0894965310