Adventure ภาค 2
สวัสดี ... ครับ ...
เอาละครับ ..... ถึงวันชันชี (สัญญา) ที่ให้ไว้ใน http://www.bansuanporpeang.com/blog/adventure ว่าจะพาไปปีนเขาแล้ว .....
ได้พักปลดตัวทาก และหายใจปกติแล้ว ไปต่อกันนะครับ
หนทางต่อไปนี้ ต้องระมัดระวังในการเดินหน่อยครับ เพราะบางแห่งลื่นมาก โดยเฉพาะโขดหินที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยตะไคร่ ดูคลายคลุมด้วยพรมกำมะหยี่สีเขียวสด แค่พอเอาพื้นรองเท้าไปจรด ก็จะไถล ทรงตัวแทบไม่อยู่เลยละ ล้มลงไปเป็นได้แผลครับ
พอเจอที่สูง และลาดชันก็ต้องหาตัวช่วย ในการที่จะดึงตัวเองให้ขึ้นไปอย่างปลอดภัย หากไม่ชันมากนัก ก็แปลงร่างเอามือเป็นขาซะด้วย จะได้คลานสี่ขา มั่นคงขึ้นหน่อย ถ้ามีต้นไม่ใกล้เคียงก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น แต่ต้องดูให้ดีซะก่อน เพราะไปคว้าเอาต้นไม้พิษ อันตรายก็มาเยือนเอาง่ายๆ
อย่างต้นนี้ คนเดินป่า เที่ยวเขา รู้จักกันว่า มันคือ “สามแก้ว” (กรุณาอย่าถามที่มาของชื่อ ตอบไม่ได้เช่นกัน) .... ลักษณะ ต้นและใบ และพิษภัย คล้ายต้นตำแยช้างมากๆ แต่เจ้านี่ ใบบาง และสีอ่อนกว่า โดนเป็นคันทันที พอมีอาการคัน ก็ต้องเกา หรือไม่ก็ลูบเพื่อบรรเทกอาการ.....อ๊ะๆๆ... อย่าเชียวแหละ เพราะถ้าไปเกา หรือลูบถู อาการปวดแปล็บ .. ก็จะมาแทนที่ทันใด ต่างกับลังตังช้าง ที่พอโดนปั๊บ...ปวดจนสะดุ้ง..ทันที
เพื่อนร่วมทางของข้าพเจ้าโดนเข้าจนได้ ขนาดระวังแล้วเชียว ก็สี่ตีนย่อมจตุบาท ... ละครับ เดินบ่นพึมเลย จะเกาก็ไม่กล้า ที่จริงเขาก็มีประโยชน์นะ ต้นเอามาเจียกเป็นเส้นขนาดประมาณ 0.5 ซ.ม. ผึ่งแดดให้แห้ง ทำเป็นคบควันจุดไล่ยุง หรือผึ้งก่อนตัดรวงเอาน้ำผึ้ง
....เดิน .... พักหอบหายใจ 4 - 5 ครั้ง ก็ได้ชื่นใจกับ....
น้ำตกเตี้ยๆ ....
หยุดพัก...ให้เพื่อนร่วมทางเอาน้ำเย็น ชโลมรอยที่โดนสามแก้ว และ Scan เจ้าขี้ขโมย เพลาเหนื่อย ...เดินต่อ
ขณะนั่งพัก กวาดตาไปรอบๆ เจอโต๊ะอาหารธรรมชาติกลางน้ำ...ล้อมวงได้หลายคนเชียวละ ลุกไปสำรวจดู ว่าจะข้ามไปใช้บริการได้ไหม ... สบายมาก
มีของแถมด้วย ข้างล่างมีเพิงกันแดด กันฝนได้...บอกให้เพื่อนร่วมทาง นำเสบียงไปซุกไว้ ได้ไม่ต้องแบกขึ้นไปให้หนัก กะว่าจะลงมา “เผาข้าว...เผากับ” นั่งกินบนโต๊ะนี่
หละ...
ออกเดินทางต่อ บางแห่ง ถ้าเป็นเนิน หรือหินที่ไม่สูงมากนัก ก็พาตัวขึ้นไปโดยวิธี โหนเจ้าพวกนี้
อย่างที่เห็นนี่ มั่นใจได้เลย ... รับน้ำหนักคนร่างเกินสมบูรณ์ ได้สบายมาก
บริเวณนี้... เจ้านี่เยอะ ที่เขิงเขาก็เจอบ้าง ชาวบ้านเว้นไว้ นัยว่าช่วยพยุงดิน แต่คงช่วยได้ไม่มากหรอก เพราะรากน้อย ไม่เหมือนแฝก ... คุยคับเพื่อนร่วมทางว่า นี่ถ้าไปจตุจักร หรือสนามหลวง 2 ก็คงหลายพันบาทอยู่
....ก็กีบแรดไงครับ...
เห็นกีบแรด .... ได้ยินเสียงน้ำไหลลงกระแทกหิน อยู่ห่างๆ คะเนว่าไม่ไกลนัก ชวนเพื่อนร่วมทาง ด้วยคาดว่าจะได้ภาพเจ้าต้น ที่ตั้งใจดั้นด้นมาหา ไปให้ สมช. ดู
ถึงแล้วครับ .... เจ้าของต้นเสียง ที่ดึงดูดให้ข้าพเจ้ามา
.... น้ำตกแบบนี้ มีให้เห็นเป็นระยะๆ หลายที่ ครับ
แล้วก็ไม่ผิดหวัง...ครับ
นั่นไง.... เจ้า “อภิมาหาผักกูดยักษ์” ... ครานี้ ยักษ์ จริงๆ ... ไม่ได้โม้...!
ก็ดูขนาดต้นเขาซีครับ (นี่แหละที่เคยเล่าว่าเอาไปปลูกแล้วตายหมดล่ะ)
.... และอีกต้น
ไม่ได้ใช้เทคนิคการถ่ายทำหรอกครับ …. ไม่ต้องสาบานหรอกนะ ...ไม่ชอบ
.... ขอยืนยันด้วย ภาพเทียบเคียงกับเพื่อนร่วมทาง เห็นไหมครับ สูงไม่ถึงครึ่งของต้นที่เป็น Background เลย
อีกรูป เด็ดยอดมาถือให้ดูด้วย .... เทียบเคียงยอดผักกูดทั่วๆ ไป ถ่ายเสร็จไม่ทิ้งครับ ใส่ถุงหลังกลับไปผัดที่บ้าน
.....แม้แต่ “ผักกูดผี” ยังโตขนาดนี้เลย....
ผักกูดผีนี่... เขาไม่กินกัน
ออกเดินต่ออีกหอบหนักๆ .... แต่ไม่ถึงกะลิ้นห้อย....
ก็ถึงน้ำตกอีกที่ ชั้นนี้สูงกว่าทุก ๆ ชั้นที่ผ่านมา...
แดด..ส่องลงมาเป็นลำ
.......... แหงนมองย้อนขึ้นไปตามลำแสง....
โอ้...โฮ...
“โขดเขินสิขรเขา ณ ลำเนาพนาลัย
สูงลิ่วลานมัย- น พ้นประมาณหมาย”
ไหนๆ มาถึงนี่แล้ว ก็พยายามนำสังขารที่อิดโรยพอควร โดยการ เดินบ้าง คลานบ้าง กลิ้งไถลลงไปบ้าง ขึ้นไปจนถึงระดับหนึ่ง
พอเห็น..... เฮอ... คุ้มครับ คุ้ม สวยจริงๆ ธรรมชาติรังสรรค์ประติมากรรม รูปร่างแปลกๆ ยากที่มนุษย์จะทำได้ไว้มากมาย ไว้ว่างๆ จะทำเป็นชุดเก็บตกมาให้ดู
“เลื่อมเลื่อมศิลาลาย แลสลับระยับสี”
ให้ดูชิ้นหนึ่งก่อน ถ่ายรูปเกือบเสร็จ ฝนเทลงมาพอดี เทจริงๆ ครับ ไม่ใช่ตก กอปรด้วย หิวมากๆ ในสำนึกขณะนี้ เห็นแต่เสบียงที่ซุกไว้ใต้โต๊ะหินกลางน้ำ
กังวงตงิดขึ้นมาว่า น้ำจะพัดเอาข้าว ..กับ ไปไหม ฝนอย่างนี้ จะไปเผาที่ไหน
บอกตัวเองว่า เรื่องนั้นไว้ก่อน เรื่องที่จะต้องทำตอนนี้ คือ กลับลงไปให้ถึงเถอะน่า
.....เรื่อง เผาข้าว...เผากับ เป็นเรื่องภายภาคหน้า.......เออ...ใช่ครับ ใช่...!
- บล็อกของ paloo
- อ่าน 5433 ครั้ง
ความเห็น
กุ้งบางบัวทอง
28 ธันวาคม, 2010 - 16:56
Permalink
ลุงพะโล้
ขอบคุณค่ะลุงที่พาหลานมาดูธรรมชาติแบบนี้ ที่ไปกันมีคณะลุงเท่านั้นเหรอคะ? ดูไม่มีคนพลุกพล่านและธรรมชาติยังคงความเป็นธรรมชาติที่งดงามอยู่เลย....หาดูได้ยากจริง ๆ
มีความสุขกับการที่ได้ให้มากกว่าการที่ได้รับ
paloo
28 ธันวาคม, 2010 - 17:37
Permalink
ป่าดงดิบครับ
จะเรียกว่าคณะ ไม่เต็มปากนะหลานกุ้ง ไปกันแค่ สองคน ลุงไม่ค่อยชอบที่เขาจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชอบบุกป่าดิบ บริสุทธิ์อย่างที่เห็น เพราะระบบนิเวศยังสมบูรณ์ ครับ
ป้าต่าย
28 ธันวาคม, 2010 - 18:24
Permalink
ลุงPaloo
ป่าดงดิบอยู่ที่ไหนคะ...เขาสกหรือเปล่า...เมื่อเช้าน้องชายมาบอกว่าหลังปีใหม่ไปเที่บวเขาสกกันมะ...แหะๆๆไม่กล้าไปคะสุราษฎร์ฝนยังตกอยู่กลัวน้ำป่า....
คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก
paloo
29 ธันวาคม, 2010 - 10:44
Permalink
เรียน เพื่อทราบ
ป้าครับ... ป่าที่ผมหนนี้ เป็นป่าอนุรักษ์ ในหมู่ที่ 3 ต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร
เขายังไม่ตกแต่ง ใดๆ จึงยังคงเป็นของธรรมชาติบริสุทธิอยู่ ก่อนขึ้นหาข่าวเจ้าที่ผู้ยิ่งใหญ่ก่อน หากเขานำโขลงไปที่อื่น ปลอดภัยครับ ไม่มีอะไรน่ากลัว สนุก ชื่นใจ มากครับ
เจ้โส
28 ธันวาคม, 2010 - 19:08
Permalink
ลุงพาโล
แหม..ลุง นับถือจริง ๆ ป่าแถวนั้นยังอุดมสมบูรณ์ดีนะคะ ดูจากปริมาณน้ำตกและพืชพันธุ์ต่าง ๆ หรือเพราะเป็นหน้าฝนจึงดูสดชื่นดีอยู่
แต่ดูหน้าคนติดตามลุงพาโลแล้วซีด ๆ นะ จะเป็นลมหม้ายนิ คริ คริ
garden_art1139@hotmail.com
paloo
29 ธันวาคม, 2010 - 10:50
Permalink
ของจริงล้วนๆ
เป็นป่าต้นน้ำ ปริมาณน้ำก็ประมาณนี้ทั้งปี หากได้น้ำฝน เขาก็หลากไม่เกิน 20 นาที เพราะจะไหลลงสู้เบื้องล่างหมดแหละ ครับ
ส่วนเพื่อนร่วมทาง คงได้ภาพลวงตาน่ะ เพราะฝีมือคนถ่ายมากกว่า ที่จริงเขาเข็งแรงมาก สัมภาระส่วนใหญ่อยู่บนหลังเขากรับ
ยายอิ๊ด
28 ธันวาคม, 2010 - 22:34
Permalink
บายใจนะคะ
พี่พะโล้ นั้นบายใจจังแหละพันนั้น..ยังแข็งแรง เหลือเกิน ยังเดินขึ้นเขาบายๆ เหลยนิค่ะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
paloo
29 ธันวาคม, 2010 - 10:55
Permalink
คนแก่...อวดแรง
ทำแก็งพันหนันและ นองเหอ หอบอีแหล่ว ... แต่บายใจ ได้แรงจูงใจจากความสวยธรรมชาติ
ก้าชันชี กับน้องไว้เลา ว่าอีไปถายโรปพักกูดมาให้แล เห็นยัง พักกูดยักษ์
ดาวเรือง
28 ธันวาคม, 2010 - 22:55
Permalink
ยังปีนเขาไหวอีกนะลุง
:admire2: นับถือๆ หนูไม่ไหวแล้วค่ะ อยากเห็นก็ไว้ดูทีวีเอา ฮา....ใครมีพลังก็ควรไป ต่อไปอาจไม่มีโอกาสก็ได้ สังขารมันไม่อำนวยน่ะซิคะ
paloo
29 ธันวาคม, 2010 - 10:59
Permalink
ไม่ลอง .. จะรู้ได้ไง
หลานดาว จะรู้ได้ไงว่าไม่ไหว ยังไม่ลองเลย
ลองไปจริงๆ จะรู้มันเพลิน ลืมเหนื่่อย ลุงว่า ถ้าหลานดาวไปเห็น คงวิ่งฉิวไปก่อนลุงซะอีกนะไม่ว่า
หน้า