Adventure ภาค 1

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 

       จั่วหัวเรื่องไว้อย่างนี้ ก็เป็นอันทราบได้ ว่าเรื่องนี้ ยาวแน่ ..... แต่ข้าพเจ้า จะพยายามให้รวบรัด ครับ

       ที่มาของเรื่อง ก็สืบเนื่องจากที่ข้าพเจ้า เคยบอกไว้ ในบล็อก “น้ำตกหน้าบ้าน.....อาหารอารมณ์” ว่าจะไปเที่ยวน้ำตกจริงๆ ที่สุราษฎร์ฯ ไหนๆ เมื่อไปมาแล้วก็คิดว่า น่าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มาเล่าสู่กันฟังบ้าง ก็คงไม่เสียหายอะไร

       ตั้งใจว่าจะไม่ให้รบกวน สมช. ในการเล่าเกินไป เลยขออนุญาตรบกวน เล่า เป็นตอน ๆ โดยแบ่ง เป็นสามตอน คือ 

           ตอนแรก “เข้าป่า”  

                 ตอนที่สอง “เที่ยวเขา” และ 

                         ตอนสุดท้าย “เผาข้าว เผากับ” 

       เอาละครับ  เริ่มตอน “เข้าป่า” เลยนะครับ 

      ครั้งแรก พอตระเตรียมสัมภาระ ที่จะนำติดตัวเข้าป่าเสร็จสรรพ ก็มีชาวบ้านที่ขึ้นไปทำสวนอยู่บริเวณเชิงเขา มาบอกว่าตอนนี้อย่าเพิ่งขึ้นไปเลย เพราะ “ผู้ใหญ่เจ้าที่” นำโขลงมาท่องเที่ยว กิน นอนอยู่บริเวณนั้น 

     จึงต้องรอเกือบสัปดาห์ ให้เขาย้ายโขลงไปที่โครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 8 จึงได้เริ่มโครงการ ที่ตั้งใจไว้ 

      ป่าที่ข้าพเจ้าจะไปครั้งนี้ คือป่าอนุรักษ์ เป็นลักษณะป่า Monsoon

      ข้าพเจ้า นุ่งกางเกงขายาว คือให้เหลือขาเปล่าเปลือยยาว ๆ เอาไว้ จะได้ Scan เจ้าตัวทากซึ่งเล็กประมาณไม้จิ้มฟัน ง่ายหน่อย (ที่จริงค่อนข้างยาก เพราะสีทาก Harmonize กับผิวข้าพเจ้า สุดๆ) สวมรองเท้ากันลื่น เพราะเพิ่งขึ้นไปลื่นตกหน้าผาไม่สูงนัก เย็บหน้าไป 5 เข็ม(ไม่มี Sponsor จ่ายเข็มละ 500 นะครับ) เอาสัมภาระ คล้องไหล่ ใส่หลัง เสร็จ แหงะหน้ามองแห่งหน ที่จะด้นดั้นไป ผจญภัยคราวนี้ ก็พลันแวบถึงอิทรวิเชียรฉันท สมัยเรียนมัธยม บทที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสมองที่เริ่มเสื่อมโทรม เพราะถูกความหลงลืม เข้ากัดกิน ไปหลายส่วน

       ที่ข้าพเจ้ายังพอจะจำได้ก็เพราะ เป็นบทกวีที่บรรยายได้อรรถรส ทั้งภาษา ภาพพจน์ ประทับใจ จึงยกมาร่ายบรรยายภาพนี้ ดีกว่าจะเล่าเอง

 

 

    “ยอดมัวสลัวเมฆ  รุจิเรข เรียงราย   นี่แหละ คือ จุดหมายครั้งนี้ .... 

 

     ชาวบ้านเรียกว่า “เขาหนอง” อยู่ในเทือกเขาหลวง แต่มิใช่จะขึ้นไปจนถึงยอดหรอกครับ จะขึ้นไป ก็ประมาณ หนึ่งในสี่ ของความ  สูงทั้งหมด

 

 

ภาคพื้น พนารัญ   จรแสน สราญรมณ์ 

  ลักษณะ และความหลากหลายทางพันธุกรรมพืชบริเวณเชิงเขา ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่า ต่อจากนี้ไปข้าพเจ้า กับเพื่อนร่วมทางอีกหนึ่งคน(คราวนี้มีเพื่อนร่วมทาง เผื่อเกิดอะไรขึ้นเช่นครั้งก่อน จะได้ช่วยนำร่างไร้สภาพกลับ) จะต้องเริ่มเหนื่อยมากขึ้น และต้องเริ่มระวังตัวทากมากขึ้น เพราะความชื้นและความรกของป่าเริ่มมากขึ้น พอๆ กับการที่ต้องระวังเจ้าถิ่นร่างใหญ่

 

 

     “เนิน...ราบ  สลับสม    พิศเพลิน เจริญใจ 

     ทั้งเนิน...ทั้งราบ สลับสมกับวัยข้าพเจ้าจริงๆ ถ้าสลับไม่สม ข้าพเจ้าคงไม่มีภาพต้นไม้แปลกๆ เช่นผักกูด อภิมหายักษ์ หรือน้ำตก มาให้ สมช. ดู 

     นี่...เพิ่งเริ่มหนังตัวอย่าง นะครับ  ปีนเนินพอเหงื่อท่วม หายใจฟืดฟาด ก็ถึงราบ พักเอาแรงนิด กวาดตาดูไปรอบๆ เพลิดเพลินใจดีครับ และที่ได้มาด้วยโดยไม่ต้องการเอา คือเจ้าตัวเล็ก  ขนาดระวังแจแล้วเชียว ยังเข้าไปซุกในร่องง่ามนิ้วเท้า ขาหนีบ ในร่มผ้าแนวขอบสะเอวกางเกง ได้อย่างเงียบกริบ รู้ก็ตอนเห็นเลือดนู้นละ(ตกใจ คิดว่ามีรอบเดือน)

 

 

 

    บริเวณที่เลยเชิงเขาขึ้นมา  พอควร ยังมีปุดต้นใหญ่

  (เส้นผ่าศูนย์กลาง1-1.5) ที่ชาวบ้านเรียกปุดช้าง ให้เห็นเยอะ ชาวบ้านนำหน่อของปุดชนิดนี้ ไปเป็นผัก ใช้แกง หรือต้มจิ้มน้ำพริก (ทำนองเดียวกับหน่อกะลา ที่เกาะเกร็ด) ตั้งใจไว้ว่า จะให้เป็น หนึ่งในเมนูมื้อกลางวัน

 

 

 

    เดินขึ้นไปอีก .... หวาย หลายชนิด พร้อมพวงผล เริ่มมีให้เห็น มากขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

      สูงขึ้นไปอีก...... ไม้ยืนต้น ขนาดโต นาๆ ชนิด

ผสมผสานกับ หวาย และเถาวัลย์ เริ่มหนาแน่น 

     นี่....ต้นส้มแขก (ที่หมู่บ้านคีรีวง เรียกส้มกันดาน)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     นี่...... ต้นเหรียง  ฤดูนี้ยังไม่มีฝัก เลยเอาแต่ต้นมาให้ดู เม็ดมันเคยนำเสนอแล้วใน “แกงคั่วถั่วงอกยักษ์...แกงปักษ์ใต้”

 

 

 

 

 

 

 

     เอาละครับ ..... ระยะทางต่อจากนี้ เตรียมตัว ..... เที่ยวเขา ปีนผา พาดูถ้ำ กันต่อก็แล้วกัน  

    แต่ตอนนี้ .... เหนื่อยครับ ... จะรีบไปไหน ๆ ..... ขอพักสักหน่อย...เถอะครับ 

แล้วค่อยพบกัน วันปีนเขา .... คราาาบ

ความเห็น

อย่าว่าแต่ขึ้นเขาเลยลุงพาโล  แค่ขึ้นควนยังลิ้นห้อยเลย  ขอนั่งดูลุงพาโลปีนเขาอย่างเดียวไม่ตามไปด้วยนะ     :bye:

แต่สนุก ขอตามหลังไปด้วย แต่ทากไม่เอา หวีด.....แน่


:desperate:

ขอเดินตามหลังคนกัน พี่ บายใจจังนิ ขึ้นเขาพันนี้

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

น่าหนุกจัง... ทากเกาะก้าแกะออก อิๆๆ

เห็นลุงขึ้นเขา แล้วคิดถึงพ่อจัง

เห็นลูกหวาย ก็ยิ่งคิดถึง

ทากก็ไม่กลัว เพราะเคยโดนกัดมาแล้ว

ขอไปด้วยนะคะ จะไปเก็บลูกหวาย 

มาตำส้มใส่ปลาร้า อิอิ

บรรยากาศแบบนี้ รู้สึกคุ้นเคยยังไงไม่รู้สิคะ


ลูกอิสานกันดารแท้ แต่บ่อเหี่ยวทางน้ำใจเด้อ
หากแหม่นใหลหลั่งรินปานฝนแต่เมืองฟ้า
มาเด้อพวกพี่น้อง สานสัมพันธ์ให้มันแก่น
ให้ยืนยาวแนบแน่นพอปานปั้นก้อนข้าวเหนียว เด้อพี่น้อง

ไม่มีปัญญาปีนค่ะ ขอส่งใจไปล่ะกันนะคะ แอบดูรูปที่ป๋าถ่ายมาละกันค่ะ

 

เห็นแล้วแก้วหน้าม้าในป่า(รูป2)  สวยจัง

ที่ใช้สายตา อารมณ์ ดื่มด่ำ


รอ..รอเติมต่อ อีกเต็มคำ

เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด  ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่

คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู

:crying: ขอตามไปด้วย

ตามมาเที่ยวด้วยครับ ลุงPaloo ผมชอบเดินป่า แต่ไม่รู้จักต้นไม้มาก หลอกครับ รู้จักไม้ป่าไม่มาก ถ้ามีโอกาศได้ไป กับ ผู้รู้ คงได้เรียนรู้ อีกเยอะ เลย