ปรัชญาชีวิตในวิถีของ โจน จันได จาก ผู้จัดการออนไลน์

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ปรัชญาชีวิตในวิถีของ โจน จันได จาก ผู้จัดการออนไลน์
เขียนโดย ธนา อุทัยภัตรากูร

โจน จันได ลูกชาวนาแห่งยโสธร
ผู้เชียวชาญในการสร้างบ้านดิน ของประเทศไทย
เดินทางไปรอบโลกเพื่อนำเสนอแนวทางในการสร้างบ้านดิน
นักปราชญ์ที่มีแนวคิดในการดำรงค์ชีวิตอย่างมีความสุขและเรียบง่าย
จนได้รับการขนานนามจากรายการเจาะใจ ว่า "คนจนผู้ยิ่งใหญ่"

กับปรัชญาชีวิตในวิถีของ โจน จันได

"ชีวิตมันเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่เราทำให้มันยากเอง
และอันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ผมได้เรียนรู้คือ
ใช้เวลาไม่มากนักในการหากิน มันเหลือกินแล้ว
แต่เราใช้เวลาเยอะมากในการหาเพื่อครอบครัว
ฉะนั้นใช้ชีวิตให้ง่ายดีกว่า
หลังจากนั้นมา ผมก็เชื่อในเรื่องชีวิตนี้มันง่ายมาตลอด
ทำไมต้องทำให้มันยาก
ก็เลยเปลี่ยนชีวิตผมมาตลอดเลย
ไปอยู่บ้านผมยิ่งสบาย ผมพยายามที่จะพูดกับคน
คนที่เย็บหมอนที่บ้านว่าทำหมอน
หมอนพวกสามเหลี่ยม หมอนหนุน
เย็บหมอนทั้งวันทั้งคืนเพื่อที่มีเงินไปซื้ออาหารจากตลาดมา
วันเดียวหมดมื้อเดียว

ผมบอกว่า ถ้าทำสวนเองเนี่ย อย่างผมเนี่ย
ดูแลสวนแค่ 10-15 นาทีต่อวันเนี่ย
ผมมีผัก มีมะละกอ มีอะไรให้ครอบครัว 5-6 คนอยู่ได้สบาย
ทำงานแค่ 15 นาที ทำไมต้องไปนั่งทำงานตั้งวันละ 10 กว่าชั่วโมงนี่
มันก็ทำให้ผมเห็นว่าชีวิตมันง่าย แต่อธิบายให้คนเข้าใจไม่ได้"

"รอน้ำผักแค่วันละ 15 นาที
แต่บางอาทิตย์อาจจะใช้เวลามากกว่าเป็นชั่วโมงก็มี
บางครั้งก็อาจจะไปหาขี้วัว หาอะไรมาใส่ด้วย
ซึ่งมันไม่บ่อยนักหรอกนะแค่ครั้ง สองครั้ง
แต่ปกติแล้ว 15 นาที ถือถังตักน้ำแล้ก็เดินมารดผัก"
"ทำปุ๋ยหมักใช้เอง"

เขาเริ่มทำบ้านดินหลังแรกจากความคิด
ผสมกับที่ได้เห็นภาพการทำบานดินในหนังสือของฝรั่ง
เมื่อสำเร็จหลังแรก ก็ทำหลังต่อๆมา
ให้กับชุมชนในหมู่บ้าน
จนกระทั่งมีชื่อเสียง
ได้รับเชิญเป็นวิทยากรแนะนำการสร้างบ้านดิน
เป็น work shop ที่มีสมาชิกเข้าร่วม มากมาย


ในความเห็นของโจน
"การทำบ้านดินไม่ใช่เป้าหมายหลัก ของการทำ Work Shop ที่เราทำอยู่
เป้าหมายหลักก็คือ หัดทำอะไรพึ่งตนเอง
กลับมาสร้างศักยภาพให้มนุษย์เป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกับสัตว์ทั่วๆ ไป
แต่เพราะทุกวันนี้มีศักยภาพของมนุษย์ต่ำกว่าสัตว์ทุกชนิดในโลกนี้ซะอีก
เพราะเราขาดการรักษามรดกในการพึ่งตนเอง คนบางคนก่อไฟไม่เป็น
ทำอาหารไม่เป็น นั่นหมายความว่าศักยภาพในชีวิตมันต่ำลง
ฉะนั้นเราต้องกลับมาพึ่งตนเอง

การทำบ้านดินเป็นส่วนหนึ่งของการพึ่งตนเอง อาหาร บ้าน ผ้า และยาเนี่ย
ก็มาคุยเรื่องนี้แหล่ะ เพราะว่าชีวิตมันไม่มีความหมายหรอก
ถ้าคนเราพึ่งตัวเองไม่ได้ เพราะว่าอิสรภาพมันก็สูญเสียไป
ความภูมิใจในตัวเองก็ไม่มี คุณค่าของชีวิตเราก็มองไม่เห็น
เพราะแค่ไม่ได้ใช้แรงงานทำงานเนี่ย
ชีวิตก็เป็นเรื่องที่เลื่อนลอยไปแล้ว
คนทำงานในเมืองเนี่ยไม่รู้ว่าชีวิตเพื่ออะไร
หาเงินอย่างเดียว เพราะไม่มีเวลาว่าง

การทำงานคือการมีเวลาว่าง
มีเวลาว่างให้กับสมองของเรา ถ้าสมองมีเวลาว่างมันก็จะเห็น
มันก็จะมีความเงียบ
พอความเงียบเกิดขึ้นมันก็จะเห็นความงามได้
ถ้าเห็นความงามได้ ชีวิตก็มีความสุขได้
แต่ชีวิตทุกคนในเมืองไม่มีโอกาส เพราะมันยุ่งกับงานตลอด
แต่เรื่องงานกลุ้มหนักๆ ตลอด
แต่ถ้าทำงานหนักปุ๊บเนี่ย โลกจิตโลกความเครียดต่างๆ มันหายไป
ปัญหาของความเครียดที่มีมากมายในโลกนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งจิตแพทย์เลย
แค่กลับมาทำงานหนักเท่านั้นเอง หายหมด


อันนี้เห็นชัดในหลายๆ กรณี เพราะคนที่มานี่เราก็คุยกัน
หลายคนเขาเครียดมา มาเพราะเครียด เรื่องครอบครัว
เรื่องงาน อยากหนีจากสิ่งเหล่านั้น ถึงได้มา
แต่พอมาแล้วมันลืม อาการปวดหัวมันหายไป
เป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง เพราะเราใช้ร่างกายไม่มีความสมดุล
ทำให้เกิดความผิดปกติ

ฉะนั้นคนชั้นกลางที่มาร่วม Work Shop ถึงได้ถูกอกถูกใจกัน
มักจะมีครั้งที่ 2 แทบทุกคนเลย
เพราะว่าการทำงานเนี่ยมันน่าเบื่อ
แต่ถ้าทำอะไรที่ไม่รู้สึกว่าเป็นงานมันสนุก
อย่างทำบ้านดินไม่มีใครรู้สึกว่ามันเป็นงานเลย เรามาเล่นดินกัน"

รูปพี่โจ เป๊กกี้ และน้องธาร




โจนกับลูกและภรรยาชาวอเมริกัน
"เพ็กกี้" หญิงที่รักงานด้านเอ็นจีโอจากโคโลราโด
ผู้เป็นลูกสาวคุณหมอและอาจารย์
แห่งครอบครัวคนชั้นกลางที่มีอันจะกิน
วันนี้เลือกที่จะมาลงหลักปักฐานกับหนุ่มโจน
ในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

ความเห็น

แบบนี้และที่ต้องการ  แต่จะเริ่มจากไหนละในเมื่อเราไม่มีต้นทุนของชีวิต..เนื่องจากต้นทุนเดิมเราใช้มันหมดไปแล้วด้วยความไม่เข้าใจ...และตอนนี้เป็นหนี้บานตะไท...

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

เห็นด้วยเลยค่ะ  แล้วเราจะเริ่มต้นอย่างไร     

แบบอย่างชีวิตน่าศึกษา นำส่วนดีมาเป็นตัวอย่างครับ

 

ชีวิติที่พอเพียงจริงๆค่ะ

แบ่งปันน้ำใจส่งต่อกันไป ....ไม่รู้จบ

แบบนี้ก็พอแล้ว จริงๆ

สำหรับปกติชีวิตมนุษย์


ลูกอิสานกันดารแท้ แต่บ่อเหี่ยวทางน้ำใจเด้อ
หากแหม่นใหลหลั่งรินปานฝนแต่เมืองฟ้า
มาเด้อพวกพี่น้อง สานสัมพันธ์ให้มันแก่น
ให้ยืนยาวแนบแน่นพอปานปั้นก้อนข้าวเหนียว เด้อพี่น้อง

ประทับใจค่ะ

เนื้อเรื่องมีรายละเอียดน้อยไปหน่อยใครช่วยเติมเต็มให้หน่อยได้ไหมอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้  และน่าจะมีตัวอย่างรายอื่นอีกบ้างเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตครับCool

ถวายพระพรในหลวง

อีกข้อที่ลงไว้ก่อนนี้

แนวคิด-ปรัชญาชีวิตของโจน จันได

อื่น ๆ ทยอยเพิ่มเติมรออ่านได้ที่นี่หรือใน บล๊อกผมที่นี่ pai forest home ครับ

ช่วงนี้กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เพิ่มเติม  พบอะไรน่าสนใจก็เลยเอามาฝากเพื่อน ๆ แถวนี้เพราะแนวทางน่าจะไปกันได้

มีบันทึกรายการทีวีที่คุณ โจน ออกเรื่องบ้านดินและวิถีชีวิตอีกสองสามรายการ

เอาคนนี้มาลงก่อนเพราะผมกำลังจะแวะไปดูการสร้างบ้านดิน  ไปเก็บภาพ  หาความรู้และขอเมล็ดพันธ์พื้นเมืองมาอนุรักษ์มาแจกต่อไป  อาจจะไปไม่เดือนนี้ก็เดือนหน้าครับ

คุณโจ จันได  เป็นที่ชื่นชอบมานานแล้ว  อ่านประวัติและผลงานเกี่ยวกับบ้านดิน เพราะอยากเข้าครอสการทำบ้านดินอยู่เหมือนกันแต่ยังบริหารเวลาไม่ได้ค่ะ

                                        พี่ปัจ