ต้นอะไรครับ #2

ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณเพื่อนสมาชิกที่ช่วยไขปัญหา "ต้นอะไรครับ #1" ในสัปดาห์ที่แล้ว  ซึ่งคือต้น 1. สาบแร้งสาบกา 2.ครอบจักรวาล และ 3.ผักไผ่น้ำ  ความรู้จากสัปดาห์ที่แล้วทำให้ผมแยกต้นสาบแร้งสาบกาออกจากต้นสาบเสือได้  ทำให้ตอนนี้หาต้นสาบเสือเจอแล้วแต่ ผบ.ทบ. ก็ยังบอกว่าเหม็นมาก (ไม่เห็นบอกว่าหอมเหมือนพี่โจสักที 555) สัปดาห์นี้เช่นเคยมีรูปต้นไม้มาขอความกระจ่างจากกูรูทั้งหลายอีกแล้วครับ

1. ลักษณะเป็นไม้เลื้อยคล้ายตำลึง  ต้นไม่สูงนักเติบโตปนกับหญ้า รูปใบมนโค้งผิวเรียบปลายใบแหลมโดยแยกเป็นสามแฉก บริเวณใกล้โคนก้านใบมีแฉกแหลมเล็กเรียงตรงกันข้ามสลับกัน ดูจากลักษณของผลอ่อนแล้วน่าจะเป็นต้นกระทกรก (เนื้อไม้ ใช้เป็นยาควบคุมธาตุ ถอนพิษเบื่อเมาทุกชนิดและใช้รักษาบาดแผล ราก ใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไข แก้กามโรค ใบ ใช้ตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาน้ำดื่มเป็นยาเบื่อและขับพยาธิ ดอก ขับเสมหะ แก้ไอ ผล แก้ปวด บำรุงปอด ใบสด ใช้พอกแก้สิว ต้น ใช้ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ และอาการบวม)  จะรอให้ผลสุกจะเอามาลองทานดู  รบกวนกูรูช่วยยืนยันว่าใช่ต้นกระทกรกจริงหรือเปล่าด้วยครับ

2.ต้นที่สองสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตรขึ้นปนกับหญ้าเช่นกัน  มีใบเรียวยาวสีม่วงแดง (ใบไม่ยัก)  ลำต้นสีม่วงแดงมีดอกเป็นสีขาวแฉกตามข้อ/ซอกใบ  ตอนแรกผมคิดว่าคือ "ขอบชะนางแดง" ซึ่งคนเก่าคนแก่มักจะเอาต้นและใบมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ไปโรยปากไหปลาร้าหนอนจะตายหมด หรือใช้ฆ่าแมลงอย่างอื่นก็ได้ ชาวบ้านจึงเรียก "หญ้าหนอนตาย" (ไม่ใช่ต้นหนอนตายหยากนะครับ) หากนำทั้งต้นย่างไฟให้แห้งกรอบ มาชงกับน้ำเดือด เป็นยาขับพยาธิในเด็กได้ดี เปลือกต้นช่วยดับพิษในกระดูก และเส้นเอ็น หรือต้มผสมเกลือรักษาโรครำมะนาด ขับเลือด ขับระดูขาว และขับปัสสาวะ

แต่เมื่อดูใกล้ๆ จะพบว่าไม่น่าจะใช่ เพราะดอกของขอบชะนางออกสีแดงกว่านี้  ลักษณะใบของขอบชะนางจะกว้างที่สุดตรงใกล้โคนใบ  แต่ต้นนี้จะกว้างสุดตรงช่วยกลางใบ  และสุดท้ายขอบชะนางที่เคยเห็นจะไม่ค่อยแตกกิ่งแบบต้นที่เห็น  ต้นขอบชะนางจะเป็นกิ่งเดี่ยวๆยาวๆ  ฤ...ต้นนี้จะเป็นเพียงวัชพืชชนิดหนึ่ง  คงต้องรบกวนกูรูช่วยยืนยันอีกครั้ง