ประโยชน์ของผัก ๓๗ ชนิด

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ผัก ๓๗ ชนิด (สำคัญที่สุดคืออันสุดท้าย ไม่กินไม่ได้แล้ว)


                ๑ สะเดา ( Neem tree) มีเบต้าแคโรทีนสูง บำรุงสายตา เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้นอนหลับ


                     ๒ ผักกาดขาว ( Chinese white cabbage) ช่วยระบบย่อยอาหารขับปัสสาวะ แก้ไอ มีโฟเลทสูงบำรุงคุณแม่ตั้งครรภ์


                ๓ ต้นหอม ( Shallot)มีน้ำมันหอมระเหยบรรเทาอาการหวัด มีสารฟลาโวนอยด์ต้านมะเร็ง


                ๔ แครอท ( Carrot) เบต้าแคโรทีนป้องกันโรคมะเร็งมีแคลเซียม แพคเตท ลดระดับคลอเลสเตอรอลได้


                ๕ หอมหัวใหญ่ ( Onion) มีสารฟลาโวนอยด์ช่วยลดอาการของโรคหัวใจ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด


                ๖ คะน้า ( Chinese kale)มีแคลเซียมและสารต้านอนุมูลอิสระสูงป้องกันโรคกระดูกพรุน และมะเร็ง


                ๗ พริก ( Chilli) มีแคปไซซินกระตุ้นการขยายตัวของหลอดเลือดช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ


                ๘ กระเจี๊ยบ เขียว ( Okra) ลดความดันโลหิตบำรุงสมอง ลดอาการกระเพาะหรือลำไส้อักเสบ


                ๙ ผักกระเฉด( Water mimosa) ดับพิษไข้กากใยช่วยระบบขับของเสีย เพิ่มการเผาผลาญสารอาหาร


                ๑๐ ตำลึง ( Ivy gourd)   มีวิตามินเอสูงดีต่อดวงตา เส้นใยจับไนเตรต ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร


                ๑๑ มะระ ( Chinese bitter cucumber) มีแคลเซียมฟอสฟอรัส เป็นยาระบายอ่อน ๆ น้ำคั้นลดระดับน้ำตาลในเลือด


                ๑๒ ผักบุ้ง ( Water spinach) บรรเทาอาการร้อนในมีวิตามินเอบำรุงสายตา ธาตุเหล็กบำรุงเลือด


                ๑๓ ขึ้นฉ่าย ( Celery) กลิ่นหอมช่วยเจริญอาหาร มีวิตามินเอ บี และซี บำรุงสมองป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด


                      ๑๔ เห็ด ( Mushroom)แคลอรีน้อยไขมันต่ำ มีวิตามินดีสูง ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเสริมกระดูกและฟัน


                      ๑๕ บัวบก ( Indian pennywort) มีวิตามินบีสูงช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย บำรุงสมองและความจำบำรุงผิวพรรณลดอาการ  อักเสบ


                ๑๖ สะระแหน่ ( Kitchen mint) กลิ่นหอมเย็นของใบให้ความสดชื่นทำให้ความคิดแจ่มใส แก้ปวดหัว


                ๑๗ ชะพลู ( Cha-plu) รสชาติเผ็ดเล็กน้อยแก้จุกเสียด ขับเสมหะ มีแคลเซียมสูง


                ๑๘ ชะอม ( Cha-om) ช่วยลดความร้อนในร่างกายขับลมในลำไส้ มีเส้นใยคอยจับ อนุมูลอิสระ


                ๑๙ หัวปลี ( Banana flower)    รสฝาดแก้ร้อนใน กระหายน้ำ และบำรุงน้ำนม มีกากใยโปรตีน และวิตามินซีสูง


                ๒๐ กระเทียม ( Garlic) ลดไขมันในเลือดป้องกันหัวใจขาดเลือด ใบกระเทียมมีโฟเลท เหล็กวิตามินซีสูง


                ๒๑ โหระพา ( Sweet basil) น้ำมันหอมระเหยทำให้โล่งจมูกช่วยระบายลม มีเบต้าแคโรทีนแคลเซียม


                     ๒๒ ขิง ( Ginger) บรรเทาอาการหวัดเย็นลดอาการคัดจมูก รสเผ็ดร้อน แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ


                ๒๓ ข่า ( Galangal)   น้ำมันหอมระเหยช่วยระบบย่อยอาหารขับลม มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา


                ๒๔ กระชาย ( Wild ginger) บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อบำรุงธาตุ มีวิตามินเอและแคลเซียม


                ๒๕ ถั่วพู ( Winged bean) ให้คุณค่าทางอาหารสูงมีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และสาร ช่วยย่อยกรดไขมันอิ่มตัว


                ๒๖ ดอกขจร ( Cowslip creeper) กระตุ้นให้รู้รสอาหารให้พลังงานสูง ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตโปรตีน ไขมัน


                ๒๗ ถั่วฝักยาว ( Long bean) มีเส้นใยช่วยลดคอเลสเตอรอล มีวิตามินซี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กบำรุงเลือด


                ๒๘ มะเขือเทศ ( Tomato) มีวิตามินเอสูงวิตามินซี รสเปรี้ยว ช่วยกระตุ้นน้ำย่อยและแก้อาการคอแห้ง


                ๒๙ กะหล่ำปลี ( White cabbage) มีกลูโคซิโนเลทเมื่อแตกตัวจะเป็นสารต้านมะเร็ง และมีวิตามินซีสูง


                ๓๐ มะเขือพวง ( Plate brush eggplant)  ช่วยให้เจริญอาหารและช่วยลดความดันเลือดมีแคลเซียม และฟอสฟอรัส


                ๓๑ ผักชี ( Chinese paraley)    ขับลมบำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร มีน้ำมันหอมระเหยแก้หวัด มีวิตามินเอและซีสูง


                ๓๒ กุยช่าย ( Flowering chives) มีกากใยช่วยระบายของเสียมีธาตุเหล็กช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง


                ๓๓ ผักกาดหัว ( Chinese radish)   แก้ไอขับเสมหะ เพิ่มภูมิต้านทางโรค มีสารช่วยให้กระเพาะอาหารและลำไส้บีบตัวได้ดี


                ๓๔ กะเพรา ( Holy basil)  แก้อาการจุกเสียดแน่นท้องมีเบต้าแคโรทีนสูง ป้องกันโรคมะเร็ง และโรคหัวใจขาดเลือดได้


                ๓๕ แมงลัก ( Hairy basil) ช่วยย่อยอาหารป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ขับลม ขับเหงื่อ


                ๓๖ ดอกแค ( Sesbania) กินแก้ไข้ช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงเป็นยาระบายอ่อน ๆ มีวิตามินเอสูงบำรุงสายตา


                      ๓๗ หญ้าอ่อน  กินเพิ่มความคึกคัก ให้กระชุ่มกระชวย กระตุ้นหัวใจสูบฉีดเลือด ทำให้เลือดหมุนเวียน และนำอาหารไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ได้ดี (โดยเฉพาะวัวแก่ ควรระวังหัวใจจะวายเอา)

ความเห็น

สงสัย ต้องหามาทานบ้างแล้ว ลำดับที่ 37  :uhuhuh:

น้ำท่วมหญ้าอ่อนเน่าหมดแล้วจ้า.....


:nonono:


 

หญ้าอ่อนทานแล้วท้องเสีย  ยิ่งทานบ่อย ๆ อาจทำให้อายุสั้นได้

:uhuhuh:

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

ยังไม่ได้ทานใช่มั๊ย แต่รู้

เพื่อนบอก

:uhuhuh:

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

:uhuhuh:  ลำดับสุดท้ายนี่ อันตรายอย่างยิ่งนะเนี่ย

"ความสุขของชีวิตในวันนี้ คือทำตามวิถีพอเพียงของพ่อ"

น้องบี: อันตรายอย่างยิ่งน่ะ หญ้าอ่อน หรือ วัวแก่ ละน้อง :uhuhuh:

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ใช่แล้วพี่เสิน  ถามให้ชัดไปเลย

:uhuhuh:

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

:good-job:

ลำดับที่37 ชอบมากๆๆ ยอมตาย

หน้า