เมื่อ ภัยทางน้ำมาเยือน...ภาค 2

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ขอบคุณน้ำใจและมิตรภาพ.....ที่มากับวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้



เล่าต่อจากภาคที่แล้วนะคะ...


เช้าวันที่ 4 พ.ย. 54 น้ำเริ่มล้นท่อระบายน้ำ เข้าท่วมถนนในซอยบ้าน  เริ่มเปิดท่อระบายน้ำหน้าบ้านเพื่ออุดไม่ให้น้ำเข้า เอากระสอบทรายอุดบ่อพักบ่อแรกที่หน้าบ้าน



ช่วงเช้า ประมาณ 6 โมงเช้า น้ำขึ้นเร็วมาก แต่ไม่เร็วเท่าที่ท่วมใน อ.บางบัวทอง เพราะที่นั่นเค้าท่วมแบบเขื่อนแตก แต่ที่นี่เป็นน้ำหลากมา พอน้ำล้นบ่อพัก  ก็ใช้ไดโว่สูบน้ำออกจากบ่อพักบ่อที่สอง ก่ออิฐแดงบ่อพักบ่อที่สอง เพื่อให้บ่อพักสูงขึ้น  บ่อที่สาม สี่ และห้าด้วย การก่ออิฐบล็อกรอบบ่อให้สูงกว่าระดับน้ำนอกบ้าน เพื่อเวลาน้ำซึมเข้ามาจะได้ไม่ล้นเข้าบ้าน ผบ.คิด ณ วันที่น้ำท่วมเลย โชคดีที่มีของอยู่ในบ้าน แล้ว



เนื่องจากบ้านเราเป็นบ้านเก่าสร้างมา 30 กว่าปีแล้ว ทำให้มีปลวกในหลาย ๆ ที่ ยาแนวกระเบื้องหลุด วงกบประตูใต้พื้นผุกร่อน ถูกปลวกกิน เป็นรูใต้พื้นบ้านน หลาย ๆ อย่างที่คิดว่ารอบคอบแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่ เช่น ท่อน้ำทิ้งเครื่องซักผ้าต้องต่อท่อขึ้นมาให้สูง เมื่อน้ำเยอะขึ้น แรงน้ำดันจากใต้พื้นซึมตามวงกบ  เพื่อนบ้านบางบ้านทะลุกลางพื้นกระเบื้องในบ้าน ทำให้ท้อ และยอมแพ้ในที่สุด



ประมาณ 9.45 น. น้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในบ้านยังกันน้ำได้อยู่  หลาย ๆ บ้าน น้ำเริ่มเข้าในบ้านแล้ว 


บ่ายสองโมงครึ่ง น้ำเริ่มสูงขึ้น น้ำเริ่มเข้าบ่อพักสูงและเร็วขึ้น ผบ. ต้องก่อกำแพงรอบบ่อทุกบ่อด้วย อิฐบล็อกอีกหนึ่งชั้น เพื่อกักน้ำไว้ในบ่อพัก เอากระสอบทรายบังด้านนอกอีกที เพื่อไม่ให้แรงดันน้ำทำให้อิฐบล็อกพัง (อิฐบล็อกขอยืมเพื่อนบ้าน ที่กำลังสร้างบ้านมา 15 ก้อน)



อุดท่อบ่อพักแล้ว หน้าบ้านก็กั้น น้ำซึมนิดหน่อย    ผบ.หาสาเหตุที่น้ำเข้าบ่อพัก พบว่าน้ำไม่เข้ามาทางท่อระบายน้ำในบ้านเพราะอุดที่บ่อพักบ่อที่หนึ่งไว้ และด้านหน้าบ้านก็ซึมเล็กน้อย แต่น้ำซึมเยอะมาจากดิน และปูนซีเมนต์ที่ฉาบไม่เรียบ รอบบ่อพัก ทำให้น้ำซึมเข้ามาเร็วมาก นี่คือสาเหตุที่ทุกบ้านในซอย กั้นกระสอบทราย อุดบ่อพัก อุดห้องน้ำแล้ว แต่น้ำยังเข้าบ้านได้


อุดท่อระบายน้ำที่ห้องน้ำแล้ว แต่ก็ยังมีน้ำซึมขึ้น มา หาไม้มากันหน้าประตูไม่ได้ จัดการเอาเลื่อยไฟฟ้ามาเลื่อยประตู ทำเป็นที่กักน้ำหรือแก้มลิง ที่เข้าในบ้านซะเลย ประตูครึ่งล่าง ปิดทับด้วยพลาสติกติดขอบด้วยซีลีโคน ที่พื้นวางทับด้วยกระสอบทรายอีกที เสียประตูห้องน้ำไป 1 บาน จริง ๆ กะจะเปลี่ยนเป็นแบบ พีวีซีตั้งนานแล้ว เลยได้โอกาส


หน้าบ้าน ตอนเย็น  วันนี้รถยังพอวิ่งได้ ตอนเย็น ผบ. เลยนั่งรถไปสำรวจด้านหน้าหมู่บ้าน. กลับเข้ามาดูที่หน้าบ้าน น้ำยังสูงขึ้น ในบ้านน้ำล้นขึ้นมาจนถึงใต้ท้องรถ ก็จะเสียบไดโว่สูบออกครั้งนึง ต้องคอยเฝ้าดูไม่ให้น้ำล้นเกินไป



ในบ้านและหน้าบ้านเวลา ตอนเย็น



เช้าวันที่ 5 พ.ย.54 น้ำเพิ่มสูงขึ้นถึงครึ่งหน้าแข้ง ยังใส่รองเท้าบูตเดินได้  เพื่อนบ้านเริ่มอพยพออกจากบ้าน




วันที่ 6 พ.ย.54  ผบ. อุดรอยรั้วหน้าประตู   เพิ่มไดโว่ตัวเล็กของบ้านพี่ชายที่ยอมแพ้ อพยพไปเช่าห้องอยู่ที่อื่น    เอาพัดลมเป่า ไดโว่ตัวใหญ่



เพื่อนบ้าน สู้ไม่ไหว ก็เลย ยกกระสอบทรายกับอิฐบล็อกให้บางส่วน  ตอนเย็นน้ำเริ่มดัน ไหลขึ้นมาทางใต้วงกบประตู และขอบยาแนวกระเบื้องพื้นบ้าน  ผบ. นึกถึงภูมิปัญญาชาวบ้านได้ เอาดินเหนียวผสมกับปูนซีเมนต์ ปั้นให้เหมือนดินน้ำมัน แล้วอุดตามรอยรั้ว (ดินเหนียวขุดจากสนามหน้าบ้าน ส่วนปูนซีเมนต์ พ่อให้ไว้ก่อนน้ำท่วม 2 ถุง)



วันนี้เพื่อนบ้านหลังสุดท้าย เค้าสู้ไม่ไหว เลยให้ยืมไดโว่อีกตัว เอาไว้คอยสลับกัน ด้วยความมีน้ำใจของ ผบ. ทำให้ได้รับไมตรีตอบแทนจากเพื่อนบ้านหลาย ๆ อย่าง ช่วงที่น้ำเริ่มเข้าบ้านกัน เมื่อบ้านเราเริ่มควบคุมน้ำได้ เค้าก็ไปช่วยเพื่อนบ้านติดตั้ง ตัดต่อ สารพัดจะช่วย กลางคืนก็ไม่ค่อยนอนคอยตรวจตราในซอยบ้านตลอด กลัวขโมยเข้ามา ทำให้เพื่อนบ้านวางใจ มอบเสบียงที่เค้าตุนไว้ในเราขอเบอร์โทรเพื่อติดต่อสอบถามสถานการณ์น้ำตลอด กลายเป็นปู่โสมเฝ้าซอยกันสองคน...


คืนนี้เป็นคืนแรกที่ทั้งซอยไม่มีเพื่อนบ้านเลย อยู่กันสองคน แม่ใบตองเอาลูกสาวกับน้องหมาไปฝากบ้านแม่ไว้ ทำให้เงียบเหงา วังเวงมาก จากซอยที่มีคนเข้าออก มีเสียงรถ กลับมองไปมีแต่น้ำเวิ้งวาง น่ากลัวทะมึนเชียว


ช่วง 3 วันแรกที่น้ำท่วม แทบไม่ได้นอนเลย คอยหาวิธีควบคุมระดับน้ำที่จะเข้าบ้าน แล้วเราก็ยังไม่รู้ว่าน้ำจะสูงแค่ไหน



วันที่ 7 พ.ย.54 เริ่มควบคุมน้ำไม่ให้เข้าบ้านได้ แต่ต้องคอยเปลี่ยนสลับปลั๊กไดโว่ อยู่ตลอด  ผบ. เลยให้ออกไปซื้อ สวิตซ์ตัดอัตโนมัติ (ลูกลอยไฟฟ้า) มาติด เดินลุยน้ำไปหน้าหมู่บ้าน โบกรถโฟรวิลล์ ออกไปซื้อปากทาง เ แล้วนั่งรถสิบล้อของหมู่บ้านแลนด์แอนด์เฮ้าส์ กลับมา ใช้เวลาเกือบครึ่งวัน ที่ให้แม่ใบตองออกไปซื้อ เพราะถ้าเราเฝ้าบ้าน แล้วเกิดปั๊บน้ำเสีย พลาสติกมีรอยรั้ว เราจะแก้ไม่ได้ เลยเป็นฝ่ายลุยน้ำไปหาอุปกรณ์เอง


ระหว่างทางก็ถ่ายภาพความเสียหายไปเรื่อย ๆ



ต้นจำปี เหลือแต่ยอด



สวนกล้วยไม้ ตอนแรกนึกว่าป้องกันได้ สุดท้าย รถวิ่งทำให้แรงน้ำดันกำแพงทะลุ น้ำเข้าท่วมสวนทั้งหมด


กลับมาถึงบ้าน ผบ. ก็ ติดตั้งตัวตัดอัตโนมัติ แล้วเสริมกระสอบทรายหน้าบ้าน เชื่อมประตูกันแรงดันน้ำทำล้อประตูหลุดจากราง


เครื่องซักผ้าที่เห็นอยู่ริมรั้ว เป็นเครื่องซักผ้าเก่าที่มีน้ำหนักมาก เอามาช่วยดันประตูไม่ให้แรงดันทำล้อประตูหลุดจากราง



วันที่ 8 พ.ย.54 ติดตัวตัวอัตโนมัติแล้ว ก็ดีขึ้นหน่อย เพราะไม่ต้องคอยเฝ้าระดับน้ำ และเปลี่ยนปลั๊กสลับไดโว่ แต่ต้องคอยฟังเสียงว่าไดโว่ทำงานอยู่หรือไม่ กับสำรวจรอยรั้วหน้ารั้วบ้าน มีเวลาเดินถ่ายภาพบ้านอื่น ๆ ในซอยไว้เผื่อเพื่อนบ้าน



ปีนขึ้นไปบนรั้วเพื่อเก็บภาพมุมสูง เทียบกับน้ำท่วมนอกบ้านกับในบ้าน...


ภาพนี้เทียบกับข้างบ้าน



ภาพนี้ระหว่างถนนหน้าบ้านกับในบ้าน


โชคดีที่น้ำท่วมไม่สูงมาก ประมาณ 80 ซม. ไม่เกินที่คาดการณ์ไว้ น้ำท่วมสูงถึงวันที่ 11 พ.ย.54 แล้วก็เริ่มลดลงวันละประมาณ 2 ซม.



วันที่ 12 พ.ย. 54 คงเป็นวันที่จดจำและพูดถึงไปอีกนาน และหวังว่าคงเป็นครั้งเดียวที่ มีเรือรับจ้างวิ่งเข้ามาถึงหน้าประตูบ้าน 5555 บ้านนี้ทันสมัยจัง มีท่าเทียบเรือหน้าบ้านด้วย...



และคงนับเป็นครั้งเดียวในชีวิต ทีมีโอกาสพายเรือ เพราะเพื่อนบ้านที่เข้ามาดูบ้านเค้าเห็นเราเฝ้าบ้าน เฝ้าซอย เดินลุยน้ำ น้ำกัดเท้า ก็เลยจ้างเรือลากเข้ามาให้ พายเรือเป็นก็คราวนี้แหละ พายอยู่สองอาทิตย์ น้ำจึงลดหมด


เห็นท่าทาง หมูหัดพายเรือไหมคะ...



มีช่อง 3 เข้ามาแจกถุงยังชีพในหมู่บ้าน ที่บ้านจะได้ถุงยังชีพ 4 ชุด จาก สส.ในเขต ช่อง 3 และ อบต.อุดรธานี และได้รับความเอื้อเฟือจากเพื่อนบ้านที่เค้าตุนอาหารแห้งไว้ ยกไข่ให้ทั้งหมด 6 แผง มาม่า เส้นหมี่ วุ้นเส้น ข้าวสาร น้ำมันพืช สารพัด ทำให้มีอาหารแห้งจำนวนมาก เมื่อน้ำเริ่มลดลง มีเพื่อนบ้านในเข้ามากู้บ้าน ผบ.ก็ไปช่วยเค้ากู้ เราก็เอาเสบียงของแห้งที่ได้รับมาไปแจกจ่าย ต่อเพราะเอาไว้ก็ทานไปไม่หมด ไม่ทัน สู้เอาไปเผื่อแผ่คนอื่นบ้างดีกว่า



เหลือบ้านแม่ใบตองหลังเดียวทั้งซอยที่น้ำไม่เข้าบ้าน.......น้ำท่วมครั้งนี้ แต่น้ำใจกลับมีเพิ่มขึ้น ทำให้เรามีมิตรภาพกับคนในหมู่บ้านเพิ่มมากขึ้น เรามีน้ำใจให้เค้า ช่วยเหลือ ดูแล ซึ่งกันและกัน เราฝากของให้เค้า เค้าก็หิ้วของมาฝากเรา มิตรภาพและน้ำใจในการแบ่งปัน กินไม่มีวันหมดจริง ๆ คะ


ณ วันนี้ น้ำแห้งสนิทแล้ว แต่.....คงเหลือไว้แต่เพียงความทรงจำ น้ำใจที่ไม่แห้งเหือดไปตามน้ำ.... มิตรภาพ และขยะกองโตหลังน้ำลด ดีใจคะที่ความรอบคอบ ช่างคิด และน้ำใจ ของ ผบ.ทำให้ที่บ้านรอดพ้นจากภัยทางน้ำครั้งนี้ไปได้ และเป็นอีกหนึ่งบ้านที่ไม่ต้องเพิ่มขยะให้โลกนี้


vvv


ขอบคุณ น้ำใจและการแบ่งปัน จากบ้านสวนพอเพียง


 

ความเห็น

:good-job: เก่งมากๆ เลยครับ  นับถือๆ

“Stupidity is an attempt to iron out all differences, and not to use them or value them creatively.”
― Bill Mollison

:cheer3: คนซอยนี้ น่ารักจัง :love:

""

 

ต้องบอกว่า นายแน่มาก ทั้งสองคนเลย  แต่น้ำท่วมก็ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด  ก็ยังมีสิ่งดี ๆ

เกิดขึ้นด้วย เหมือนน้ำท่วมวัดใจคนเลยค่ะ  เก่งจริง ๆ

เกิดเหตุการณ์แบบนี้ มีดีมีแย่ค่ะ ถ้าดีก็ดีไปเลย ถ้าแย่ก็เจอแบบเห็นแก่ตัวสุด  ๆไปเลย ดีใจด้วยค่ะ:cheer3:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

มีความรู้ มีความรอบคอบ มีน้ำใจ เลยสู้ภัยธรรมชาติได้อย่างสบาย

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

:crying2: เมื่อมีสมาธิในการรับปัญหา  ปัญญาก็เกิดแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ น้องแน่มากๆ

:cheer3:เก่งมากมากเลยค่ะ รอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน เยี่ยมจริงๆค่ะ....

สุดยอดเลย กันน้องนํ้าไม่ให้เข้าบ้านได้  :cheer3:

ชีวิตไม่ได้เกิดมา เพื่อยอมแพ้

อ่านเพลินเลยค่ะ แต่สถานการณ์จริงไม่เพลินเลยนะคะพี่กุ๊ก ยอดเยี่ยมทั้งสองคนตายายเลย  ปีหน้าอย่ามาแบบนี้อีกนะน้องน้ำ ไม่อยากคิดถึงแล้ว....

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

ตอบรวม ๆ นะคะ


ใช่อย่างน้องอารีย์ บอกคะ ของจริงไม่ได้ราบรื่นอย่างที่บรรยาย มีอุปสรรคหลายอย่าง อุปกรณ์ในการป้องกันขณะที่น้ำมาแล้ว มันหายาก ต้องดัดแปลงทุกอย่าง ดีที่มีเครื่องมือพร้อม


ช่วงก่อนน้ำท่วม ก็เหนื่อยมากกับการยกของขึ้นที่สูง ด้วยความละเอียดในการเก็บของ ของ ผบ.เลยค่อนข้างจุกจิก แถมตอนน้ำท่วมก็ทำกันสองคน แม่ใบตองผสมปูน ยกมาให้ ผบ.ก่อ ซึงไม่ใช่งานเบา ๆ บางทีก็เล่นเอาท้อเหมือนกัน คะ


แต่ด้วยความฮึด ก็เลยผ่านไปด้วยดี

หน้า