กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบ มีอยู่สองชนิด คือ กระเจี๊ยบแดง และ การะเจี๊ยบเขียว ที่เรารู้จักกันทั่วไป มักจะเป็น กระเจี๊ยบแดง ที่เอามาต้มเป็น น้ำกระเจี๊ยบ ที่หลายท่าน ชอบดื่ม เพราะ สดชื่น และ มีประโยชน์ นั่นเอง แต่กับ อีกหนึ่งกระเจี๊ยบ คือ กระเจี๊ยบเขียว เป็นอะไรที่ เรา ๆ ท่าน ๆ ถ้าไม่ใช่เด็กบ้านสวน หรือ เด็กต่างจังหวัด ก็คงไม่รู้หรอก ว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร มีคุณค่า ประโยชน์อย่างไร วันนี้เลยเอามาฝากกัน
สรรพคุณทางยา
กระเจี๊ยบเขียว เป็นพืชที่มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะในฝักกระเจี๊ยบนั้นมีสารเมือกพวกเพ็กติน (Pectin) และกัม (Gum) ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ให้ลุกลาม รักษาความดันให้เป็นปกติ เป็นยาบำรุงสมอง มีสรรพคุณเป็นยาระบายและสามารถแก้โรคพยาธิตัวจี๊ดได้ด้วย แต่ต้องรับประทานติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน
คนไม่เคย รับประทาน ฝักกระเจี๊ยบเขียว อาจจะ รับประทานไม่เป็น รับประทานยากกันสักหน่อย คนสมัยก่อน ชอบเอาไป ต้ม หรือ ต้มราดกะทิสด กินกับ น้ำพริกกะปิ ปลาทู รสชาติ กรอบหวานอร่อยมาก แต่ที่หลาย ๆ คนออกจะไม่ชอบ กระเจี๊ยบเขียว เพราะ ฝักของมัน ข้างในจะมี ยางเมือก ๆ หุ้มเมล็ดอยู่ ทำให้ พิอักพิอ่วน หากคนไม่ชอบ แต่หารู้ไม่ว่า นั่นเป็นสิ่งมีประโยชน์เหลือคณานับ ของกระเจี๊ยบเขียวเลยทีเดียว
รับประทานฝักกระเจี๊ยบ 10 -15 ฝัก ตอนเย็นหรือก่อนนอน สามารถ ลดอาการท้องผูก
รับประทาน 3 – 5 ฝัก ก่อนอาหาร ทุกวัน สามารถ รักษา แผลในกระเพาะอาหาร
รับประทาน 10 – 15 ฝัก ทุกวัน สามารถ บำรุงตับ
รับประทาน 5 ฝัก ก่อนอาหาร 3 มื้อ ติดต่อกันทุกวัน สามารถ กำจัด พยาธิตัวจี๊ด
รับประทาน 30 – 40 ฝัก ตอนเย็น หรือ ก่อนนอน สามารถ ดีท็อกซ์ลำไส้ อุจจาระตกค้าง
รับประทานสม่ำเสมอ เป็นเส้นใยอาหารธรรมชาติ มีแคลเซียม และ วิตามินสูง
รับประทานประจำ มี โฟเลต สูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงสมอง และ พัฒนาการ ทารก
ใน ครรภ์ 40 ฝักแห้ง มีโฟเลต เทียบเท่าที่คนต้องการในหนึ่งวัน 10 ฝัก มีโฟเลต เท่ากับ 25% ของความต้องการในหนึ่งวัน
เมื่อรู้แล้วว่า ฝักกระเจี๊ยบเขียว มีคุณค่า และ ประโยชน์ อเนกอนันต์ อย่างนี้แล้ว ใครหลายคนที่ชอบรับประทานอยู่แล้ว คงดีใจ แต่หากใครยังไม่เคยทาน ก็ลองดูนะครับ อาจจะติดใจแบบผมก็เป็นได้ เพราะ ผมไม่เคยทานมาก่อน พอทานแล้วก็ ติดใจล่ะครับ ชอบมาก ๆ
อ้อ...ท่านไม่ต้องไปหาก ฝักกระเจี๊ยบต้มมากินทุกวัน ๆ ก็ได้นะครับ อีกอย่าง การที่ ไส้ของฝัก เป็นเมือกอาจจะทำให้ ท่านไม่สะดวกที่จะรับประทาน เดี๋ยวนี้ เค้ามีผลิตออกมาเป็นแบบ ของขบเคี้ยว กินเล่น หรือ ที่เรียกกินติดปากว่า สแน็ก นั่นแหล่ะครับ เป็น ฝักกระเจี๊ยบกรอบ มีหลายรสชาติ ทีเดียว กินง่ายและ อร่อยด้วยครับ มีขายทั่วไปนะครับ ลองไปหากันดู
- บล็อกของ ชวิน
- อ่าน 9549 ครั้ง
ความเห็น
จันทร์เจ้า
3 ตุลาคม, 2010 - 09:12
Permalink
โห..สรรพคุณเยอะเลย
แต่ติดตรงที่มันลื่นๆนี่หละ ขอบคุณค่ะ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
มะโหน่ง
3 ตุลาคม, 2010 - 09:14
Permalink
เมื่อวานเพิ่งกิน
กระเจี๊ยบจิ้มน้ำพริกไปเลยค่ะพี่ชวิน ส่วนอันที่เป็นอบกรอบก็เคยทานนะคะ รสชาติก็อร่อยใช้ได้เหมือนกัน
สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี
tantawan-ตะวัน
3 ตุลาคม, 2010 - 09:24
Permalink
กระเจี๊ยบ
ชอบน้ำกระเจี๊ยบ แต่ไม่ชอบกินกระเจี๊ยบเขียวเคยกินแล้วรู้สึกมันเมือกๆ ลื่นๆ แปลกๆ
ชวิน
3 ตุลาคม, 2010 - 12:24
Permalink
ตะวัน
ของดีมีประโยชน์ แบบ อบกรอบ ก้อมี
พอเพียงเพื่อเพียงพอ
jabee_68@hotmail.co.th
เจ้โส
3 ตุลาคม, 2010 - 10:19
Permalink
กระเจี๊ยบ
ชอบเอามาลวกจิ้มน้ำพริก หรอยจังหู้
garden_art1139@hotmail.com
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
3 ตุลาคม, 2010 - 12:22
Permalink
ขอบคุณพี่ชวิน
หนูมีปัญหาในการกินกระเจี๊ยบเขียว ถ้าได้ของว่างมีประโยชน์แบบนี้ ต้องรีบหามาลองซะแล้ว
WHITELAND
3 ตุลาคม, 2010 - 12:25
Permalink
กระเจี๊ยบเขียว
สำหรับคนที่ไม่ชอบเมือกๆลื่นๆ ลองย่างกินดูนะครับ ถ้าอยู่ในเมือง ก่อเตาถ่านไม่ได้ก็ย่างบนกระทะเคลือบเทปล่อนเอาครับ อร่อยมากๆ ลดเมือกลื่นๆไปได้เยอะ
lekonshore
3 ตุลาคม, 2010 - 18:53
Permalink
คุณชวิน
ลวกน้ำร้อนก่อน
แล้วกินกับน้ำชุบ กินได้เพ ไม่ว่าผักไหร
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
ครูพอเพียง
4 ตุลาคม, 2010 - 07:06
Permalink
กระเจี๊ยบเขียว
ขอบคุณคำแนะนำดีๆ ปริ๊นไปแปะไว้ในห้องครัวแล้วค่ะ
kan300
18 พฤษภาคม, 2012 - 14:41
Permalink
Re: กระเจี๊ยบเขียว
อยากปลูกบางค่ะ
หน้า