เลี้ยงปลาในนาข้าวกันเถอะ

สวัสดีครับชาวบ้านสวนพอเพียงที่น่ารักทุกท่าน เดือน กรกฎาคม ที่ผ่านมาน้ำเต็มคลอง เต็มท้องนา ได้ฤกษ์หาปลามาลงนาแล้วครับ วันนี้จะพาไปเลี้ยงปลากันครับตามผมมาเลยครับ

สังเกตข้าวแตกกอ สีน้ำเริ่มออกน้ำตาลใส พร้อมลงปลาแล้วครับ สำรวจช่องระบายน้ำ หาวัสดุมาปิดกันปลาหนีออกจากนา และป้องกันปลาอื่นเข้ามา โดยเฉพาะปลาช่อน ปลาดุกตัวโตจากภายนอก อันตรายกับลูกปลาในนาข้าว ที่จริงต้องกั้นตั้งแต่น้ำยังไม่มี แต่ผมเตรียมตัวไม่ทันน้ำมาก่อนครับ อีกอย่างน้ำเพิ่งเริ่มมี ปลาใหญ่ไม่ค่อยมีเหลือผ่านแล้งมาแน่ ผมเลย ใจเย็นรอน้ำซะก่อน

ไปหาซื้อลูกปลาที่เหมาะจะเลี้ยงในนาข้าวกันครับผมเน้นปลาเบญจพรรณ เช่น ปลานิล ปลาไน ปลาสลิด ปลาตะเพียน ปลาดุก ฯลฯ 

ปลาดุกต้องเลี้ยงหลังปลาอื่นเพราะเป็นปลากินเนื้อ รอปลากินพืชโตสักหน่อยค่อยเอาไปเลี้ยงตามหลัง

เลือกทำเลเหมาะๆ ผมชอบจุดนี้จริงๆเชียว เป็นจุดต่ำสุดของคันนามีท่อระบายน้ำออกไปแปลงนาของน้า

พ่อสานไม้ไผ่มาปิดปากท่อไว้เรียบร้อย

รอบแรก มี ปลานิล และตะเพียน และปลาสลิด ชนิดละ 1000 ตัว เอาถุงปลามาแช่น้ำสักครู่ 10-30 นาทีแล้วแต่ช่วงเวลา และอุณหภูมิน้ำในถุงกับในนาถ้าไม่ต่างกันมากก็แช่แค่ 10-15 นาที ลงปลาในคลองก่อน เพราะน้ำเยอะและลึก อุณหภูมิน้ำนิ่งกว่าในนาข้าว ไว้เขาปรับตัวได้จะว่ายออกไปในนาข้าวเองตรงท่อที่วางไว้ระหว่างนากับคลอง เพื่อหาอาหารตามธรรมชาติ

กั้นตาข่ายไว้ลงปลาดุก ปลาสวาย ครับ อนุบาลในคอกก่อน พอปลาอื่นโตค่อยให้ออกไปร่วมวง สังสรร ดูแลระบบนิเวศในนาข้าวของเรา

กักน้ำในแปลงนาให้สูง 20 -30 เซนติเมตร ให้ปลาได้มีพื้นที่อยู่อาศัยและหากินอย่างเพียงพอ นับเวลาไปอีก 3-4 เดือนน้ำก็จะลดลงเหลือแค่ในคลอง ปลาจะไปรวมกัน เลี้ยงต่อไปจนกว่าจะโตพอจับมาบริโภคหรือจำหน่าย

ขั้นตอนการเลี้ยงปลาในนาข้าวของผมแบบคร่าวๆครับ การเตรียมพื้นที่ได้ลงไว้ในบล็อกก่อนหน้านี้แล้ว ครั้งนี้เลยเริ่มจากขั้นตอนการลงปลาเลย ไว้ผมจะนำ ความคืบหน้ามาเขียนในครั้งต่อไป อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ