ขโมยขึ้นบ้าน
ไม่ได้ผิดความคาดหมายอะไร..กับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชีวิตคนเมืองในปัจจุบัน..ที่โจรขโมยมีไปทั่วทุกหัวระแหง..พึ่งพารัฐไม่ได้..ต้องป้องกันตนเอง..คิดว่าต้องโดนบ้าง..ก็โดนอีกจริงๆ..
ห้องที่เกิดเหตุ (ห้องแม่บ้าน) อยู่นอกตัวบ้านหลัก
เมื่อคืนนี้มีเรื่องให้หวาดเสียว..ขโมยขึ้นบ้าน..ประมาณตีสามแก่ๆ เสียงสันญาณกันขโมยดังขึ้นที่ห้องแม่บ้าน (อยู่นอกเรือนหลัก ผมไม่ได้กดล็อคตั้งใจให้เป็นกับดักเวลาเปิดลูกบิดประตู) ตกใจตื่นรีบคว้าปืนลงไปซุ่มดูกะพี่ชายจากภายในบ้านแต่ไม่เห็นใคร รอสักพักใหญ่จึงออกไปสำรวจ (ไม่กล้าออกไปทันที กลัวเหมือนกัน แม้มีปืนแต่ไม่รู้มันมากี่คน ซุ่มอยู่ตรงไหนบ้าง) พบประตูห้องแม่บ้านถูกเปิดออก แต่ไม่พบสิ่งปกติมันคงปีนรั้วออกไปแล้วตั้งแต่สันญาณดัง ..โล่งอก..ถ้าเจอกันจริงๆยังไม่รู้เลยว่าจะกล้ายิงมั๊ย..ทั้งชีวิตไม่เคยฆ่าสัตว์ ยกเว้นพวกยุงหรือแมลง บาปสุดก็แค่กัดปลาตอนเด็ก .. นี่นับเป็นครั้งที่สี่(นับแต่ที่มาอยู่ที่นี่ 16 ปี) ที่ถูกบุกรุกยามวิกาล ครั้งแรกเมื่อสิบปีที่แล้ว ระบบสันญาณกันขโมยเสียที่โซนห้องครัว(ผมใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมแบ่งเป็นโซนป้องกันทุกจุดทุกชั้นทุกห้องที่เป็นจุดเปิดทั้งประตู หน้าต่าง บานกระทุ้ง แถมด้วยเหล็กดัดอีกชั้น) แล้วประมาทไม่ซ่อมรออยู่นั่นจนได้เรื่อง (แต่แปลกเหมือนมันรู้เลยว่าโซนนี้เสีย ถ้างัดโซนอื่นเสียงจะดังลั่นเลย แถมเข้ามาตัดเหล็กดัด หมาที่บ้าน-ตัวเก่า ก็ไม่เห่า งงมาก จนเดี๋ยวนี้ยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร น่าจะคนแถวบ้าน) ครั้งนั้นไม่มีอะไรมาก มันเข้ามาแล้วรีบออกเพราะเราตื่น เห็นหลังไวๆ กำลังปีนหนี ไม่กล้ายิง
ครั้งที่สอง เหมือนขโมยรู้ว่าบ้านนี้มีสันญาณกันขโมย เพราะผมจะ test ระบบทุกเดือนในช่วงกลางวัน (มีเสียงดัง) มันจึงแค่ปีนเข้ามาโรงรถแล้วทุบกระจกรถของแฟนเอาของมีค่าในรถไปแต่ได้ไปไม่เยอะ ครั้งที่สามแค่ปีนเข้ามายุ่มย่ามกับห้องเก็บของ แต่ไม่กล้าเข้าบ้านหลัก แถวบ้านผมก็โดนกันถ้วนหน้า นี่ขนาดห่างจากถนนใหญ่ (ถ.บรมราชชนนี) ไม่ถึงสามร้อยเมตร อาจจะเป็นเพราะเป็นหมู่บ้านเปิด และมีคนงานก่อสร้างเยอะ (ในหมู่บ้านมีบ้านกำลังปลูกเยอะด้วย) บริเวณบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ รอบบ้านมีสปอร์ตไลท์รอบบ้าน มีไฟส่องสว่างตลอด แต่พอต้นไม้โต ก็ทำให้แสงจากการมองเห็นลดลง
ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ผมต้องคิดหนัก เรื่องที่จะไปปลูกบ้านอยู่ที่ราชบุรี บ้านผมมีห้าคน สามคนพ่อแม่ลูก แม่ผมที่อายุมาก และพี่ชายที่ไม่มีครอบครัวมาอยู่เป็นเพื่อน อยากไปอยู่ราชบุรีก็ห่วงคนที่บ้านที่กทม. ผู้หญิงตั้งสามคน ตำรวจรึก็พึ่งพาไม่ได้ ขนาดแถวบ้านเคยช่วยล้อมจับโจรได้เรียกตำรวจ กว่าจะมาถึงเป็นชั่วโมง ที่โดนงัดขโมยแจ้งความก็ไม่เคยมีอะไรคืบหน้า office ผมก็เคยโดนงัดก็ยังจับใครไม่ได้ ต้องพึ่งตนเองเป็นหลัก...เฮ้อ..
เขียนเล่าเพียงเพื่อระบายความในใจ และอยากรู้ว่าเพื่อนๆทั้งที่อยู่ กทม.และอยู่ตจว.(โดยเฉพาะที่ไร่สวนที่เปลี่ยว) เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มั๊ย (ผมกลัวนะไปอยู่บ้านสวนที่ดูเหมือนเวิ้งว้าง ห่างไกลผู้คน แฟนชักไม่อยากให้ไปอยู่แล้ว..เค้ากลัว..ทรัพย์สินไม่เท่าไรหรอก ของนอกกายแต่ที่ห่วงคือชีวิตและสวัสดิภาพของเรา .. โดยเฉพาะผู้หญิง..น่ากลัวมาก..เล่าสู่กันฟังบ้าง ใครมีประสบการณ์หรือความเห็นหรือแนวทางแก้ไขป้องกัน..ช่วยแนะนำหน่อยเถอะ....กลัวจริงๆๆๆๆๆๆ
- บล็อกของ ตั้ม
- อ่าน 10537 ครั้ง
ความเห็น
ตั้ม
2 กรกฎาคม, 2010 - 13:29
Permalink
สาวๆที่บ้านนอนไม่หลับ
หลังเสียงสันญานดังขึ้น..สาวๆนอนไม่หลับ(แป๊ปเดียว) ผมบอกให้เค้าอยู่ในห้องและล็อคประตู (แต่ต้องฟังผมเคาะเรียกเผื่อมีปัญหาหนีกลับเข้าห้องได้ทัน 5555..)
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
มาย
2 กรกฎาคม, 2010 - 12:30
Permalink
โชคดีที่ไม่เป็นไร
โชคดีที่ไม่เป็นไรกันนะคะ .. สังคมเมืองเดี่ยวนี้น่ากลัวมากขึ้น ต้องระวังในทุกๆ ด้าน
ยังงัยก็ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของพี่ตั้มปลอดภัยตลอดนะคะ และพบช่องทางเพื่อจะป้องกันให้มากขึ้น
there is a will , there is a way .
ตั้ม
2 กรกฎาคม, 2010 - 13:32
Permalink
มาย..ที่ญี่ปุ่นเจอบ้างมั๊ย
ขอบคุณครับน้องมาย..ที่ญี่ปุ่นละเป็นไงบ้างเรื่องพรรนี้
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
มาย
2 กรกฎาคม, 2010 - 14:00
Permalink
ที่ญี่ปุ่น..
ของมายนี่ไม่เคยยังไม่เคอยเจอค่ะ..แต่สองเดือนก่อนข้างๆ ห้อง ไม่แน่ใจว่าเขาเจอหรือเปล่าเห็นตำรวจมาค่ะ เดี่ยวนี้ที่นี่ก็เริ่มมีบ้าง แต่ไม่มากนักค่ะ หลังจากเศรษฐกิจไม่ค่อยดีในช่วงที่ผ่านมา แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มหรือแก๊งค์ต่างชาติ เริ่มเขามาขโมยตามที่ต่างๆ บ้าง ยิ่งตอนนี้ชาวสวนก็ต้องระวัง ฤดูกาลเก็บลูกเชอรี่ มักจะมีคนที่ไม่ได้รับเชิญมาช่วยเก็บเอาไปเยอะเหมือนกัน(ดูจากข่าวค่ะ)
there is a will , there is a way .
ตั้ม
2 กรกฎาคม, 2010 - 14:11
Permalink
บ้านเราบทลงโทษอ่อน
บ้านเราปัญหาสำคัญคือ กฏหมายไม่ได้ปรับปรุงมานาน บทลงโทษอ่อนจนคนเลวขาดความยำเกรง เมือ่มาเจอกับเจ้าหน้าที่ที่มีน้อย ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง บวกกับการบังคับใช้ไม่จริงจัง ผลคือโจรเต็มบ้าน ที่ญี่ปุ่นเรียกตำรวจยังมา ที่เมืองไทยพี่เคยเรียกตอนรถโดนทุบกระจกขณะจอดในบ้าน เค้ายังอิดออดทำท่าจะไม่มา ต้องขู่ขอชื่อคนรับสายแล้วบอกว่า ผมต้องมีใบแจ้งความเพื่อเคลมประกันรถ
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
มาย
2 กรกฎาคม, 2010 - 14:22
Permalink
จริงอย่างพี่ตั้มว่า..
ที่นี่ตำรวจจะห่วงความปลอดภัยของประชาชนมากๆ แล้วเขาก็จะมีกลุ่มอาสาตรวจดูความปลอดภัยให้ด้วยหลังเกิดเหตุการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก
อย่างที่ไทย มายก็เคยเจอ ไปเที่ยวกันพอดีเข้าพักแถวบังกะโล แล้วมีคนมาขโมยกระเป๋าเงินไปซึ่งเป็นเงินที่เยอะพอสมควร ไปแจ้งความตำรวจ ก็แค่รับฟัง แถมยังมาสอบสวนพวกเรากันเองอีกแน่ะ โดนปั้มลายมือด้วยนะ ทั้งที่เราเป็นผู้เสียหายร่วม งงเลย กับการทำงานของเขาจริงๆ
there is a will , there is a way .
ดงดม
2 กรกฎาคม, 2010 - 12:56
Permalink
จัดการโจร
ต้องเจอของจริง ยิงสักเปรี้ยงครับ...ไม่ต้องกลัวยิงไปเลยคราวหน้ามัจะกลัว ว่าบ้านนี้เอาจริงไม่หมูแล้ว....
ตั้ม
2 กรกฎาคม, 2010 - 13:34
Permalink
เอาเว้ย..มีกองเชียร์
งวดหน้าซัดซักเปรี้ยง..แล้วบอกกะมันว่า..ผมจำใจทำนะ..น้องๆบ้านสวนเค้าเชียร์ให้ซัดอะ (แต่ขอไม่มีงวดหน้าดีก่า..ไม่แน่ใจกลัวมันมากกว่ามันกลัวเรา)
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
สวนสุขารมย์
2 กรกฎาคม, 2010 - 13:01
Permalink
ให้เพื่อนบ้านเป็นรั้ว
ที่สวนบ้านบุ๋มรั้วก็ไม่มิดชิดค่ะ เป็นรั้วลวดหนาม ก็เลยต้องผูกมิตรกับเพื่อนบ้านไว้ มีอะไรก็แบ่งให้เค้าค่ะ เวลาเค้าต้องการความช่วยเหลือก็เราก็ต้องรีบเข้าช่วยเหลือทั้นที
เวลาพบกันสั้นนิดเดียว
ตั้ม
2 กรกฎาคม, 2010 - 13:37
Permalink
บุ๋ม..ที่สวนกว้างใหญ่นะ
คิดถึงวันที่จะไปอยู่ คงทำได้แค่กั้นรั้วลวดหนามเหมือนบุ๋ม เพราะตลอดแนวที่ยาวเป็นกิโลเลย แล้วเราปลูกบ้านในที่ที่กว้างมาก ห่างจากบ้านข้างเคียงต้องเยอะ..ยามวิกาล จะมีคนรู้เรื่องหรือป่าว..กลัวนะ..กลัวจิงๆ..กลัวโดนหมกเงียบอะ
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
หน้า