ชีวิตพอเพียง แบบ บ้านนอก ที่ ไอร์แลนด์

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ย้ายมาอยู่ที่ไอร์แลนด์หลายปีแล้ว  ตั้งแต่สมัยมาเรียน จนทำงาน  และอยู่มาเรื่อย  

ตอนมาอยู่ครั้งแรกๆ จำได้ว่า ได้กินแกงไตปลา ที่พี่คนไทยทำมาให้  ก้อร้องให้เลย  คิดถึงอาหารไทย ผักสดๆ  ที่แสนอร่อย

คนไทยบางครั้งไม่เห็นคุณค่าของผักปลาอาหาร  ถ้าวันใดที่คุณมาอยู่แดนไกล  มีเงินแต่ไม่มีผักที่เราต้องการขาย  เงินก็ไม่มีประโยชน์ 

ผักที่ขายในห้างที่นี่  ก็ทั่วไป แต่ไม่มีผักไทย ผักพื้นบ้าน  ถ้าต้องการซื้อต้องไปที่ร้านเอเซีย  แล้วแพงด้วยนะ 

หน้าร้อนปีนี้  ก้อปลูกผักทานเอง  ผักกาดดอย  ซื้อเมล็ดมาจากดอยแม่สลอง  ชาวเขาขายถ้วยละ สิบบาท  ซื้อมาสองถ้วย ติดทุกเม็ด เมล็ดพันธ์ดีมากๆ

ปลูกไว้ริมรั้ว   หรือ ปลูกไว้ในกระถาง จริงๆแล้วบ้านก้อมีบริเวณกว้างแต่พอดีเค้าจัดสวนสวยงาม กินไม่ได้  ก้อเลยหาที่ว่างๆปลูกแซมไปเรื่อย

ข้างล่างเป็นสาระแหน่  หอมดี  ไว้ใส่ลาบ หรือทำอาหารฝรั่งได้ ใส่รวมกับโรสมารี่  เออ ลืมถ่ายโรสมารี่มา ปลูกแซมไปเรื่อย

คนไอริชจะไม่นิยมปลูกผักไว้ทานเอง  ปีนี้ก้อปลูกผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ผักกาดดอย  มิ้นต์ โรสมารี่ ผักชี ต้นหอม คูเจส (คล้ายบวบบ้านเรา แต่ลำต้นคล้ายฟักทอง )แต่คนที่นี่เห็นแล้วหัวเราะแล้วบอกว่าไปซื้อไม่กี่ยูโรก็ได้ครบแล้ว  ผักที่ปลูกก้อใส่ปุ๋ยขี้วัว ไปขอจากคอกวัวแถวบ้าน 

สำหรับหน้าร้อนของคนไทยในไอร์แลนด์  กิจกรรมที่ทำอีกอย่างคือ ไปหาของทะเล  คนที่นี่ไม่ชอบทานอาหารทะเล   คนไทยเราโปรดปรานยิ่งไม่ต้องซื้อ ยิ่งชอบ   รูปข้างล่าง เป็นหอยขมทะเล และหอยแครง สองอย่างนี้ ไปชายหาดด้านฝั่งทะเลโคลน  เดินลงไปเก็บ สิบนาที ก็ได้เป็นถังใหญ่แล้ว  เยอะจริงๆ  ที่ร้านขายอาหารทะเลสด ขายกิโลละสิบเอ็ดยูโรนะค่ะ คนที่นี่ชอบซื้อ ไม่ชอบหา  อิอิ  ส่วนปลาแมคคอเรลในถังข้างล่าง น้าข้างบ้านไปตกที่ทะเล เป็นกิจกรรมหน้าร้อนของผู้ชายไอริช แต่ตกเสร็จแล้ว ไม่ชอบกินนะ เมียเค้าทำกินไม่เป็น  น้าเลยเอามาให้  ก้อเลยเอาปลามาแล่ออกเป็นชิ้น  แช่น้ำปลาไว้ซักพัก  แล้วนำไปตากแดดไว้หนึ่งวัน เก็บเข้าตู้เย็นไว้  ทอดทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือข้าวเหนียว หรอยจังฮู้ค่ะ 

ของฟรียังไม่จบ   ถ้าบ้านเราผลไม้อย่างมะม่วง มะขาม หากินได้ตามริมทุ่ง หรือ ข้างถนน  ที่ไอร์แลนด์ก็มีผลไม้ที่ไม่ต้องซื้อหาเหมือนกัน นั่นก็คือ  ลูกท้อ ลูกพลัม แอ๊ปเปิ้ล  แต่วันนี้ก้อถ่ายมาให้ดูสองอย่างก่อน

ลูกท้อต้นนี้หวานมาก  มีอยู่สี่ต้น อยู่ตรงชายป่าแถวบ้าน  ไม่เคยมีใครเก็บเลย  รู้สึกว่า ก้อแข่งกับนกเก็บลูกท้อ  เก็บมาดอง มาทำแห้ง เชื่อม จนชาวบ้านแถวนี้บอกว่า คนไทยกินได้ทุกอย่าง สงสัยเมืองไทยยากจน  อดอยาก คนไทยถึงกินได้ทุกอย่าง  คนไอริชชอบกินลูกท้อเหมือนกัน แต่ต้องไปซื้อมากิโลละสามยูโร  ของฟรี ริมถนนไม่ทานค่ะ 

ส่วนแอ๊ปเปิ้ลต้นนี้มีที่มา  ปรกติบ้านก้อมีอยู่สองต้น มีลูกใหญ่หวาน พันธ์พิ้งเลดี้  กับ ลูกเล็กเท่านิ้วหัวแม่มือ ชื่อ แครปแอ๊ปเปิ้ล  เขาบอกลูกใหญ่ทานได้  แต่ลูกเล็กทานแล้วจะปวดท้อง  คนไทยรวมตัวกัน  ก็ลองตำดู  สรุป อร่อยกว่าตำมะยมอีก  ทุกปีต้นแอ๊ปเปิ้ลลูกเล็กจะหมดก่อนลูกใหญ่ 

ส่วนแอ๊ปเปิ้ลกิ่งนี้ก้อหักมาจากข้างทางเมื่อตอนเย็น  พอดีว่า ทำแกงไตปลาไว้  ยังหาผักเหนาะ ที่เข้ากันไม่ได้  เดินออกกำลังกายผ่านไปเจอต้นนี้เข้าเลยหักมาหนึ่งกิ่ง  เหนาะแกงไตปลา หรอยที่สุดเลย  ฝาดๆเปรี้ยวๆ เข้ากันอย่างดี   ผักเหนาะนี้ได้ไอเดียจากพ่อของก้อเอง  ตอนนั้นพ่อยังไม่ตาย ก้อไปเดินออกกำลังกายก็จะโทรคุยกับพ่อตลอด  แล้ววันหนึ่งบอกพ่อว่า  เบื่อที่นี่ไม่มีผักเหนาะเลย  ต้นไม้แตกยอดงาม ไม่รู้ว่ากินได้หรือเปล่าอยากลองหักมากินบ้าง  พ่อบอกว่า ยอดแอ๊ปเปิ้ลน่าจะทานได้น่ะ เพราะลูกกินได้  ตอนนั้นเดินอยู่ที่ดงแอ๊ปเปิ้ลป่าพอดี มองไปไม่เห็นยอดเห็นแต่ลูก เลยบอกพ่อว่า มีแต่ลูกแอ๊ปเปิ้ล  ชิมแล้ว ฝาดๆ เปรี้ยวๆ ไม่รู้กินได้มั้ย  พ่อว่า  นั่นแหละ หมันแล้วลูกเหอ  เก็บมาเหนาะแกงเคยปลาตะ  รับรองหรอยนิ  

ความเห็น

ผัก ผลไม้ ปลา ปู กุ้ง หอย มีเยอะแบบนี้ น่าจะลองทำน้ำหมักดูนะครับ

ลุงพูนค่ะ  แต่หนูไม่มี พด 1หรือจุลินทรีย์เลยค่ะ  ที่นี่หาซื้อไม่ได้ด้วย  ก้อลองหาแล้วค่ะ  แต่อาหารทะเลเยอะจริงๆ  อยากทำเหมือนกัน

ต้องใช้ด้วยหรือค่ะ ลุง

ที่บ้านไม่ได้ใส่เลย มันก็เป็นนี่ค่ะ ไม่บูดเลย

หอมๆเปรี้ยวนิดหน่อย

 

ถ้าไม่ต้องใส่ เดี๋ยวลองทำดูค่ะ

เกาหลีเขามีกิมจิ เมืองไทยมีแป้งข้าวหมาก ฝรั่งก็มีโยเกิร์ต พวกนี้เป็น Probiotic ทั้งนั้นครับ เราก็เอาเชื้อพวกนี้มาทำได้ครับ ยิ่งถ้ามีผักกาดดองหรือ เกี้ยมฉ่าย ก็เอาน้ำผักกาดดองมาทำได้ แต่ถ้าผักกาดดองจากกระป๋องใช้ทำไม่ได้ครับ เพราะไม่มีเชื้อหลงเหลืออยู่แล้ว

ถ้ามีผักคล้ายๆกับผักกาดดองแบบบ้านเรา ก็เอาผักนั้นมาทำผักดอง แบบดองหน่อไม้ ของ คุณแอน ก็ไม่ได้ไปเอาเชื้ออะไรที่ไหนมาใส่ เอาผักมาผึ่งแดด ผึ่งลมให้หมาดๆ แล้วคลุกเกลือ ม้วนๆใส่โหลแก้ว แล้วใส่น้ำซาวข้าวลงไปให้ท่วม ถ้าไม่มีน้ำซาวข้าวก็ลองหาแป้งสาลีใส่ลงไปสักสองสามหยิบมือ ถ้าลองแล้วได้ผลอย่างไร ช่วยส่งการบ้านด้วยนะครับ (วันนี้ให้นักเรียนทำโครงงานพิเศษจากประเทศไอร์แลนด์ แล้วค่อยมานำเสนอที่เมืองไทยครับ)

ของคุณแก้ว ใช้สูตรป้าเช็ง คือน้ำ กับน้ำตาล ส่วนเชื้อ ใช้เชื้อในธรรมชาติ ให้ได้กลิ่นหอมอมเปรี้ยวก็ ok ครับ

ใส่ลูกตะขบลงไปเยอะๆค่ะ จะหอม

 

ปกติถ้าไม่มี พด.สูตรต่างๆ ก็จะใช้เชื้อที่มีอยู่ในธรรมชาติ จุลินทรีย์ที่เราเอามากิน เช่น โยเกิร์ต ก็เอามาทำได้ครับ ใบไม้ที่มีเชื้อราสีขาวๆขึ้น ก็เอามาทำได้ สุมใบไม้แห้งไว้ในที่ร่มๆ หาอะไรปิดไว้ให้ชื้นๆ ไม่กี่วันจะมีเชื้อราเจริญขึ้นมา เชื้อราพวกนี้เอาไปขยาย สำหรับย่อยสลายเศษทรากพืชและสัตว์ได้ครับ

ลองทำแบบนี้ก่อน เอาเศษผักสด ใส่ถังแล้วเติมน้ำและน้ำตาลลงไป ใช้อัตราส่วน 3-1-5 (เศษผัก 3 ส่วน น้ำตาล 1 ส่วน น้ำ 5 ส่วน) ปิดฝาถังแล้วเก็บไว้ในที่ร่ม ถ้ามีเวลาก็กวนวันละครั้ง เวลาเปิฝามากวนก็ลองดมดูว่ามีกลิ่นเหม็นไหม หากเหม็นให้เติมน้ำตาลอีก ถ้าไม่เหม็นก็ ok ทิ้งไว้สักอาทิตย์หรือ 10 วัน จะมีฝ้าขาวลอยอยู่เหนือน้ำ แสดงว่าทำได้แล้ว รอจนครบเดือนจึงค่อยเอาไปใช้รดต้นผักที่ปลูก ผสมน้ำ อัตรา 1 ต่อ 50 รดที่โคน ถ้าจะให้โดนใบก็ 1 ต่อ 100 แล้วลองดูการเจริญเติบโต เปรียบเทียบดูกับต้นที่ไม่ใช้น้ำหมัก

ผักกาดดอยปลูกได้งามจริงๆค่ะ

กิจกรรมหน้าร้อนน่าสนุกนะคะ ได้หาของทะเลเอง ได้กินของสดๆด้วย

...ที่สำคัญตังค์อยู่ครบ อิอิLaughing

ตังค์อยู่ครบ นี่สำคัญเน้อ  ปรกติ ก้อทานอาหารฟรีที่โรงแรมอยู่แล้วค่ะ  แต่อย่างน้อย ได้ทานอาหารไทยอาทิตย์ละสองสามครั้ง จะทำให้มีแรงขึ้นเยอะ 

หน้าร้อน  ได้ทำกิจกรรมเยอะแยะค่ะ  เพราะที่นี่มืดตอนห้าทุ่มค่ะ  เวลาเหลือเฟือ 

หน้า