เมนูประจำบ้าน.....
..วันนี้ขอนำเสนอ..เค็มหมูค่ะ..เป็นการถนอมอาหาร.หรือบางท่านอาจจะเรียกว่าหนางหมู.เขียนไว้ที่ http://www.bansuanporpeang.com/node/1308 คราวนี้จะขอนำเสนอวิธีการทำนะคะ
...ตักมาแต่เค็มหมู ตักข้าวมาเลยนะคะ
....มีอะไรบ้าง
เนื้อหมูสามชั้น และเนื้อส่วน หัวหมู (หูหมูจะอร่อย)
ขี้พร้า (ฟักเขียว)
ข้าวสารคั่ว นำมาปั่นให้ละเอียด
เกลือ น้ำตาล
วิีธีการทำ
หมักหมูกับเกลือทิ้งไว้ 1 คืน
ได้แล้วคลุกกับข้าวสารคั่วและขี้พร้า หมักทิ้งไว้อีก 1 คืน
วิธีการต้ม
ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ หัวหอม ตะใคร้ เค็มหมู มะนาวนิดหน่อย ปรุงรสตามชอบ ตั้งให้เดือดอีกรอบ...ก่อนยกจากเตา ใส่ใบมะกรูด พริก ........
อีกรูปชัด ๆ....
............................................................
ฟักช่วยย่อยอาหารและบำรุงร่างกาย
ฟัก เขียวเป็นผักพื้นบ้านที่รู้จักกันดีมาแต่เดิม เป็นผักสวนครัวชนิดหนึ่งที่ปลูกง่ายหาได้ง่าย และลงทุนปลูกน้อยไม่ต้องพึ่งสารเคมี เป็นผักชนิดแรกที่เด็กเริ่มหัดกิน ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารและบำรุงร่างกายได้ |
ฟัก เขียวเป็นไม้เถาเลื้อยตระกูลแตง ใบมีสีเขียวเป็นหยักใบหยาบ ดอกมีสีเหลือง ผลเป็นรูปกลมยาวขนาดปานกลางถึงขนาดใหญ่ เปลือกสีเขียวมีขนอ่อนเล็กน้อย เนื้อในจะมีสีขาว เนื้อแน่น ฉ่ำน้ำ ตรงกลางมีเมล็ด ขยาย พันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปลูกได้ในดินร่วนปนทรายระบายน้ำได้ดี เป็นผักที่มีอายุการปลูกสั้น ปลูกเพียง 3 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว
คุณค่าทาง โภชนาการ
คน ไทยจะนำผลฟักเขียวมาประกอบอาหารโดยการใส่ในแกง ต้ม ผัดต่างๆ บ้างทำเป็นขนมหวานในเทศกาล แต่เมนูยอดนิยมคงจะเป็นแกงเขียวหวานไก่ฟักเขียว แกงจืดฟักต้มกับไก่ แกงเลียง ฟักเขียวผัดกับหมูใส่ไข่ ฟักเชื่อม รวมถึงยอดอ่อนที่นำมาลวก หรือต้มกะทิ กินกับน้ำพริกได้ มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ผักอื่นเหมือนกัน
ทั่วโลกใช้ผลฟักเขียวกินได้ทั้งดิบและสุกใช้เป็น ผัก ดอง ปรุงแกงเผ็ด หรือกวนแยม กินได้ทั้งผลอ่อนและผลแก่
ผลอ่อนจะรสเข้มกว่าผลแก่ เนื้อผลจะมีน้ำมาก สามารถเก็บรักษาผลได้นานเป็นเดือนหรือค่อนปีเพราะมีขี้ผึ้งเคลือบอยู่ภายนอก
ใบอ่อนและตาดอก กินโดยการนึ่งใช้เป็นผัก หรือใส่ในแกงจืดเพิ่มรสชาติ
เมล็ด ทำให้สุกแล้วกินได้ อุดมไปด้วยน้ำมันและโปรตีน
สรรพคุณทางยา
สรรพคุณทางยาแผนไทยของฟักเขียวมีมากมาย
ใบ แก้ฟกช้ำ แก้พิษผึ้งต่อย ช่วยรักษาบาดแผล แก้โรคบิด แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้บวมอักเสบมีหนอง
ผล ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ แก้ธาตุพิการ แก้โลหิตเป็นพิษ บวมน้ำ หลอดลมอักเสบ
เมล็ด ใช้ลดไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้ไตอักเสบ บำรุงผิว ละลายเสมหะ
ราก ต้มดื่มแก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ถอนพิษ
เถาสด รสขมเย็น ใช้รักษาริดสีดวงทวาร มีไข้สูง
เปลือก เป็นยาแก้บวม ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย แผลบวมอักเสบ มีหนอง
ขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของหมอชาวบ้าน กับเว็บไซต์วิชาการดอทคอม
..........................................บ้าย บาย ค่ะ ไปทำงานต่อ
- บล็อกของ ann
- อ่าน 9126 ครั้ง
ความเห็น
ทราย
29 กันยายน, 2010 - 20:14
Permalink
น้องแอน
ขอชิมสักหิดกันนะ กินมากไม่ได้
ann
29 กันยายน, 2010 - 21:35
Permalink
ขอชิม
ขอชิม ได้ค่ะพี่ทราย... เหมือนบ้านพี่ทรายม้าย....
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
มนต้นกล้า
29 กันยายน, 2010 - 20:27
Permalink
พี่แอนครับบบบ
ต้นกล้าขอกินฟักคร้าบบบบ
ฉันจะปลูก ผัก ให้ลูกทาน
ann
29 กันยายน, 2010 - 21:44
Permalink
ได้เลย
ได้เลยต้นกล้า.ทานเยอะ ๆ นะคะจะไ้ด้โตเร็ว ๆ..
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
สายพิน
29 กันยายน, 2010 - 20:36
Permalink
คุณแอน มีเมนูเด็ด ขอแว่บมองหน่อยนะคะ
คุณแอน มีเมนูเด็ด ขอแว่บมองหน่อยนะคะ เห็นแล้วว่ามีฝีมือจริงๆ พร้อมหาสรรพคุณสมุนไพร อาหารเป็นยามาฝากด้วย เยี่ยมเลย
สุชญา
30 กันยายน, 2010 - 05:41
Permalink
หรอย
หนางหมูชอบมาก ขอบคุณสำหรับสูตร จะลองทำดูบ้าง
nu...hack
29 กันยายน, 2010 - 20:40
Permalink
พี่แอน ขอด่วนค่ะ
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
29 กันยายน, 2010 - 21:34
Permalink
ยังไม่เคยทานเลย
ไว้จะลอกสูครไปทำดูนะคะ
มานี มานะ วีระ ชูใจ
29 กันยายน, 2010 - 23:35
Permalink
น่ากิน...
ยิ่งดึกมาเปิดเจอ...ก็ยิ่งหิว...
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
ตองอู
30 กันยายน, 2010 - 10:39
Permalink
แอน..^_^..
เมื่อวานหลุดไปจากแวดวงบ้านสวน..วันนี้ย้อนหลังตามมาทานด้วยค่ะ..^_^..
MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com
หน้า