ลูกแป้ง
มาเล่าความหลังให้ฟังอีกครั้งค่ะ ไม่ใช่เป็นคนแก่หรอกค่ะ แค่เกิดนานเท่านั้น (555) ตอนเด็กๆ แม่ทำขนมขายค่ะหลังจากออกจากครู เพราะครูสมัยก่อน เงินเดือน 6 บาทค่ะ แม่ว่าไม่พอกิน(แม่เล่าให้ฟังค่ะ)เพราะตอนตัวเองเกิดเห็นแม่ขายขนมแล้ว ตัดยางด้วย สอนสาวๆตัดผ้าด้วยที่บ้าน สาวๆ มาเรียนเย็บผ้ากับแม่เป็นสิบๆ บ้านยายอิ๊ดหัวไดไม่แห้งหรอก เราเป็นเด็ก ก็ลัก แล หนุกตามประสาเด็ก แม่ทำหนมขายด้วย ขายดีซิ เป็นแบบนี้ ไม่ดีได้ไง หนุ่มๆ มาจีบสาวค่ะ เขาก็ซื้อเลี้ยงสาวกันซิ( หรือเป็นแผนของแม่เรา 555) เอ้า..เข้าเรื่อง รู้จักกันม้าย ....ลูกแป้ง
เวลาแม่ทำขนมขายนะ เจ้านี่แหละเป็นสิ่งสำคัญมาก แม่ต้องแอบซื้อ คนขายก็แอบขาย มีอยู่เจ้าเดียวค่ะ บางทีเห็นแม่ ไป ซื้อ ขายกันในห้อง ต้อง หยบ(ซ่อน)อย่างแรง แล้วพูดกันเสียง หุบหิบหุบหิบค่ะ กลัวนายจับ นายที่เขาเรียกว่าตำรวจ (หรือตำรวจที่เขาเรียกว่านาย) คนขายคือป้าทับค่ะ บอกชื่อไปได้เลย เพราะหากถ้านายจะจับ สงสัยต้องจุดธูปนานหิด 5+++++ แกชอบเล่นไพ่ตองกัน(นินทาได้กระทั่งคนไม่มีชีวิต นี่คือความสามารถของยายอิ๊ด) เอ้า เขว... อีกแล้ว กลับมา ๆ แม่ใช้ลูกแป้งเพื่อทำเชื้อขนมค่ะ แม่บอกว่าทำยากมาก ป้าทับแกทำแล้วขนมแม่ว่าขนมแม่ขึ้นดี(ฟูดี) บางทีหากป้าทับไม่ได้ทำแม่ต้องเดินไกลอีกแล้ว เพราะจะไปหาคนที่ทำนั้นยาก แม่เคยเปรยให้ฟังว่า ป้าทับก็ต้องหยบๆ ซ่อนๆในการทำค่ะ กลัวทั้งนาย และกลัวเพื่อนเห็นสูตรด้วยค่ะ...(มากกว่า)แต่ตอนนี้เขาไม่จับกันแล้ว ตอนสมัยทำงานพาชุมชนไปดูงาน แอบจดมาค่ะ
กระเทียม 6 กรัม ขิง6 กรัม ข่า6 กรัม ชะเอม6 กรัม พริกไทย 6 กรัม ดีปลี 2 กรัม แป้งข้าวจ้าว 400 กรัม
*ผสมแป้งกับน้ำ นวดให้น้ำซึมไปทุกส่วนของแป้ง
*ผสมทุกอย่างด้านบน ตามสูตร ให้เข้ากัน บดละเอียดนะคะ แต่คนสมัยก่อนเขาตำกันค่ะเตาเข้ากับแป้งเลย โรยแป้งเชื้อหรือลูกแป้งเก่าที่บดละเอียดแล้ว นวดให้ส่วนผสมและแป้งเชื้อเข้ากัน ทิ้งไว้ให้แป้งชื้นสักครู่
*ปั้นเป็นก้อนวางบนถาดถ้าให้ดีเขาว่าต้องเป็นกระด้ง และต้อง โรยด้วยแป้งเชื้อปนไว้แล้ว วางลูกแป้งแล้วโรยแป้งเชื้อทับอีกครั้ง ปิดด้วยกระด้งคลุมด้วยผ้าหนา ๆ บ่มไว้ประมาณ 1วัน 1 คืน หรือ 24 ช.ม. เพื่อเส้นใยราขึ้นและต้องให้ขึ้นเต็มก้อนแป้ง...
*เปิดผ้าคลุมออกผึ่งให้แห้งในที่ร่ม ตากแดดจนแห้งสนิท แล้วเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิดค่ะ ลองดูนะคะ...
แต่ยายอิ๊ดยังไม่เคยทำเลยค่ะ วันนี้ว่าง เลยเปิดอ่านสมุดที่บันทึกของตัวเองค่ะ ไปเจอเจ้าสิ่งนี้ก็นำมาฝากกันค่ะ
ภาพนี้ถ่าย ที่เขาตั้งที่ในวัดพระธาตุค่ะ ไม่เห็นใครเลยเลย ก็ตั้งอยู่ก็ถ่ายรูปมาค่ะ สงสัยคนขายปวดท้องฉี่ ..ว่าจะคุยด้วย คอยนาน..เลยกลับ แต่ไม่ได้ขโมยมาค่ะ 5+++(ลืม)สันดานดีจ้า กร๊ากกกกกกก
มีความสุขค่ะ ยายอิ๊ดคนงาม...
- บล็อกของ ยายอิ๊ด
- อ่าน 18807 ครั้ง
ความเห็น
กุ้งบางบัวทอง
17 พฤศจิกายน, 2010 - 12:06
Permalink
ลูกแป้ง
ถ้าเป็นชนิดเดียวกับที่ทำเหล้าเถื่อน ทางเหนือเขาจะหมักทำน้ำขาวค่ะ กุ้งทำไม่เป็นแม่และคนทางเหนือสมัยก่อนน่าจะทำเป็นเกือบทุกบ้าน อย่างวันสงกรานต์จะมีเกือบทุกบ้านเอาไว้ต้อนรับแขก จะเป็นน้ำสีขาวขุ่น รสชาติหวานหอม กินอร่อยมากแต่เมาไม่รู้ตัวเลยค่ะ กุ้งเคยโดนญาติแกล้งให้กินตอนไปเที่ยวที่ลำปาง หมดสภาพเลยค่ะ จานชามแตกหมดกุ้งเคาะซะแตก หม้อก็บินเข้าไปในสวน หัวน่วมหมดเพราะนั่งแล้วหงายหลังล้มไม่รู้กี่รอบ ตื่นขึ้นมาเสื้อผ้าหายหมดมีชุดคลุมร่างกายเอาไว้เท่านั้น ลูกพี่ลูกน้อง (ผู้หญิง) บอกว่าพี่กุ้งเมาแล้วอ้วกเลยจับเอาน้ำราดแล้วพามานอน ปากขมไปตั้งหลายวันกินอะไรก็ไม่อร่อย (เขาเรียกว่าแฮงค์รึเปล่า) คนไม่เคยกินโดนลุงป้าน้าอาแกล้งเขาบอกว่าจะดูไอ้กุ้งเมาว่าเป็นยังไง เข็ดเลยค่ะหลังจากนั้นไม่เคยกินอีกเลย
มีความสุขกับการที่ได้ให้มากกว่าการที่ได้รับ
ยายอิ๊ด
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:57
Permalink
กุ้ง
สาโท ก็แบบนั้นค่ะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
Slowlife
17 พฤศจิกายน, 2010 - 12:09
Permalink
แป้งข้าวหมาก
ยายอี๊ด...อ่านแล้วเข้าใจว่าจะเป็นประเภทแป้งข้าวหมากของภาคกลาง ตอนเด็กแม่ชอบทำข้าวหมากให้กินค่ะ ซื้อเขากินไม่พอเลี้ยงลูก เพราะกำลังโต ทำกินเองน่าจะประหยัดกว่า เรากินมั่ง ป้อนให้หมามันกินมั่ง หมาก็เจ้ากรรม กินไปพักเดียว ล้มตึงเลย
เดี๋ยวนี้ก็ยังมีขายค่ะ แต่ต้องไปหาซื้อกับแม่ค้าที่เขาขายของเป็นกระจาดที่มีขมิ้น มะขามป้อม มะม่วงเบา ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องไปถามหาซื้อกับแม่ค้าที่ขายของประเภทนี้ แต่แม่ค้าเขาไม่วางโชว์ไว้บนกระจาดนะคะ เขาซ่อนไว้ใต้กระจาดอีกที เวลาไปซื้อก็บอกว่าซื้อแป้งข้าวหมากหรือแป้งเหล้า มีสองอย่าง
ตอนสมัย slowlife สาวๆ เป็นตัวตั้งตัวตีหมักเหล้าบนแฟลตที่พักค่ะ ไม่ดื่มแต่ชอบทำเล่น จะมีงานเลี้ยง ก็ไปซื้อมา แม่ค้าเขาก็บอกมานะคะ ว่าแป้งลูกนึงใช้ข้าวเหนียวเท่าไหร่ คงเป็นเพราะนิสัยที่ทำอะไรมักทำไปเรื่อยๆ ไม่ตามสูตรเขาหรอกค่ะ ปรากฏว่าเน่าทั้งโอ่งมังกรใบเล็กเดือดร้อนพี่ๆ เค้าต้องขนไปทิ้ง แล้วไปซื้อน้ำตาลเมาจากเมืองเพชรมาใส่คูลเลอร์น้ำเย็นดื่มงานเลี้ยงแทน สนุกไปตามวัยแหละค่ะ...
บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน
ยายอิ๊ด
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:56
Permalink
Slowlife
เหมือนกันเลย สมัยเรียนที่ กทม. งานวันเกิดค่ะ แต่ยายอิ๊ดทำแบบไวท์ค่ะ หมักกับสัปปะรด โอ่งมังกรเลยค่ะ แต่ไม่ใส่ลูกแป้งค่ะ ที่แฟลต คลองจั่นค่ะ 5+++
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
อารีย์_กำแพงเพชร
17 พฤศจิกายน, 2010 - 14:36
Permalink
เมื่อก่อนนี้
แต่ก็หลายปีมาแล้วนะคะ 7-8 ปีได้แล้วมั๊งก่อนหนูแต่งงานอีกน่ะ เวลาจะมีงานบ้านใคร หรือจะถึงสงกรานต์ เขาจะทำไวท์สับปะรดไว้กินกัน หรือไม่ก็ไวท์กระเจี๊ยบ เคยลองชิมดูก็อร่อยดีค่ะ แต่ไม่กล้าชิมมากกลัวเมา แต่ชอบกินแป้งข้าวหมากนะ หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยเห็นมีใครทำกัน เพราะตอนงานแต่งหนูก็ไม่ได้ทำกันแล้ว ผ่านมา 4-5 ปีแล้วค่ะ
แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง
ฅนคลองอ้อม
17 พฤศจิกายน, 2010 - 14:02
Permalink
พฤติกรรม
พฤติกรรมเหมือนกัน เวลากินข้าวหมากแล้วน้ำที่เหลือ ชอบให้เจ้าสุนัขกิน แล้วนั่งขำเวลาที่เขาเดินไม่ตรงทาง (หมาเมา ดีกว่าคนเมา)
มะโหน่ง
17 พฤศจิกายน, 2010 - 12:18
Permalink
ไม่ได้กินนานแล้ว
เคยกินข้าวหมากไปครั้งนึงตอนเด็กๆ ด้วยความอยากรู้ว่าอร่อยมั้ย แม่เลยให้ลองชิมซะเลย...ผลก็คือ กินจนหมดห่อเยย 55 (แถวบ้านหนูยังมีคนแอบต้มเหล้าเถื่อนอยู่เลยค่ะ แต่ตำรวจไม่จับ เพราะญาติตำรวจเป็นคนต้มขาย
)
สุดมือสอย ก็ปล่อยมันไป^^ ธรรมะ จากท่าน ว.วชิรเมธี
ยายอิ๊ด
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:52
Permalink
มะโหน่ง
5+++ เสียชื่อหมดเลย แบบนี้ต้องกระจาย...เลือกปฏิบัติ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
ดงดม
17 พฤศจิกายน, 2010 - 13:28
Permalink
ยายอิ๊ด
เป็นอย่างเดียวที่ กินไม่เป็นเลย ตอนเด็กๆย่าชอบทำกินประจำ แล้วก็ชวนให้กินให้ลองดูก่อน ลองไปหลายหนแต่ก็ไม่สามารถ ยอมแพ้เมนูนี้ของย่าจริงๆ
ยายอิ๊ด
17 พฤศจิกายน, 2010 - 14:00
Permalink
พันนั้นหลาว
เสียใจหลาวน้องดงดม ไม่ได้กินของหรอย
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
หน้า