แอปเปิลหลากสีหลากประโยชน์

หมวดหมู่ของบล็อก: 

แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์


แอปเปิ้ล ผลไม้ยอดนิยม นอกจากรูปร่างจะน่ารับประทานแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วย  แอปเปิ้ลในท้องตลาดมีอยู่หลายสี แต่ละสีก็มีประโยชน์แตกต่างกัน หลายคนไม่ชอบทานเปลือกแอปเปิ้ล ซึ่งนั่นผิดมหันต์ เพราะจะทำให้คุณค่าจากสารอาหารที่จะได้รับจากผลไม้ชนิดนี้ ลดลงไปอย่างมาก ประโยชน์ของแอปเปิ้ลที่คุณควรรู้มีดังต่อไปนี้
แอปเปิ้ลที่เห็นตามท้องตลาด มีทั้งเปลือกสีแดง สีชมพู สีเขียว และสีเหลือง แตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ แต่เนื้อข้างในก็เหมือนกันคือ เป็นเนื้อทรายละเอียดสีขาวนวล

ทราบไหมว่า เมื่อรับประทานแอปเปิ้ลโดยไม่ปอกเปลือก 1 ผล จะได้รับพลังงานประมาณ 80 กิโลแคลอรี่ มีวิตามินบี 6 เท่ากับ 0.1 มิลลิกรัม และวิตามินซีมากถึง 7.9 มิลลิกรัม
นอกจากนั้นยังมีสารเบต้าแคโรทีน และเส้นใยไฟเบอร์ ช่วยในเรื่องของการบำรุงหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดความดัน ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเชื้อไวรัส
แต่ถ้าปอกเปลือกปริมาณสารอาหารดังกล่าวก็จะลดลงไปด้วย มีความเชื่อของฝรั่งกล่าวไว้ว่า การรับประทานแอปเปิ้ลวันละผล ช่วยให้ห่างไกลหมอได้ โดยแอปเปิ้ลแต่ละสีก็มีประโยชน์ต่างกันดังนี้
แอปเปิ้ลสีแดง ประโยชน์ที่โดดเด่น คือ มีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวอีกด้วย
แอปเปิ้ลสีชมพู คุณค่าทางสารอาหารที่สำคัญคือ มีสารฟิโนลิกมากที่สุด ซึ่งสารตัวนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย
แอปเปิ้ลสีเขียว มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะมีน้ำตาลน้อย และมีสารอิลาสตินและคอลลาเจนเช่นเดียวกัน ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี
แอปเปิ้ลสีเหลือง มีสารเควอร์ซิติน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก
                                                                         ที่มาบทความ  Teenee.com
 


ความเห็น

ไม่มั่นใจว่าระหว่าง ทานทั้งเปลือก สารอาหารที่ได้รับ กับ ยาฆ่าแมลง หรือสารเคมี ต่าง ๆ ที่เคลือบผิวอยู่ +-*/ แล้ว อะไรจะคุ้มกว่ากัน ผมก็เลยปอกเปลือกทุกครั้งที่กิน

:confused: :confused: :confused: :confused: :confused:

เมื่อรู้สึกว่ากำลังแย่ จงให้กำลังใจตัวเอง ด้วยการคิดว่า "ยังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก"

 

มีน้ำหมักอยู่ กลัวอะไร เอามาครึ่งแก้ว เทลงน้ำแช่ในกะละมัง 15 นาที กรอบ หวาน ไม่เหี่่ยว สารเคมีที่เคลือบผิว ก็หมดปัญหา เก็บไว้นานก็ไม่เหี่ยว ยังหวานกรอบ เหมือนเดิม หวาน หอม กว่าปกติด้วย ลองดูสิ 

ผักต่าง ๆ ที่จะเอามาเก็บไว้ในตู้เย็น ก็ทำเหมือนกัน แช่ 15 นาที แม้แต่หุงข้าว ก็ใส่ในหม้อหุง หรือแช่ล้างข้าว ข้าวไม่บูด อร่อยมาก ลองดู....สูตรนี้ลองดูอย่างเดียว ไม่ต้องเชื่อพี่..แต่ลอง

:uhuhuh: ต่อไปนี้ ข้าพเจ้าจะเป็นคนเขียนบล็อกแล้วให้คุณธนนันท์ช่วยตอบ..เออเข้าท่าแหะ ช่วยกันทำมาหากินเนอะ>>>ขอแซวแนเด้อเจ้าแม่น้ำหมัก มื้อได๋สิเป็นเจ้าแม่หวยล่ะ สิได้ไปขูดเอาเลข555555666669999

สิมาขูดเอาหยัง เจ้าของกะยังถูกกิน...เรียบ....บ่ต้องตั้งบล็อกให้ดอก...ตะบล็อกเจ้าของกะตอบบ่หวาดบ่ไหว งานเข้า..ว่าง ๆ เดี๋ยวส่งข้อความหาเด้อ..(ว่างยามได๋พุ่นล่ะ)

หนับหนุนความคิดเห็นของน้องนันท์  ใช้เแช่ผัก  ผลไม้  สารเคมีจะหมดไป  และทำให้กรอบ  อร่อยด้วยอีกต่างหาก 

:admire: ให้เป็นน้ำหมักก่อนแล้วลองทำดู>>ไม่ลองไม่รู้

น่ากินมากค่ะ

แรงกาย+แรงใจ ลงมือทำในวันนี้ เพื่อชีวิตที่พอเพียง

:dreaming: ซื้อให้น้องหนึ่งกินด้วยค่ะ(เพราะปลูกเองคงไม่ได้)

ขอบคุณคุณอิ๋วมากได้ความรู้หลากหลายดีเพราะพี่ก็สนใจเรื่องดีๆมีประโยชน์กับสุขภาพอยู่แล้ว

:embarrassed: รู้แล้วก็ปฏิบัติด้วย..จะได้เกิดประโยชน์กับตัวเอง

หน้า