เจ้าของบ้านพาไปเที่ยววัดบนเขา ตอน ๒

หมวดหมู่ของบล็อก: 

จากตอนที่แล้วเราก็เดินกันรอบๆวัด และในวัดบางส่วน บล็อกนี้เป็นขากลับ เดินเขาป่าไปยังจุดชมวิว วัด และ ไปดื่มน้ำมงคล แล้ว เดินลงเขาด้วยเส้นทางสายรอง ซื่งคนน้อยเดินง่ายสบายใจดี รวมทั้ง ก่อนกลับเจ้ เขาพาผมไป ทานขนมพื้นบ้านด้วยครับ ใครสนใจตามได้ในบล็อกครับ

วัดคิโยมิซุ นี่มีผู้คนมาเยียมมากมาย วัดทั้งหลังสร้างโดยไม่ใช้ตะปู

ภาพด้านบนเป็นทางลงเดินไป บ่อน้ำพุมงคลครับ

ด้านล่างเป็นชุดภาพน้ำพุมงคล

ภาพด้านบนมองดูครับ น้ำที่ตกมาจาก หลังคา คือน้ำธรรมชาติ ที่เป็นมงคลตามเขาเล่ากันมาใครไปมาก็จะ เอากระบวยก้านยาวลองน้ำมาดื่มกิน เป็นศิริมงคล กระบวยนี้ทานกันหลายปากครับ

น้ำไหลออกมาจากเขาตลอด ไม่เคยแห้ง ไหลมาก็ลงบ่อนี้ ครับ เขาก็จะมีท่อต่อน้ำออกไป อีก

กระบวยใช้กันหลายปาก เพื่อป้องกันโรคติดต่อ เขามีช่อง ฉายแสง ฆ่าเชื้อ เราก็เอากระบวยแหย่ เขาไปในช่องนะครับ ผมก็ไม่ทราบว่ากันได้แค่ไหน แต่ก็ดี กว่าไม่มีอะไร เลยนะครับ ได้เวลากลับแล้ว ผมสองคน เดินขึ้นเขา ลงเขากันจนเหนื่อย เจ้เจ้าของบ้านก็ผ่านมาเจอร้านน้ำชาร้านนี้เข้า ขายขนมพื้นบ้าน กับ น้ำชาข้าวบาเลย์ ราคาไม่แพงนั่งพักผ่อนได้เป็นอย่างดีครับ

ด้านบนเป็นภาพภายในร้านขนมครับ นั่งสบายๆ ลมเย็นๆ

ขนมที่เขา ขายในร้านครับ ผมซื้อมาสองอย่าง เป็นขมโมจิชาเขียวเสียบไม้ ไม่หวานนะครับ แล้วในถ้วย คือวุ้นเหนียวๆ หั่นเป็นเส้น ทานใส่น้ำส้มกับซีอิ๊ว ญี่ปุ่น เค็มๆเปรียวๆ เจ้เขาชอบทานมาก เจ้เจ้าของบ้านไม่ได้ทานขนมนี้มานาน เหนื่อยๆ หิวๆ เจ้ของผมไม่รอช้าเลยครับ ส่วนน้ำชา ข้าวบาเลย์นั้น อากาศร้อนๆ เขาจะแช่เย็นดื่มได้ดีมากๆ ชุ่มคอ ผมดื่มไปเยอะเลย ร้านนี้จะทำขนมเองขายเองครับ

ผมได้แต่มองเจ้ เขากินครับ เจ้เขาทานน่าอร่อยมาก ผมลองทานแล้วไม่ชอบครับ คงเหมือนเวลาที่เจ้เขาทาน ทุเรียน เราทานอิ่มแล้วเราก็เดินลงเขา กลับบ้าน

เดินลงแล้วครับ ขาลงเจ้ เขาพาเดินลงใน ถนนที่ไม่มี นักท่องเทียวเดินครับ สงบดีมาก

แถวนี้เป็นเขตอยู่อาศัย ครับมีร้านค้า ไม่มาก รถยนต์ก็ไม่มีครับ เป็นเขตคนเดิน เดินสบายและสงบดี สุดท้าย ผมก็ชอบวัด คิโยมิซุ นะครับ ถ้าคนน้อยหน่อย คงไหว้พระสบายขึ้น ครับ ไหว้พระทำบุญแล้วเราก็กลับบ้าน บ้านเจ้ เขาอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นะครับ นั่งรถไฟกลับ ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว ไปอยู่บ้านเจ้เขาครั้ง นั้นได้พักผ่อนกันจริงๆ ไม่ต้องห่วงต้องกังวลใจอะไรกันมากครับ

ไหว้พระต่างที่ ก็ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบครับ ไปบ้านเจ้เขาแล้วก็คิดถึงบ้านเรา เล่าไป แล้วก็อยากหาซื้อตั๋ว เครืองบินกลับบ้านเลยนะครับ ผมจะซื้ออะไรก็ต้องรอให้ ราคาถูกๆ ก่อน เพราะเรามีเงินจำกัด เจอตั๋วกลับเมืองไทย ถูกๆ เมื้อไหร่คงซื้อเหมือนกัน ครับ คิดไว้ถ้าได้ไปไหว้คุณพ่อ และ ทำบุญด้วยกันตอนปีใหม่คงดีครับ

แล้วเจอกันในบล็อกต่อไปครับ

ผมตุ้ยคนสวน กับ เจ้เจ้าของบ้าน

 

 

 

ความเห็น

ตอนพี่ไปญี่ปุ่น ได้ไปที่วัดนี้ด้วย ทึ่งมากๆๆ หลังคามุงด้วยหญ้าใช่มั้ย


 

สวัสดีครับ พี่ ใช่ครับ เก่ามาก คนไทยไปเยอะ เหมือนกันครับวันที่ผมไป ตอนช่วงที่ป่าไม้ เปลี่ยนสีคงสวยมาก แต่ผมไม่มี เวลาไป ช่วงนั้น นะครับ

ตามดูให้ครบตอนเดี๋ยวจะพลาดวิวทิวไม้สวยๆ

ร่มรื่นดีด้วยต้นไม้  บนภูเขาใบไม้ต่างสีมองไกลเหมือนมีดอกแซมสลับ  วัดนี้ถ้าเป็นทางไทยพรเคยเห็นอยู่แถวเพชรบุรีจะทำวัดลักษณะคล้ายกันคือสร้างบนเขาแล้วชั้นบนสุดก็จะสูงเหนือปลายไม้  มองเห็นได้จากถนนไกลๆ  ทางลงก็ร่มรื่นดีแต่สงสัยถ้าเป็นตัวเองคงได้กลิ้งลง น่าจะไกล555

ขอบคุณ ครับคุณพร ผม ชอบวัดบนเขาครับ มีโอกาส ต้องไปบ้างครับ เพชรบูรณ์ ไม่ได้ไป นานมากเลยครับ วัดนี้ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะ สวยมาก หรือ ช่วงหน้าหนาว จะ ขาวไป หมด นะครับผมเห็นตามรูปในเน็ต ยังไงลองชมดูครับ

http://www.google.com.au/search?q=kiyomizu+temple&rlz=1T4ACAW_enAU413AU4...

วิวสวยมากเลยค่ะคุณตุ้ย ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ

"ความสุขของชีวิตในวันนี้ คือทำตามวิถีพอเพียงของพ่อ"

ขอบคุณ ครับบีฟู มี ภาพอีกครับ ถ้าสนใจดูเล่น เขาถ่ายได้ภาพ ดี กว่า ผมเยอะเลย ครับ

http://www.google.com.au/search?q=kiyomizu+temple&rlz=1T4ACAW_enAU413AU4...

 

สวัสดีค่ะ สบายดีนะคะ สวยน่าไปเที่ยวบ้างค่ะ ขอบคุณนะคะที่นำภาพมาให้ชม

สวัสดีครับ คุณ สบายดีตามอัตภาพ ครับ สมัยก่อนไม่มีภาระ ก็ ชอบเดินทาง สมัยนี้ อยากไปไหน ก็ ไป ลำบาก หาเวลากลับบ้านได้ ก็ สบายใจ เหลือบ้านผม ยังไม่ได้ กลับ

วัดร่มรื่นมากเลยค่ะ วิวสวยมาก หนูอยู่เมืองไทย แฟนมีบ้านอยู่คนละจังหวัด ก็เทียวไปเทียวมาได้บ่อย แต่น่าเห็นใจพี่ตุ้ยกับเจ๊ บ้านอยู่คนละประเทศอีก ขอให้ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเร็ว ๆ นะคะ ตอนแรกคิดว่าเจ้เป็นคนไทย เห็นสีผม แต่ติดตามมาเรื่อย ๆ เอ...คงไม่ใช่้คนไทย จะว่าฝรั่งก็ไม่ใช่ ถึงบางอ้อก็ตอนี้ล่ะค่ะ อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะพี่ ๆ ทั้งสอง

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

ขอบคุณ ครับน้อง อารีย์ ผมสองคน ต้องแบ่งเอาครับ สมัยก่อนลางานไดีครังละ สามเดือน เพราะทำงาน ที่ออนไลน์ ได้ สมัยนี้ ลางานได้ครั้งละไม่กี่อาทิตย์ ก็ต้องไป ที่ละ บ้าน ปีใหม่นี้ ถ้าไม่ติดอะไร คงได้กลับเมืองไทย ครับ กลับไปก็ไม่ทราบจะเริ่มตรงไหนดี ไม่ได้กลับไปหลายปี มีเรื่องให้ทำที่เมืองไทยเยอะเลย ครับ ขอบคุณ อีกครั้งสำหรับกำลังใจ ที่มีให้กันต่อเนื่อง ครับ แล้วคุยกันอีกครับ น้องอารีย์

หน้า