ถวิลอดีต ..

หมวดหมู่ของบล็อก: 

         ภาพข้างล่างนี้ ท่านคงจำได้ แล้วบอกว่า ... อ๋อ ... เห็นเมื่อวันวาน (24 มี.ค. 2558) นี่เอง

        ใช่เลยครับ ... และข้าพเจ้า ยังได้บอกเอาไว้ว่า ... 

            “ตั้งใจซื้อมาไว้หุงข้าว ต้มแกง ด้วยถวิล อดีตอารมณ์”

     เช้านี้ .... อดีต ที่อารมณ์ถวิลหา จึงได้รับการสนอง

 

 

 

      หม้อหุงครั้งแรก ... ความหอมแม้จะไม่เต็มที่ แต่ยินเสียงลูก ...

         “หอมจังเลย พ่อ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     ป้า ดั่งจะรู้ใจ จัดเตรียม “หน่ามฉุบแฮ้ง” (น้ำพริงแห้ง) ให้ “กุบ” หนึ่ง (กล่องหนึ่ง) ... คงกินได้ไปหลายวัน ฮึ ๆ ๆ

 

 

 

 

 

     คลับคล้าย คลับคลา ... จึงเปิดคันหาในตู้เย็นผู้น่าสงสาร ... ด้วยว่ารับภาระอิ่มเกือบ อ้วก ... เพราะอะไร ๆ ก็ฝากไว้ในตู้เย็น ...

 

 

 

 

         .... แล้วก็ ไม่ผิดหวัง “แกงขี้ปลา” ตามภาษาคนสุราษฎร์ ฯ ก็ ... แกงไตปลา ภาษาปะกอกนั้นแหละ

 

 

 

 

 

     มี … ‘หน่ามฉุบแฮ้ง’ ... มี ‘แกงขี้ปลา’ ... ข้าวสวยร้อน ๆ จากหม้อดิน พร้อมแล้ว

          “เอ้า ... ลุย ...”

     อ้อ ... อ้อ ... อ้อ ... เดี๋ยวซี แขกร่วมพิธีงานกินยังมาไม่ครบ ... รอหน่อย นอนอยู่ในกะถางข้างบ้านนี่เอง ไหว้วาน ... อ้อ ขอโทษ เขียนผิด ... เอาเอิน (เอาใหม่) ฝังกลบไว้ 4 – 5 วันแล้ว เดี๋ยวจะไปคุ้ยมาร่วมงาน

        ปลุกตื่นขึ้นมา อาบนำ ขัดถู ดินทรายออก ... หล่อไหม ... โอ๊ะ ผิดอีกละ ... ‘น่ากินแม๊ะ ?’

 

 

 

 

                             นี่ไง ... ‘หลูกเนียงหม้าน’ (ลูกเนียงเพาะ)

 

 

 

 

 

                  ทุกสิ่งพร้อม ...

 

 

 

     เข้ากระบวนการ บูรณาการ ...

      ใครชอบสิ่งใด ก็ จัดการให้ตัวเอง ละกัน ข้าพเจ้าเริ่มละนะ

 

 

 

 

 

     ขณะนั่งทาน ก็ปล่อยใจให้มองย้อน ที่มาของอาหารมื้อนี้ ... เฮ้อ ... ได้มาเพราะอารมณ์ปรุง ที่โหยหาอดีต นะแหละ แล้วปล่อยคำนึงยาว ....

     อารมณ์ ... ใครจะเห็นเป็นกี่ด้านก็ตาม แต่มีแหล่งเกิดเดียว คือ “อยาก” .... แต่ผลของอารมณ์ จะ เปรี้ยว ... หวาน ... มัน ... ขม ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ผู้ปรุง นำมาใช้ นั้นคือ ...

          “ทิฐิ ...”

ความเห็น

สมัยเป็นเด็กแม่เคยทำกับข้าวในหม้อดินให้กินค่ะ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

ก็ลุง อยากกลับไปเป็นเด็กอีกหน ไง หลานแดง

     แม้จะเป็นไม่ได้ด้วยร่างกาย ... ขอเป็นเอาแค่ใจที่หวนรำลึกเอาก็ดี ฮึ ๆ ๆ ๆ

        ฝากความคิดถึง ซุปเปอร์แมนเวทย์ ด้วยนะครับ ขอให้รักษาสุขภาพดี ๆ

น่ากินมาก ค่ะ คุณลุง..แม้หนูจะไม่เคย ลิ้ม ชิม ข้าวสวยหม้อดิน แต่หนู ประมาณได้ว่า หอม แน่ๆ ค่ะ...คุณลุงถวิลหา สิ่งเก่าๆมา สนอง ได้ ....คุณลุงทราบมั้ยคะ ว่า การดำเนินชีวิตแบบพอเพียง (ตามแนวพระราชดำริ)...ไม่มีวันล้าสมัย ค่ะ...ตอนเด็กๆแถวบ้านก็ดำเนินวิถีชีวิต แบบพอเพียง ...แต่ความเจริญด้านวัตถุ ได้มาพรากสิ่งดีๆไปจากสังคมชนบท..ให้ละเมอเพ้อพก แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้(หรือสุขชั่วยาม)....แนวพระราขดำริ พอเพียง ...สิ่งที่หลายๆคนถวิลหา ก็กลับมาอีกครั้ง ด้วยความยิ่งใหญ่ และท้าทาย..การยืนได้ด้วยตนเอง ด้วยความ พากเพียร,พอเพียง..จะทำให้เราไม่ต้องเป็นหนี้ ใคร ค่ะ..นะจ๊ะ เจ้าหม้อดินน้อยๆ ของคุณลุง...ขอบคุณค่ะ

ขอทรงพระเจริญ

     ที่ขอถวายพระพรก่อน ด้วยหลานบัว ยกเอาแนวพระราชดำริ ในล้นเกล้า มาพรรณาไว้ ...

     แต่จะมีกี่มากน้อย ที่คิดจะดำเนินตามแนวพระราชดำริ ยิ่งผู้จะนำไปสู่การลงมือปฏิบัติ แทบไม่ต้องกล่าวถึง

     ก็ไม่ต่างจาก พุทธธรรม ที่มีผู้รัู จำ พูดได้คล่อง ... แต่ที่ปฏิบัติจริงตามนั้นละ ?

        อันที่จริง ลุงจะเขียน นำเที่ยว 'โครงการชั้งหัวมันตามพระราชดำริ' อยู่หลายหนแต่ยังลังเลอยู่จนบัดนี้

     ส่วนการหุงข้าวด้วยหม้อดินนั้น เป็นวิถีชีวิตลุงที่มีมาในอดีต ครั้งเยาวัย 5 - 6 ขวบ ที่ต้องหุงหาให้น้องกิน และไว้รอคุณแม่กลับจากไร่ คุณพ่อกลับจากโรงเรียน

       ขออภัย นะครับ ที่เพ้อเจ้อ รบกวนเวลา

น่าจะหอมครับข้าวหม้อดิน  รู้สึกอยากกินขึ้นมาเลยครับ

หอมจริง ๆ ครับ ... ได้ข้าวตังก้นหม้อ แถมมาด้วย ไม่ได้เคี้ยวมานานแล้ว

c แค่นี้ก็หรอยจังหู้แล้ว

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

      หร้อยสองถาว ป้าเหอ

        - หร้อยข้าวจากหม้อดิน หนึ่งละ

        - หร้อย เมื่อได้ดึงความรู้สึกในอดีต มาร่วมเคี้ยวด้วย อีกหนึ่ง

ลุงหุงข้าวกับหม้อดิน ใช้ความร้อนจากเชื้อเพลิงอะไรครับ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ที่ คอนฐม ไม่ได้ซื้อถ่านไม้ไว้ครับ ... ฟีนกาหาม้าย

     ลุงหุงเอากับเตาแก๊ส แทน

หน้า