การเปลี่ยนแปลง ในชีวิต
บล็อกนี้ อยาก เขียนเล่า ในฐานะ เพื่อน บอก เพื่อน ครับ เมื่อ เพื่อน มีความยินดี มีสุข จากการ ดำเนินชีวิต ปลูกผัก ทำกับข้าว ทำสบู่ หรือ อะไรใช้เอง ไปเที่ยวไหน มีข้อมูลอะไรที่พอรู้บ้าง เพื่อนคนนี้ก็ แบ่งปัน กันฟัง พอมาถึง ช่วงที่ชีวิต ก้าวเปลี่ยน ก็ อดนึกที่จะ เล่าสู่ กันฟัง ไม่ได้ ครับ อย่างที่ผมเคยเรียนไว้ คร่าวๆ ว่า ผมทำงานชั่วคราวจากบ้าน ก็มีความสุข ทั้ง กายทั้งใจ ดี มาวันนี้ ผมกลับไป ทำงาน ประจำ แล้วครับ เหตุและ ผล อยู่ใน เนื้อหาด่านล่าง เป็น การ เล่าสู่กันฟังจาก เพื่อนถึง เพื่อน ครับรูป ภาพที่นำมาลงประกอบ คำไร้สาระของผม เป็น ภาพ ของ สวนสาธรณะริม แม่น้ำ ซึ่งตั้ง อยู่ ฝั่งตรงข้ามของที่ทำงานใหม่ครับ
บุคลิกผมนั้น เป็นคนไม่ชอบ อยู่ นิ่ง ชอบหาอะไร ทำ ไม่ ให้ ตัวเอง ว่างอยู่ ตลอด เวลา ตอนทำงาน อยู่บ้าน ก็ ทำ ทั้งงาน ทำทั้ง สวน ว่างก็ ทำงานบ้าน อีก ไม่เหนื่อ ไม่ท้อ อะไร เลยครับ มี ความสุข ดี กับ ทุกชีวิต ที่เป็นไป หลังจาก ลาออกจากงานได้ หนึ่งปี ช่วงลาออก มาใหม่ๆ ก็มี งาน เสนอ เขามาให้ ประจำ พอ เวลา นานไป งานประจำก็ ไม่มีใครเสนอ มาซึ่งถือว่าดี เพราะการบอกปัด งาน และ เงิน ล่อใจ นั้น ทำได้ลำบาก ครับ ตลอดปีที่ผ่านมา คนที่ได้ ประโยชน์ สูงสุด คือ เจ้ ครับ ท้าวความหลัง ครับ ที่เจ้ยอมแต่งงานกับ ผม ก็เพราะ ผม สัญญาว่า จะ เห็น เจ้ สำ คัญกว่า งาน ซึ่ง ทำไมได้ เลย จนมา เมื่อ ปีที่แล้ว ทำตามที่สัญญาได้ ชีวิตเราทั้งคู่ ก็ มี ความสุข ครับ สุขจากสิ่ง ที่เรามี รอบๆ บ้าน และ สุขจาก สังคมวงใน ไม่ใช้ สังคมวงนอก ที่ รวบรวม เพื่อน ร่วมงานนิสัยไม่ดี หรือ ลูกค้า ที่เราไม่คิด คบหาด้วย ผูดง่ายๆ คือ สังคมใน ปี ที่ผ่านมา อยู่ กับ เพื่อนจริงๆ ครับ
เมื่อ ชีวิต สุขใจมั่นคงทั้ง เงิน ทั้ง ความรัก แล้วทำไม ผม ถึง ยังต้อง หา เงิน เพิ่ม อีก ข้อแรก เลย ตั้งใจจะมีทายาท ครับ ไม่รอ อีก แล้ว ถ้า ปีนี้มีเองไม่ได้ ปี หน้า จะ ใช้ หมอ ช่วย ครับ การมี ลูกนั้น ก็ ต้อง เตรียมพร้อมเรือง การเงิน ถ้า ภรรยาไม่ทำงาน เงินผมที่หาได้ คนเดียว จาก งานเดียว ก็คงไม่พอเลี้ยง ทั้ง แม่ ทั้ง ลูก ดังนั้น เลยอยาก หา เงิน เพิ่ม พยายามหา งานอย่างที่สอง เสริม ขึ้น เมื่อหางานเพิ่มแล้ว เวลา ทำงานก็ ย่อม มาก ขึ้น เวลาส่วนตัว ก็ น้อยลง อยู่ดี จึ่ง อยาก หางาน ที่ทำ อย่างเดียว เวลา น้อยและ ได้เงิน พอใช้ ดีกว่า
ข้อที่สอง อยากให้ เจ้ได้พักครับ อยาก สลับให้ เจ้ ลาออกจาก งาน มาทำ อยู่ กับ บ้าน บ้าง เพื่อ เจ้ จะ ชอบ ทำงานลดลง ตอนนี้ เจ้ พยายาม เบางาน ตัวเอง ลงครั้บ เพื่อน ที่จะ ออก มา ทำ จาก บ้านได้ บ้าง หรือ เจ้ อาจจะ กลับไปเรียนต่อ ผม ก็ สนับสนุน เพราะ เรียนไป ด้วย ตั้งครรภ์ ไป ด้วย สบายๆ ครับ เจ้ คิดไว้ เขาเอง ก็ชอบ ทำ อะไร หลายอย่างพร้อมกัน
ดั้งนั้น ถ้า ผม ทนทำงานประจำที่ใหม่นี้ได้ หก เดือน เจ้ ก็ จะ ออกจากงาน ขณะที่ตั้งครรภ์ ได้ พอ ดี ถ้า เจ้ และ ผม ไม่มี ทายาท เจ้ ก็ ออก อยู่ ดี เราจะ ได้ เริ่ม ขบวนการทางแพทย์ ต่อไป ยังไง ก็ ตั้ง ใจมาก เรื่อง ทายาท ครับ ยังไง วางแผน ทางเลือก ไว้ เยอะ และ งบประ มาณด้วย ต้อง ค่อยๆ ดู กันไป
ข้อสุดท้าย ที่คิด กลับไป ทำงานประจำ เพราะ เนื้อ หาของงาน เวลาการทำงาน และ รายได้ เหมาะสม กับการใช้ ชีวิต ของ ผม ครับ คือ ทำงาน แค่ อาทิตย์ ละ สามสิบแปด ชัวโมง รวมเวลา พักทานข้าว วันละ ครึ่ง ช.ม. เข้าที่ทำงาน แค่ สามวัน เดินทาง สองวัน ซึ่งถือ ว่า ไม่เลว เลยครับ ผมนั้น เป็นคน ชอบทำงาน ให้ ออกมาดี ไม่ใช้ เพราะ อยาก ได้ เงิน หรือ ตำแหน่ง แต่อยากได้ ความ ภูมิใจ มากกว่า ที่ทำงานแล้ว ได้ ออกมาดี ยังไงก็ ตาม ภาระ งานไม่มาก เลยไม่ต้อง ขนงาน กลับ มาทำ ที่บ้าน เหมือน สมัยก่อน ที่ต้อง ทำ อาทิต์ ละประมาณ เกือบ เจ็ดสิบ ชัวโมง แน่นอน ครับ ทำงานน้อย ก็ได้ เงิน น้อย แต่เงินที่ ที่ทำงานใหม่จ้าง นั้น พอที่จะ ครอบคลุม งบรายจ่าย และ ยังพอมีเหลือ เก็บ ในกรณีที่ผมทำงาน คนเดียว เจ้ไม่ ทำงาน ซึ่ง งานชั่วคราวที่ทำ ที่บ้านงานเดียว แบบนี้ รายรับไม่พอ รายจ่าย และ เงิน เก็บ แน่ครับ ถ้า ทำ คนเดียว อย่างที่เรียนไว้ ค้างต้น
ฟังดู แล้วที่ทำงานใหม่ ให้ ข้อ เสนอ ไม่เลว เลยครับ ทั้ง เรื่อง เวลา และ ค่าแรง ข้อ เสีย คือ ไกล บ้าน ที่ อยู่ ครับ ออก จาก ตัวเมืองมา ด้วย ข้อเสีย อีก คือ ระบบงาน ที่เรา ต้อง เรียนรู้ อีก และ เพิ่มแต่ง ไป รวมถึง ความกดดัน จาก ตำแหน่งงาน รวมถึงภาระ ปวดหัว จากหัว หน้า เพราะ เราทำ เป็น คนประจำ ย่อม มี เรื่อง เครียด มากมาย ยังไง ก็ ตาม ข้อเสีย น้อย กว่า ข้อ ดี ช่วง อีสเตอร์ ที่ผ่าน มา เที่ยวไม่ สนุก มี อะไร กวนใจมากมาย เพราะ ใจ หนึ่ง อยาก อยู่ แบบไม่ ประจำ แต่ อีก ใจ ก็ อยาก ให้ เจ้ ได้ พัก มี ทายาท แน่นอน ครับ ถึง ไม่มี เงิน ก็ เลี้ยงลูกได้ เพราะ รัฐ มี เงิน ช่วย เหลือ แต่ ภรรยา ผมไม่เหมือน คนอื่น อยาก พึ่ง ตัวเอง มากกว่า ดั้ง นั้น เขา อยาก พร้อม จริงๆ เวลามี ทายาท นะครับ ผมเลย กังวลไป มา ด้วย ความรู้สึก ที่ว่า เราเป็น หัว หน้า ครอบ ครัว
จนมาเย็น วัน จันทร์ ที่ แล้ว เจ้ ก็ บอก ถามว่าผมมีอะไร ในใจ เลย ได้ระ บาย คุย กัน ยาว เจ้ เข้าใจ ดี เขาบอก ได้ ว่า ถ้า คิด มาก เรื่อง เงิน และ อยาก อยู่ทำงานที่ บ้าน แบบนี้ เขาจะ ขาย บ้านที่คุณ พ่อของ เจ้ ยกให้เขาเป็นของขวัญแต่งงาน เอามาเป็น เงิน เก็บ และ เจ้ ก็ จะ ออก จาก งาน ภรรยาผม ไม่ อยาก ตั้งครรภ์ และ ต้อง เครียด ทำ งาน ยังไงก็ ตาม ผมถือว่า ผมโชคดีมากที่ ภรรยาผม เข้าใจ ผมดี ทุก อย่าง เขาว่า ลึกๆ ตัวเขาก็ อยากให้ ผมทำ แบบนี้ได้ ดู แลกัน ทานข้าวเย็น ฟีมือ ผม พร้อม กัน อบอุ่นครับ ดี แต่ ครั้ง นี้ผม ต้อง บอกปัด เจ้ ครับ เพราะ ไม่อยากให้ เจ้ทำ ให้ ผม ไป มากกว่านี้ ขอรับผิดชอบ เงิน เอง อีก อย่าง งานใหม่ ก็ ไม่ได้ เลวร้าย อะไร ออก จะ ดี ด้วยซ้ำครับ เมื่อ เจ้ เข้าใจ ผม แล้ว ผม เข้าใจ เจ้ แล้ว ผมก็ ตัดสินใจทำงาน ประจำอีกครั้ง ครับ เพื่อนสนิท ผมผูด ประจำครับ ว่า อายุ และ ความสามารถ เรายัง น้อย หาประสบการณ์ และ เงินทุน อีก หน่อย ค่อย ออกมาทำเอง เป็น เรื่อง เป็น ราว จะ ดี กว่า ทำ ค้างๆ คูๆ แบบนี้ ซึ่ง ก็ จริง ครับ แต่ การเริ่ม ทำงานประจำใหม่ ของผม ครั้ง นี้ ไม่ได้ เริ่ม เพราะ อยาก ได้ หน้าที่ หน้า ตา ทางสังคมวงนอกครับ แต่ ครั้งนี้ ทำ เพื่อน ครอบ ครัว และ ฝัน ที่วางไว้ว่า วัน หนึ่ง จะ เป็น เกษตรกร เต็มตัวครับ ทั้งงาน ประจำ และ งาน เกษตร นั้น เป็น สองงาน ที่ผม รัก เหมือน กัน จึงไม่อึดอัด อะไร ที่จะ ทำ ทั้ง สอง งาน แต่ งานเกษตร เรียบง่าย และ สบายใจมากกว่าเยอะ ครับ ทำเกษตร เลย กลาย เป็น งานในฝันที่จะ ทำ ให้ ถึง เป็น เป้า หมายต่อ ไป ตอนนี้ ผม มี ภรรยาที่เข้าใจกันและ แบ่งปัน ปัญหาได้ แบบนี้ด้วย นับว่า เริ่มดี แล้วครับ
เลยเป็นที่มา ให้เขียน บล็อก บอกเล่า ความเปลี่ยนแปลง ของ ชีวิต ให้ เพื่อนๆ ฟัง ครับ มีแต่น้ำๆ เนื้อๆ ไม่ค่อยมี แต่รู้สึก ดี ที่ได้ ระบาย แบ่งปัน ทัศณคติ กัน ครับ
ขอบคุณ ที่ทน อ่าน มาจนจบ ครับ
เจอ กัน บล็อก ต่อ ไป
ตุ้ย
- บล็อกของ Tui
- อ่าน 8773 ครั้ง
ความเห็น
สายพิน
30 เมษายน, 2011 - 13:51
Permalink
ภาพทิวทัศน์บรรยากาศรอบๆที่ทำง
ภาพทิวทัศน์บรรยากาศรอบๆที่ทำงานใหม่สวยเหมือนไปพักผ่อนก็ว่าได้เลยนะคะ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีน้ำ มีฟ้า มีพื้นดิน มีต้นไม้ ไม่ทันสังเกตว่ามีนกด้วยหรือเปล่านะตุ้ย ...นี่เป็นความสุขอย่างหนึ่งของสิ่งแวดล้อมรอบๆที่ทำงาน หากว่าทำสามวันในหนึ่งสัปดาห์ ร่นเวลาในการเดินทางดีเยอะเลยนะคะ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกด้วย เป็นการบริหารเวลาที่น่าทึ่งเลย
...การตัดสินใจเข้าทำงานอีกครั้งเป็นสิ่งใหม่ แต่ดีกว่านั้นคือเป็นการวางแผนร่วมกันของตุ้ยกับคู่ชีวิต น้าว่าสองคนช่วยกันคิดนั้น ทำให้วิถีชีวิตที่ดำเนินไป ก้าวไปได้อย่างมั่นใจค่ะ ตุ้ย ...น้าขอเอาใจช่วย ขอเป็นกำลังใจให้กับความเปลี่ยนแปลงนี้ พากเพียร อดทน อีกสักระยะนะ การเปลี่ยนแปลงในชีวิตลงตัว เวลานั้นหลายอย่างก็สวยงามเลย
Tui
30 เมษายน, 2011 - 13:57
Permalink
ขอบ คุณ ครับ น้า อย่างที่เล่า
ขอบ คุณ ครับ น้า อย่างที่เล่า ไว้ ครับ ห้อง ประชุม สวยมาก มอง ออกมา สด ชื่น เลย ครับ มี นก มี ปลา มี คนปั่น จักรยาน ครับ แต่วันนั้น ถ่าได้ ไม่มาก อุณหภิ สิบ กว่า องศา ตอน เย็นๆ ไม่ได้ เอา แจกเก็ต ไป ถ่ายรีบๆ นะครับ ภาพ ไม่คอย สวย
ชีวิต ก็ ต้อง มี ก้าว หน้า กัน ไป จนกว่า จะ พอ นะครับ วัน หนึ่ง ผม ก็ คงเป็น ได้ แบบ ท่าน ผู้ ใหญ่ หลายๆ ท่าน ที่ มี ชืวิต สงบสุข อยู่ กับ ธรรมชาติ นะครับ คงต้อง ให้ โอกาศ ตัวเอง ลุย งานต่อ อีก หน่อย ครับ ได้ อะไร ยังไง ให้ เวลา ตัวเอง หก เดือน ได้ ผลดี ลุย ต่อ ไม่ ดี ปรับ แผน ใหม่
ป้าต่าย
30 เมษายน, 2011 - 14:09
Permalink
คุณตุ้ย
ทุกคนมีเหตุผลเป็นของตนเอง...ที่สำคัญสิ่งที่เราทำ..ทำแล้วตัวเองไม่เดือดร้อน คนอื่นไม่เดือนร้อนก็ทำเถอะ...ขอให้มีสติในการทำทุกสิ่งทุกอย่าง...ขอให้มีความสุขกับสิ่งนั้นๆ และอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วย...เป็นกำลังใจให้คะ...
คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก
Tui
30 เมษายน, 2011 - 14:30
Permalink
ขอบ คุณ มากครับ ป้า ต่าย เป็น
ขอบ คุณ มากครับ ป้า ต่าย เป็น กำลัง ใจ ให้ กัน แบบนี้ อีกไม่ นาน ผม หมด หนี แน่ เลย ครับ อิอิ
เจ้โส
30 เมษายน, 2011 - 15:11
Permalink
น้องตุ้ย
ชีวิตครอบครัวจะสมบูรณ์แบบก็ต่อเมื่อมีลูก ขอบอกน้องตุ้ยว่า...การมีลูกเหนื่อยมาก ๆ แต่ในความเหนื่อยนั้นก็มีความสุขแบบหาที่ไหนไม่ได้เหมือนกัน ขอให้โชคดีทั้งเรื่องลูกและเรื่องงานนะจ๊ะ
garden_art1139@hotmail.com
Tui
30 เมษายน, 2011 - 15:26
Permalink
ขอบ คุณ สำ หรับคำ แนะ นำ ครับ
ขอบ คุณ สำ หรับคำ แนะ นำ ครับ เจ้โส ก็เตรียมใจไว้ บางแล้ว อยากได้ลูก แฝด นะครับถ้า เป็นไป ได้
งานเป็น เรื่อง ไม่ใหญ่ มาก ท่าไหร่ ถ้า อดทน ทำ ได้ ก็ ทำไปก่อน ครับ ยังไง ขอบ คุณ สำ หรับ แรงใจ ครับ
prikhom
30 เมษายน, 2011 - 15:14
Permalink
คุณตุ้ย
มาอวยพรให้ประสบผลสำเร็จทุกๆเรื่องนะคะ
Tui
30 เมษายน, 2011 - 15:27
Permalink
ขอบคุณ มาก ครับ คุณ พริกหอม
ขอบคุณ มาก ครับ คุณ พริกหอม ต้อง คอย ดู ต่อๆ กัน ไป ครับ
Slowlife
30 เมษายน, 2011 - 15:15
Permalink
คุณตุ้ย
แต่ละคนคงมีเหตุผลการกระทำหรือไม่กระทำแตกต่างกันนะคะ บางคนก็อยากลาออกมาใช้ชีวิตทำสวน ปลูกผัก บางคนก็เลือกที่จะอยู่ในระบบต่อไป อันนี้เป็นความเหมาะสมของแต่ละบุคคลแต่ละครอบครัว
คนที่คิดลาออกจากระบบแล้วมาใช้ชีวิตปลูกผัก เป็นเกษตรกร ในความคิดของ Slowlife เองนี่ เข้าใจว่าบางคนเลยวัยทำงานมาแล้ว คือทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว วัยกลางคน ลูกโตหมดแล้ว หมดภาระต้องส่งลูก ส่งบ้าน ส่งรถ หรือบางคนก็มีพื้นเพ มีสวน มีไร่อยู่แล้วอะไรแบบนี้ ก็หันกลับมาใช้ชีวิตทำเกษตร เรียกว่ามีต้นทุนเป็นเกษตรกรว่างั้นนะคะ
คำว่า "งาน" ทุกคนก็ต้องทำนะคะ ไม่มีงาน ไม่มีเงิน ชีวิตก็ลำบาก ยิ่งพอคิดจะมีทายาท ยิ่งต้องใช้ต้นทุนสูง ไม่่ว่าจะทำงานที่บ้าน ทำงานบริษัท หรือ ทำสวน ก็ล้วนแต่เป็นงานทั้งนั้น สำหรับ Slowlife แล้วอะไรขึ้นชื่อว่า "งาน" มันไม่สนุกค่ะ มันต้องรับผิดชอบ ต้องคิด ต้องทำ ต่อให้ออกไปขุดอึ่งกลางนาเวลาหน้าฝน ก็ต้องลำบาก อดตาหลับขับตานอนเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าเรารู้สึกทรมานมากน้อย หรือสนุกมากน้อยกับงาน
ไม่ว่าคุณตุ้ยจะคิดยังไง ที่สำคัญคือคุณกับเจ้ เข้าใจกันถึงความต้องการ ถึงความเหมาะสม ถ้าชีวิต take balance ระหว่างทุกข์กับสุขให้ดี ชีิวิตก็โอเคค่ะ
พิมพ์มากไปป่าวเนี่ย...บางทีก็งงๆ ว่ามันเข้าประเด็นมั้ย...ฮ่าๆๆๆ เลอะเลือนเป็นบางครั้งค่ะ
บ้านสวนพชร:เมื่อมนุษย์เงินเดือนอยากทำสวน
Tui
30 เมษายน, 2011 - 15:42
Permalink
ขอบ คุณ สำ หรับ คำตอบ และ
ขอบ คุณ สำ หรับ คำตอบ และ แนวทาง ความคิด อีก ด้าน ครับ ผมรัก งานที่ทำมาหา เงิน อยู่ นี่ นะครับ เพราะ สมัย เรียนจบ ลอง มาหลาย งานจน มาเข้า แนวงานนี่นะครับ เหมาะ กับนิสัย การวางแผน ทำงาน ของเราที่สุด ทำ แล้ว ก็ มี ความสุข ดี ไม่อึดอัด ตื่น มาก็ อยากไป ทำงาน แต่ที่อึดอัดคือ ความไม่สะดวก ทำงานร่วมกับ ผู้ อื่น และ ความกดดัน เรื่อง งาน แต่ทำ งานก็ อย่างที่คุณ ว่า ครับ ไม่มี อะไร สบาย ถ้า คิด ว่าทำ แล้ว สุขใจ ก็ ทำ พยายาม ไม่เอา ความเคลียด กลับ บ้าน ครับ
งานเกษตร นั้น ทำได้ ทำ ที่นี่เลย ครับ ทำแบบไม่ เอา เงิน นะครับ ทำ แบบเอาสนุก พอ กิน พอ ใช้ รดค่าใช้ จ่าย ขายได้ แค่พอ ได้ ทุน ก็ พอ คิด โครงการ ทำ เกษตรไว้ หลาย อย่าง แต่ อย่างที่น่าจะ เป็น ไป ได้ มากที่สุด คือ ที่พัก ในสวน บริการ แค่ แขก ระยะ สั้น แล จัด แค่ อาหารเช้า กับ ทำ ร้าน อาหารกลางวัน เล็กๆ เสาร์อาทิตย์ ก็ พอ ธุรกิจ เล็กๆ แบบนี้ คงม เงิน หนุนวนพอ ใช้ จ่ายค่า รายจ่าย ภายในสวน และใช้ จ่ายเล็ก น้อย ผมกับ เจ้ คิด กันไว้ นาน แต่ เชื่อ ไหม ครับ มี คุณ ป้า คนไทย ทำ แบบนี้ แล้ว สวนคุณ ป้า หยู่ ใน หุบ เขา ผม ไป อ่านเจอ ใน แมกกาซีน ท่อง เที่ยวที่นี่ ทึ่ง ไป เลย ว่า จะ หาโอกาศ ไป ดู งาน เขานะครับ พอ เห็น คุณ ป้าคนไทย ท่านนั้น ทำได้ เรายิ่งมีกำลังใจยาก ทำ ครับ ระยะเตรียมตัว เวลาคงไม่นานนะครับ
ทั้งนี้ ทั้ง นั้น ก็ ไม่ หัก โหม ครับ เดิน ทาง สายกลาง ค่อยเดิน ทาง แต่ก้าวย่าง อย่างมั่น คง ครับ
หน้า