ขนมสมัยก่อนที่ชื่อว่า ขนมหน้าสังขยา และ ขนมตะลุ่ม

หมวดหมู่ของบล็อก: 


    Laughing สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้น้องเก้มีเมนูขนมที่เคยกินสมัยเด็กๆ มาฝาก ถ้าจะหากินในปัจจุบันคงจะยาก เพราะไม่มีคนทำมาขาย วันนี้มีเวลาจึงมาสาธิตให้ได้ชม ชิมกัน ใครสนใจอยากจะลองทำ ล้อมวงกันเข้ามาเลยครับ



มาเริ่มกันกับของที่ต้องเตรียมทำตัวขนมก่อน มีน้ำหวาน น้ำกะทิ แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน แป้งท้าว และเกลือป่น  


 


 ส่วนนี้เป็นส่วนของหน้าขนม หรือสังขยานั่นเอง ประกอบด้วย ไข่ น้ำตาลปึก กะทิ เกลือป่น ใบเตยหอม และหอมแดงซอย



หน้าขนมที่ทำทีเดียวใช้ได้ทั้ง๒อย่างเตรียมพร้อมแล้ว


  


เริ่มจากขนมหน้าสังขยาก่อน โดยใช้แป้งข้าวเจ้ากับแป้งมันผสมกับน้ำหวาน น้ำกะทิ เกลือป่นนิดหน่อย เมื่อเสร็จแล้วนำมากรองลงถาดที่เตรียมไว้(ร้อนได้ที่แล้ว)


 


ปีดฝารางถึงนึ่งทิ้งไว้ประมาณ๒๕-๓๐นาที


 


เมื่อตัวขนมสุกแล้ว


  


นำเอาหน้าขนมมาใส่ แล้วปิดฝาทิ้งไว้อีกประมาณ๑๕นาที


 


เป็นอันเสร็จครับ สำหรับขนมที่ชื่อว่า ขนมหน้าสังขยา



ยกมาตั้งให้เย็น หน้าตาประมาณนี้ น่ากินมั๊ยครับ


+++++


 


คราวนี้มาดูการทำขนมตะลุ่มกันต่อ 



โดยใช้ทั้ง๓แป้ง อัตราส่วนเท่าๆกัน


 


ใส่น้ำกะทิ เกลื่อป่นนิดหน่อย


  


แป้งตัวขนม และหน้าขนมพร้อมแล้ว



นำถ้วยตะไลมานึ่งให้ร้อน 


 


หยอดแป้งตัวขนม แล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ๑๐นาที


  


เปิดออกแล้วหยอดหน้าขนม แล้วปิดฝาอีกทีใช้เวลาประมาณ ๕ นาที


 


ก็ได้ขนมตะลุ่มแล้วครับ 


 


ทั้งสองขนมพร้อมแล้ว เชิญชิมกันได้


 


ดูแล้วพอจะเข้าใจ และทำกันได้ไม่ยากใช่มั๊ยครับ ถ้าไม่เข้าใจถามได้.. สวัสดี 


ปล.สำหรับขนมทั้ง๒อย่างนี้ ไม่เน้นหวาน ใครไม่ทานแล้วจะเสียใจนะครับ อิอิ..

ความเห็น

ฝากบอกพี่เก้  ขอไปเรียนรู้ด้วย ๑ เดือนค่ะ

ขอให้มันแน่ จะได้แช่แป้งไว้รอ อิอิ ..จริง หรือ เล่น?

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ลองทำแลมั่งต้ะป้าเล็ก

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

กินกัน กินกัน สองอันพอ หวานนิด ๆ มันหน่อย ๆ อร่อยกำลังดี

ใช่ครับแหลงเหลยถูกเหลย หวานนิดมันหน่อย อร่อยดี นานๆกินที เบาหวานไม่มีแตะ

เอาเลยครับพี่นวล

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ท่าทางจะหอมหวานน่ากินนะ ส่งมาให้ชิมที่สวีเดนหน่อยซิน้องเก้

โห โห พี่จุ๋ม กว่าจะถึงเป็นน้ำไปก่อนแน่ๆ ส่งทางคอมก็แล้วกัน เชิญครับ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

      ขอบคุณที่เอามาให้ชมครับคุณเสิน  ขนมทั้งสองอย่างไม่ค่อยเห็นมีขายนานมาแล้วครับ  คงป็นเพราะขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากกว่าขนมอื่น

ดีใจที่เกิดมาเป็นคน  จึงเลือกที่จะทำและไม่ทำในสิ่งใดๆใด้ดีกว่า

อาจจะเป็นได้ครับ แต่คุณค่ามากกว่าขนมที่อยู่ร้านสะดวกซื้อนะครับ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

หน้า